ตอนที่ 553 กลับชนบท
เป็นถึงเจ้าสำนักชูเซี่ย ฆ่าเด็กที่ยังไม่ได้เกิดออกมาไปหนึ่งคน ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
นอกเสียจากเด็กคนนั้นจะเป็นรัชทายาท
แต่ว่าตอนนี้ ฝ่าบาทและชูเซี่ยต่างก็พูดว่าเด็กคนนั้นไม่ได้เป็นรัชทายาท......
เหลียงกุยสีหน้าไม่สู้ดีนัก แต่ก็ได้พูดขึ้นว่า “ฝ่าบาทช่างเปี่ยมไปด้วยความรักเสียจริง เพื่อปกป้องชูเซี่ย ยอมสละแม้กระทั่งลูกของตน”
“หากเป็นลูกของข้าจริง ข้าเก็บไว้แน่นอน แต่นี่ไม่ใช่ลูกของข้า ข้าจะเก็บไว้ทำไมกัน ท่านไม่รู้สึกว่าเหลียงกุ้ยเฟยและชูเซี่ยท้องในเวลาที่ไล่เลี่ยกันรึ ข้าจะไปร่วมรักกับเหลียงเฟยไปทำไมกัน เพราะหล่อนเป็นลูกสาวของจางเซียนฮุยงั้นรึ หรือหล่อนวางยาข้าล่ะ แม้ชูเซี่ยไม่อยู่ในวังข้าก็สามารถรักษาพรหมจรรย์เพื่อเธอได้ ตอนนี้เธออยู่ในวัง ข้าจะไปร่วมรักกับหญิงอื่นได้อย่างไร ใต้เท้าเหลียงอาจไม่เคยรักใครจริงๆจังๆ จึงไม่รู้ว่าความรักจริงๆมันเป็นเช่นใด ดังนั้นจึงตัดสินเอาเองว่า เด็กคนนั้นน่าจะเป็นของข้า”
หลี่เฉินเย่นอธิบายอย่างอารมณ์ดี เขาอยากเห็นสีหน้าของเหลียงกุยที่เปลี่ยนไปในตอนนี้ เขาต้องการให้ทุกคนรู้ในความรักที่ตนมีต่อชูเซี่ย ว่าไม่ได้รักแค่ผิวเผินอย่างที่พวกเขาคิด
ในใจลึกๆของเขานั้น ความรักก็คือเจ้าคือหนึ่งเดียวของข้า
หากมีหนึ่งเดียวนั้นแล้ว คนอื่นก็เป็นเพียงสิ่งประดับ
ความจริง ตอนที่บอกว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่รัชทายาทนั้น ในใจของเหลียงกุยก็ยังคาดหวังเล็กๆ แต่เมื่อหลี่เฉินเย่นอธิบายแล้ว เขารู้สึกทันทีว่า ความรักและตามใจที่เขามีต่อหลันกุ้ยเฟยลูกสาวของตนนั้นล้วนไม่ใช่ความจริง
“ฝ่าบาท ท่านพูดอะไรเยี้ยงนี้ ท่านไม่เพียงแต่ร่วมรักกับเหลียงเฟยแล้ว ท่านยังคอยตามใจหลันกุ้ยเฟยอยู่เรื่อย นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนต่างก็รู้ดี” เหลียงกุยยังอยากแก้ต่างให้ตัวเอง ราวกับว่ามีเพียงหลี่เฉินเย่นที่ไม่เคยซื่อสัตย์ต่อชูเซี่ย และเด็กที่แท้งไปนั้นเป็นของชูเซี่ยยังไงอย่างงั้น
“หลันกุ้ยเฟย นี่เป็นบิดาของเจ้า เจ้าบอกเขาสิ ว่าข้ารักและตามใจเจ้าจริงๆรึ” หลี่เฉินเย่นหันไปถามหลันกุ้ยเฟยที่นั่งอยู่ข้างๆตนอย่างอ่อนน้อม
หลันกุ้ยเฟยมองหลี่เฉินเย่นอย่างอายๆหนึ่งที และแสดงอารมร์ความรู้สึกที่มีออกมา ท่าทีลักษณะนี้ทำให้เหลียงกุยรู้สึกมีหวังขึ้นมาอีกครั้ง
