ตอนที่522หญิงสาวเลี้ยงแกะ
ในที่สุดหัวใจของหลี่เฉินเย่นก็สงบลงเพียงแต่ว่าเรื่องของเฉินหยวนชิ่งกลับกลายเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในใจของเขา
เขาถอนหายใจออกมาและมิได้นำเรื่องราวของเฉาถังเอ่ยออกไปให้ชูเซี่ยฟังเพลานี้ร่างกายของนางอ่อนแอยิ่งนักเขามิสามารถนำเรื่องราวราชสำนักไปกวนใจนางอีก
“ฮ่องเต้เพคะข้าได้คุยกับโหรวเฟยแล้วนางรับปากว่าจะไปโน้มน้าวใจเฉินหยวนชิ่งเพคะ”เมื่อเห็นหลี่เฉินเย่นขมวดคิ้วนางจึงเอ่ยออกไป
หลี่เฉินเย่นจ้องมองชูเซี่ยอย่างตกตะลึงเนิ่นนานเขาจึงเอ่ยออกมาหนึ่งประโยค“เขาไม่สามารถรับปากได้ครานี้มิว่าจะเป็นฉองเหลาหรือว่าตำแหน่งขุนนางทางการทหารเขาก็ล้วนอยากได้ทั้งหมด”
“เฉินเย่นลืมแล้วหรือว่าจุดอ่อนของเฉินหยวนชิ่งคือเฉินอวี่โหรวขอเพียงแค่นางเอ่ยปากเขาก็จักยอมรับปากเพคะ”ชูเซี่ยแน่ใจมากขอเพียงแค่เฉินอวี่โหรวเต็มใจสุดท้ายแล้วเฉินหยวนชิ่งก็จะยอมแพ้และยิ่งไปกว่านั้นนอกจากสภาพร่างกายของตนเองแล้วเรื่องอื่นนางคงมิมีวันบอกเฉินหยวนชิ่งดอกกระมัง?
“เรื่องราวนี้พัวพันถึงผู้คนมากเกินไปหัวใจของเฉินหยวนชิ่งก็มุทะลุครั้งนี้...”หลี่เฉินเย่นส่ายศีรษะไปมาเขากำลังคิดว่าจะทำเช่นไรให้เฉินหยวนชิ่งยอมเป็นผู้นำทัพได้อย่างเต็มใจและแน่นอนว่ามิเพียงแค่ออกรบเขายังต้องรับปากว่าจะชนะในสงครามครั้งนี้
“เฉินเย่นเชื่อหม่อมฉันโหรวเฟยสามารถจัดการได้เพคะ”ชูเซี่ยเอ่ยออกมาเสียงเบาในใจของนางแน่ใจแต่กลับมิสามารถเอ่ยถึงเหตุผลออกไปได้
“ตกลงข้าเชื่อเจ้า”หลี่เฉินเย่นเอ่ยตอบรับนางเสียงเบาแต่ในใจของเขายังมิกล้าที่จะผ่อนคลายลง
จนกระทั่งลู่กงกงนำสาน์สเร่งด่วนของเฉินหยวนชิ่งวิ่งตะบึงเข้ามาส่งให้ในมือของหลี่เฉินเย่น
หลี่เฉินเย่นคิดว่าหยวนชิ่งจะต่อรองเงื่อนไขกับตนเองแต่มันกลับเป็นจดหมายตอบรับการออกรบเพียงแต่ว่าเมื่อเขาแกะออกด้านในยังมีคำขอร้องอื่นอยู่อีกเขากล่าวว่าตำหนักของโหรวเฟยว่างเปล่าฉองเหลากลับไปกับฉ่ายเวินแล้วหยวนชิ่งต้องการให้จิงโม่เข้าไปอยู่กับโหรวเฟยที่ตำหนักโหรวหยีหากทำตามเช่นนี้ก็ให้หลี่เฉินเย่นวางใจในการออกรบได้เลย
ความแปลกประหลาดใจนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหลี่เฉินเย่นไม่แน่ใจว่าสายตาของตนเองมองผิดไปหรือไม่เขาอ่านมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าในที่สุดก็รู้ว่านี่มิใช่ความฝันเขาจึงหมุนศรีษะกลับไปมองชูเซี่ยและเอ่ยถามอย่างมิกังวล“เจ้าให้สัญญาอันใดกับหยวนชิ่งใช่หรือไม่?เขารับปากว่าจะออกรบจริงดังเจ้าว่า”
“ข้ามิได้ให้สัญญาอันใดแก่เขาข้าเพียงแค่บอกโหรวเฟยว่าท่านพี่ของนางกำลังหาข้ออ้างในเวลาที่ฮ่องเต้ต้องการเขาที่สุดนางจึงโกรธเกรี้ยวและรู้สึกเป็นทุกข์นางถามเขาว่านางจักทำอันใดได้บ้างข้าจึงบอกวิธีแก่นาง”ชูเซี่ยอธิบายให้หลี่เฉินเย่นฟังด้วยรอยยิ้มที่จืดชืด
แต่ทว่าความน่าเชื่อถือในวาจาของนางนั้นมิมากพอหลี่เฉินเย่นยังคงจ้องมองนางหลังจากที่เขาจ้องมองนางเนิ่นนานเขาจึงเอ่ยออกมาอย่างอ่อนโยน“ชูเซี่ยพวกเราผ่านอันใดกันมามากมายนักมิว่าเรื่องใดเจ้าก็มิสามารถปิดบังข้าได้”
หลี่เฉินเย่นรู้สึกว่าชูเซี่ยกำลังปกปิดสิ่งที่สำคัญแก่ตนเองไว้เขารู้สึกได้แต่กลับคิดไม่ออกว่าเรื่องใดที่สำคัญเขาเอ่ยถามด้วยความกระตือรือร้นหวังว่านางจะบอกใบ้แก่ตนเองแต่ทว่าเมื่อได้ฟังหลี่เฉินเย่นนางทำเพียงแค่พยักหน้านางเอ่ยว่าตนเองมิสามารถมีเรื่องอันใดที่จะปิดบังหลี่เฉินเย่นได้
เพลาที่ชูเซี่ยเอ่ยออกมานางมองไปที่หลี่เฉินเย่นด้วยแววตาลึกซึ้งสายตาที่รุ่มร้อนของนางทำให้หลี่เฉินเย่นเชื่อว่านางจักมิโกหกตนเอง
หลี่เฉินเย่นเชื่อคำพูดของชูเซี่ยแต่กลับมิรู้ว่าเพลาที่ชูเซี่ยหลับตาลงหัวใจของนางเจ็บปวดเพียงใดหนังไม่อยากจะโกหกหลี่เฉินเย่นแต่ทว่านี่เป็นเพียงวิธีการเดียวที่นางสามารถเอ่ยโน้มน้าวโหรวเฟยและเฉินหยวนชิ่งได้
“ชูเซี่ยเราคงจะต้องส่งจิงโม่ไปที่ตำหนักโหรวหยีเฉินหยวนชิ่งเอ่ยว่ามิวางใจให้โหรวเฟยอยู่ตำหนักตนเองเพียงผู้เดียวเขาอยากให้จิงโม่ไปอยู่เป็นเพื่อนนาง”หลี่เฉินเย่นเอ่ยออกมาเสียงเบา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...