ตอนที่530ลางสังหรณ์ของหลี่ซี่
หลังจากเสวยอาหารค่ำเสร็จผู้คนในครอบครัวก็นอนชมดาวอยู่ที่ลานกว้างของตำหนักฉ่ายเหว่ย
ถึงแม้ฤดูหนาวจะหนาวเหน็บแต่แสงของดวงจันทร์ทำให้ทิวทัศน์งดงามเป็นพิเศษ
ผู้คนทั้งสี่คนในครอบครัวกำลังพูดคุยกันถึงสารทุกข์สุกดิบต่างๆทั้งการก่อเรื่องของจิงโม่การกินของฉองเหลาและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาห้าวันที่ตนเองสลบไสล
ชูเซี่ยชื่นชอบค่ำคืนอันแสนสุขเช่นนี้ถึงแม้ว่าจะต้องขึ้นไปอยู่บนดวงจันทร์นางก็ไม่ยอมที่จะทิ้งบุตรทั้งสองให้ห่างจากกาย
“ชูเซี่ยดึกมากแล้วให้ลูกลูกกลับไปก่อนเถิดรอให้ภายหลังมีโอกาสข้าจะไปรับพวกเขามาที่นี่”เหตุใดหลี่เฉินเย่นมิรู้เลยว่าชูเซี่ยอดไม่ได้ที่จะออกห่างจากลูกลูกเขาเอ่ยออกมาได้อย่างง่ายดายแต่หัวใจกลับเต็มไปด้วยถ้อยคำขออภัย
“สายถึงเพียงนี้แล้วหรือ”ชูเซี่ยรู้ว่ามันดึกแล้วเพียงแต่ว่านางอยากจะเห็นแก่ตัวนางมิอยากให้พวกเขาห่างจากตนเองพวกเขาล้วนเป็นผู้ที่สำคัญที่สุดในชีวิตเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตนแต่ทว่าและเพลานี้ผู้ที่ลงนามรับเลี้ยงพวกเขามิใช่ตนเองและนอกจากนี้ชายที่นางรักอย่างสุดหัวใจก็คือกษัตริย์ของประเทศแห่งนี้
หัวใจของนางเจ็บปวดถึงแม้ว่าตัดใจไม่ลงนางก็จำเป็นจะต้องปล่อยมือ
“ถ้าเช่นนั้นก็ให้คนไปส่งพวกเขากลับไปเถิด”ชูเซี่ยเอยออกมาเสียงเบานางมิอยากจะหันไปมองบุตรทั้งสองอีกถึงแม้ว่าหัวสมองสั่งว่าพวกเขาจะต้องกลับไปแต่ทว่าเพียงแค่นางมองพวกเขาอีกเพียงหนเดียวนางก็จะทนไม่ได้
ชูเซี่ยเชื่อใจหลี่เฉินเย่นนางเชื่อว่าจะมีสักวันที่บุตรของนางจะกลับมาแต่ทว่านางไม่รู้ว่าร่างกายของตนเองยังจะสามารถยืนหยัดถึงวันนั้นหรือไม่แต่บางที...คงจะเป็นไปไม่ได้
“ท่านแม่แท้จริงแล้วการอยู่ที่ตำหนักฉ่ายเหว่ยมิดีสักนิดสิ่งนี้พระองค์ก็มิให้ลูกทำสิ่งนั้นก็มิให้ลูกทำมิสู้การที่ลูกอยู่กบหรูกุ้ยเฟยยังดีเสียกว่านางดีต่อลูกมาก”ฉองเหลาเอ่ยออกมาแต่เขากลับมิกล้าบอกว่าแท้จริงแล้วในใจของเขายอมที่จะถูกชูเซี่ยควบคุมอยู่ที่นี่
“จริงด้วยเพคะหากจะต้องเฝ้าดูพระองค์ทั้งสองหวานราวกับน้ำผึ้งหม่อมฉันอยู่ที่ตำหนักของโหรวเฟยยังเป็นสุขกว่าลูกมิอยู่ที่นี่พระองค์ก็จะได้มีเวลาให้กันรีบให้กำเนิดน้องชายเล็กของลูกออกมาเถิดเพคะเมื่อถึงเวลานั้นลูกจะดูแลเขาเอง”จิงโม่เอ่ยกำชับด้วยสีหน้าที่มิวางใจ
“ผู้เยาว์เช่นข้าเป็นห่วงเสียจริงเป็นห่วงทั้งชีวิตเลยนะเพคะ”เมื่อเห็นว่าใบหน้าที่มัวหมองของชูเซี่ยค่อยค่อยเลือนหายไปก็อดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา
“จิงโม่ความกังวลใจทั้งชีวิตของเจ้ามีจำกัดเพลานี้เจ้ากังวลใจแล้วต่อไปก็หาคู่ครองที่ดีเถิดมิต้องกังวลใจอันใดอีกเจ้าได้กำไรแล้วตกลงหรือไม่?”หลักการของฉองเหลาไม่ได้น้อยไปกว่าจิงโม่เมื่อเอ่ยออกมาเต็มไปด้วยเหตุผล
“ฉองเหลาเจ้าหมายถึงว่าเพลานี้ที่ท่านแม่เป็นกังวลเช่นนี้เป็นเพราะว่าในวัยเด็กมิมีความกังวลใจหรือ?ท่านแม่ท่านแม่เข้าใจความหมายของหรือไม่เพคะ?เขาหมายถึงว่าในวัยเด็กท่านแม่มิมีสิ่งใดต้องกังวนใจทั้งวันนอกจากกินแล้วก็นอนดังนั้น...”
“จิงโม่ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้นเสียหน่อยมิว่าเมื่อใดท่านแม่ก็เป็นท่านแม่ที่ดีที่สุดพระองค์ไม่ได้กินแล้วก็นอนเจ้า...”หลังจากเอ่ยประโยคนี้จบเขาก็วิ่งไล่จิงโม่จิงโม่วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วนางวิ่งออกไปไกลแต่ยังหมุนศรีษะกลับมาตะโกน“มาสิๆเจ้าจับข้ามิได้ดอก”
เมื่อมองไปที่บุตรทั้งสองที่วิ่งไล่ตามกันดวงใจของชูเซี่ยก็อบอุ่นในบ้านหลังนี้การที่สามารถมองเห็นความสุขเช่นนี้คือพรของเด็กทั้งสอง
เพียงแต่ชูเซี่ยคิดไม่ถึงว่าเมื่อเด็กทั้งสองวิ่งออกไปพวกเขาจะไม่กลับมาอีกแล้วพวกเขาตัดใจไม่ได้ที่จะให้คนส่งพวกเขาออกไปดังนั้นพวกเขาจึงใช้วิธีของตนเพื่อออกไปจากนาง
เมื่อพวกเขามิกลับมาเวินจึงเข้าใจในความตั้งใจของพวกเขาผ่านหัวสมองของนางก็มีคำว่า’เสื้อสีบันเทิง’สี่คำปรากฏขึ้นมา
ความสุขเช่นนี้ทำให้ผู้คนอาลัยอาวรณ์
“ชูเซี่ยต่อไป...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...