เขารู้สึกว่าหากมีความรู้สึกอย่างนี้ ลูกสาวของตนและฝ่าบาทยังไงก็ต้องมีความรู้สึกรักกัน
แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อหลันกุ้ยเฟยเริ่มพูดนั้น กลับมีแต่คำพูดสิ้นหวัง หลันกุ้ยเฟยพูดว่า “ฝ่าบาทเคยทรงรักและทรงตามใจข้าเมื่อไหร่กัน ข้าน้อยเป็นเพียงป้ายหลอกตาเท่านั้น เป็นเพียงป้ายหลอกตาที่ให้ท่านได้อยู่กับชูเซี่ย”
คำพูดของหลันกุ้ยเฟยทำให้เหลียงกุยชะงัก เขามองดูลูกสาวของตัวเอง แทบไม่กล้าที่จะเชื่อหูของตัวเอง
“ลูกสาว เจ้าพูดอะไรนะ ก่อนหน้านี้เจ้าพูดกับพ่ออย่างไร อนาคตของเจ้า อนาคตของตระกูลเหลียงเรา หากไม่มีความรักและการตามใจของฝ่าบาท เจ้าจะให้สัญญาแบบนั้นกับข้าทำไมกัน เจ้ารู้หรือไม่ ที่พ่อทำเพื่อเจ้าทั้งหมดนี้ ล้วนตั้งอยู่บนความรัก การตามใจ และความชอบที่ฝ่าบาทมีต่อเจ้า หากเจ้าไม่มีแม้แต่สิทธิ์ที่จะให้กำเนิดรัชทายาท ข้าจะเชื่อมเจ้ากับอนาคตตระกูลเหลียงเราไว้ด้วยกันทำไมกัน เจ้า......”
เหลียงกุยโมโหอย่างมาก เขาตำหนิหลันกุ้ยเฟยเสียงดัง ดวงตาเต็มไปด้วยไฟแห่งโทสะ
หลันกุ้ยเฟยเพียงแต่มองดูเหลียงกุยด้วยรอยยิ้มจางๆ มองดูเขาคุยกับตนอย่างบ้าคลั่ง สีหน้านิ่งเฉย ราวกับว่าเหลียงกุยเป็นคนนอกยังไงอย่างงั้น
“เจ้า...... เจ้า......”
เหลียงกุยโกรธจนพูดอะไรไม่ออก ตอนนี้เขาพูดอะไรได้อีกล่ะ ตอนนั้นตนทำเพื่อลูกสาวของตน หักหลังจางเซียนฮุยไป เขาคิดว่าถ้าทำอย่างนี้ก็จะสามารถทำให้ตระกูลเหลียงรุ่งโรจน์ต่อไป แต่คิดไม่ถึงว่า กรรมตามมาเร็วเสียจริง
ไม่เพียงแต่จางเซียนฮุยเท่านั้น เขาไม่ควรเชื่อใจลูกสาว แล้วยุติความสัมพันธ์กับหลี่อวิ๋นลี่ลง หากตนสามารถช่วยหลี่อวิ๋นลี่ชิงราชบัลลังก์มาได้ ถึงตอนนั้นตนก็แค่ต้องอยู่ภายใต้คนหนึ่งคนและอยู่เหนือคนนับหมื่น
แต่ว่าตอนนี้......
“ฝ่าบาท ข้าน้อยยังมีหลักฐานอีกอย่าง เพื่อพิสูจน์จุดเริ่มต้นและจุดจบของเรื่องนี้ ว่ามันไม่ได้เป็นไปตามที่ใต้เท้าเหลียงพูด เจ้าสำนักชูเซี่ยถูกกล่าวหาแล้วล่ะ” หลันกุ้ยเฟยเห็นเหลียงกุยหยุดพูดในที่สุด เธอพูดขึ้นอย่างช้าๆ แต่คำพูดเหล่านั้นกลับทำให้เหลียงกุยผิดหวังอย่างยิ่ง
เพิ่งรู้ความจริงที่ว่าถูกลูกสาวหลอก ตอนนี้เธอก็เล็งมาที่ตนอีกแล้ว มันช่าง......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...