ตอนที่ 557 หลางฟงติ่งผู้ผิดแปลก
ตอนที่หลี่เฉินเย่นมาถึงพระตำหนักฉ่ายเหว่ยนั้น ชูเซี่ยได้นอนหลับไปแล้ว แต่หน้าของเธอซีดอย่างประหลาด ใต้แสงไหสลัวนั้นซีดเซียวราวกับกระดาษสีขาว
“ว่านสู่น เกิดอะไรขึ้นใช่หรือไม่ ทำไมสีหน้าของเจ้าสำนักพวกเจ้าไม่สู้ดีอย่างนี้” หลี่เฉินเย่นถามอย่างร้อนรน
“ฝ่าบาท เจ้าสำนักไม่ได้เป็นอะไร หลังจากที่ท่านออกไปเธอเพียงแต่จัดยาเล็กน้อย จากนั้นก็นอนหลับไป ตอนหลับไปนั้นสีหน้าก็ยังปกติดี” ขณะที่ว่านสู่นอธิบายนั้นก็ได้มองไปทางชูเซี่ยด้วย พริบตาเดียวที่ได้เห็นชูเซี่ยนั้น ทำให้ว่านสู่นพลันเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด
นอกเสียจากการเสียเลือด ไม่มีเรื่องไหนที่ทำให้ชูเซี่ยสีหน้าไม่สู้ดีอย่างนี้ แต่เจ้าสำนักเคยสั่งไว้ว่า เรื่องที่ให้ตนนำเลือดไปส่งให้กองทัพเก้อโจวนั้น ห้ามบอกใครเด็ดขาด
“ว่านสู่น มีเรื่องอะไร เจ้าอย่าปิดบังข้าจะดีกว่า” หลี่เฉินเย่นพูดกับว่านสู่น เพื่อเป็นการเตือน จากนั้นก็ขึ้นไปนอนบนเตียง ค่อยๆโอบร่างของชูเซี่ยไว้
หลายวันมานี้หล่อนผอมไปมากดีเลย ช่วงก่อนเพิ่งมีความรู้สึกว่าหล่อนมีน้ำมีนวลขึ้น แต่ตอนนี้ก็ผอมลงอีกแล้ว ในอ้อมกอดนั้น รู้สึกได้ถึงความอ่อนนุ่ม ทำให้หัวใจของหลี่เฉินเย่นรู้สึกได้แต่ความเย็น
ในอ้อมกอดมีผู้หญิงที่ตนรัก ช่างอิ่มอกอิ่มใจเหลือเกิน แต่หลี่เฉินเย่นรู้ดีว่า ความอิ่มอกอิ่มใจนี้ ตนอาจไม่มีสิทธิ์ครอบครองอีกแล้วล่ะ
คำพูดของจูฟางหยวนทำให้เขาเริ่มสับสน การมีชีวิตอยู่ยากกว่าการตายจากไป เขาควรรับผิดชอบกับสิ่งที่ยากกว่ามากกว่า
แต่ในเมื่อถูกกำหนดไว้แล้วว่าตนต้องอยู่คนเดียวอย่างเดียวดาย แล้วเขาต้องรับมือกับความพยายามของชูเซี่ยที่สละด้วยชีวิตตัวเองล่ะ
นี่เป็นอีกคืนที่ปกติ การกอดคนรักที่พร้อมจะจากไปตลอดเวลา ในใจของหลี่เฉินเย่นมีความคิดเห็นแก่ตัวผุดขึ้นมากมาย เขาอยากซ่อนชูเซี่ยไว้อย่างเห็นแก่ตัว โลกใบนี้กว้างใหญ่ยิ่งนัก มีผู้คนมากล้น ทำไมคนที่ต้องสละชีวิตตัวเองต้องเป็นคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจด้วย
ความเป็นความตายของคนอื่นมีความเกี่ยวข้องกับตนเองที่ไหนกัน เขาสนใจเพียงความเป็นความตายของชูเซี่ยเท่านั้น
“ว่านสู่น ให้อาหมั่นมาสักครั้งเถอะ” ในที่สุดหลี่เฉินเย่นก็ลุกจากชูเซี่ย และหาว่านสู่นที่เฝ้าอยู่ข้างนอกจนพบ แล้วด้วยอย่างร้อนรน
“ฝ่าบาท ท่านคิดเรื่องฉุกเฉินอะไรออกหรือว่า...... หรือท่านเจ้าสำนักไม่ต้องตายแล้ว” ว่านสู่นมองหลี่เฉินเย่นด้วยความดีใจ ความดีอกดีใจนี้ซ่อนยังไงก็ซ่อนไว้ไม่อยู่
หลี่เฉินเย่นผงกหัว พยายามปิดบังความขมขื่นของตนเอาไว้ ความจริงแล้ว ว่านสู่นพวกเขาต่างรอให้ตนปล่อยชูเซี่ยไป
คิดไม่ถึงว่าตนเองที่เป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวที่สุดคนนั้น
อาหมั่นมาถึงอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นหลี่เฉินเย่น เขาคำนับตามมารยาท จากนั้นถามขึ้นว่า “เจ้าสำนักของพวกข้าเป็นอย่างไรบ้าง”
“ตอนนี้ร่างกายของเธอไม่สู้ดีนัก ที่ข้าให้เจ้ามานี้ เพราะต้องการให้เจ้าพาชูเซี่ยออกไปแทนข้า ไปต้าโจวหรือจื่อสวี้ก็ได้”
หลี่เฉินเย่นพูดจบก็จ้องไปที่อาหมั่น เขารู้จักฝีมือของพรรคมังกรเหินดี เขารู้ว่าอาหมั่นมีความสามารถนี้ และรู้อีกว่าเขายอมพาเธอออกไป
แต่เขาคิดไม่ถึงว่าอาหมั่นจะส่ายหน้า อาหมั่นไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่หยิบจดหมายจากแขนเสื้อมาหนึ่งฉบับ หลี่เฉินเย่นจำรายมือนั้นได้ เป็นของชูเซี่ยเอง
หลี่เฉินเย่นรับจดหมายมาและอ่านอยู่พักใหญ่ จึงค่อยๆพับจดหมายนั้นและส่งคืนอาหมั่นไป และถามว่า “เจ้าไม่เคยคิดจะฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าสำนักพวกเจ้าเลยรึ เพราะนี่มันเกี่ยวโยงกับชีวิตของเธอ”
“ฝ่าบาท ชูเซี่ยทำเพื่อเหล่าปวงชน เพื่ออานาจตำแหน่งของฝ่าบาท ยอมสละชีวติเพื่ออานาจตำแหน่งของฝ่าบาท ข้าเห็นด้วยกับการตัดสินใจของชูเซี่ยเป็นอย่างมาก” อาหมั่นพูดจบพลันถอนหายใจหนึ่งเฮือก จากนั้นน้ำตาไหลพราก
“แต่ว่า......”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...