ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 559

ตอนที่ 559 ระหว่างข้ากับชูเซี่ยเจ้าจะเลือกใคร

ตอนที่ว่านเหลียงได้สติว่าถูกอ๋องจิ่วพาเข้าไปในคลอง อ๋องจิ่วได้จากไปแล้ว แถมไปพร้อมภาพสเก็ตที่เธอวาดอย่างลำบาก

“ไอ้ผู้ชายน่ารังเกียจ ทำแผนของเจ้าสำนักเสีย เจอเจ้าสำนักเมื่อไหร่ข้าจะฟ้องให้หมด ให้เจ้าสำนักจัดการกับเจ้า” ว่านเหลียงพูดจบ ก็ออกไปสำรวจสถานการณ์ข้างนอกต่อ สองสามวันมานี้เธออารมณ์ดีเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นผู้คนที่เดิมทีเดินกันอย่างเป็นระเบียบแต่ตอนนี้กลับเดินกันวุ่นวาย และมีคนบางส่วนที่กำลังแอบวางแผนสำหรับอนาคต และแน่นอนว่าสิ่งที่เธอเหตุบ่อยที่สุดก็คือเหตุการณ์ที่วุ่นวายจนไก่หมากระเจิง

เมื่อเทียบกับความหวาดกลัวของพวกเขาแล้ว ว่านเหลียงผู้เต็มไปด้วยความหวังเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกเหนือกว่า ยิ่งไปกว่านั้นคือ เธอถึงขึ้นไปช่วยคนอื่นเก็บข้าวของ

เธอคิดไม่ถึงว่าความเสรีภาพและความรู้สึกภาคภูมิใจของตนจะตกอยู่ในสายตาของหลี่อวิ๋นลี่ หลี่อวิ๋นลี่ในวันนี้ สีหน้าผ่องใสมาก แน่นอนว่า ความผ่องใสนั้นเป็นผลมาจากแป้งบนหน้า แป้งขาวที่ทาบนหน้าชั้นแล้วชั้นเล่า แม้จะเป็นชายบ้าบิ่นก็ต้องขาวขึ้น นับประสาอะไรกับอ๋องจิ่วที่มีผิวพรรณขาวใสอยู่แล้ว

อ๋องจิ่วสวมกี่เพ้าสีม่วงเข้ม และแต่งหน้าที่จัดกว่าผู้หญิง มองดูว่านเหลียงที่กำลังยิ้มด้วยรอยยิ้ม

“เจ้ามีความสุขมากรึ ทำไมล่ะ เจ้าไม่รู้หรือว่า หากหลางฟงติ่งถูกโจมตี อาอ๋องจิ่วก็ต้องตายเหมือนกัน” เขารู้ว่าอาอ๋องจิ่วแคร์ผู้หญิงคนนี้มาก ดังนั้นเขาคิดว่าคำพูดขู่ของตน อาอ๋องจิ่วต้องบอกว่านเหลียงด้วย

“บางคนต้องการมีชีวิตอยู่ บางคนต้องการตายจากไป ที่ข้าดีใจอาจเป็นเพราะว่าข้าต้องตายแล้ว อยู่ที่หลางฟงติ่งต้องใช้ชีวิตอย่างไร ข้าอดทนพอแล้วล่ะ การตายเป็นการหลุดพ้นที่ดีที่สุดแล้วล่ะ” ต่อหน้าหลี่อวิ๋นลี่ ว่านเหลียงพยายามทำตัวเองให้ดูน่าเชื่อถือ แต่สิ่งที่พูดออกไปนั้น กลับทำให้คนยากที่จะเชื่อ

“เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินว่ามีคนอยากตาย ข้าอยากจะสนองเจ้าเสียตอนนี้เลยจริงๆ” หลี่อวิ๋นลี่พูดกับว่านเหลียงด้วยรอยยิ้ม ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยสังเกตเห็นเลยว่า ผู้หญิงของอาอ๋องคนนี้ไม่เพียงแต่สวยเท่านั้น แถมยังน่าสนใจอีกต่างหาก

“มันคงจะเป็นไปไม่ได้ อ๋องจิ่วบอกแล้วว่า เราจะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกัน เจ้าต้องถามเขาก่อนว่าอยากตายหรือไม่” ว่านเหลียงตกใจกับคำพูดของหลี่อวิ๋นลี่ เธอจึงรีบยกอ๋องจิ่วมาพูด ถึงแม้จะไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างหลี่อวิ๋นลี่และอ๋องจิ่ว แต่เธอก็รู้สึกว่าหลี่อวิ๋นลี่มีความเกรงกลัวอ๋องจิ่วอยู่เหมือนกัน

ดังนั้น ณ ตอนนี้อ๋องจิ่วกลายเป็นข้ออ้างที่ดีที่สุด

หลี่อวิ๋นลี่มองว่านเหลียงด้วยรอยยิ้ม และพูดด้วยเสียงเบาว่า “อาอ๋องน่าจะยังไม่อยากตาย ดังนั้นเจ้าอย่าดีใจไปเลย ท่าทางดีอกดีใจของเจ้านี้ ทำให้ข้ารู้สึกว่าเจ้าเป็นศัตรูของข้า”

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าช่างน่าสงสารเสียจริง วันนั้นแคว้นเหลียงมีคนมากมายที่มีความสุข หากการที่พวกเขามีความสุขทำให้เจ้ารู้สึกรำคาญใจ ถ้าอย่างนั้นเจ้าต้องขาดใจตายแล้วล่ะ” ว่านเหลียงพูดเตือนหลี่อวิ๋นลี่อย่างจริงจัง หลี่อวิ๋นลี่มองดูว่านเหลียง และเข้าไปใกล้ว่านเหลียงอย่างกะทันหัน โน้มตัวลง ยื่นปากไปข้างๆหูว่านเหลียงและพูดด้วยเสียงนุ่มนวลว่า “ตอนนี้เมืองเก้อโจวและเมืองหลวงโรคระบาดทั่วเมือง เจ้าก็คงหนีไม่รอดเหมือนกัน”

“ข้าได้ยินมาตั้งนานแล้วว่าไม่มีอะไรที่กบฏอย่างหลี่อวิ๋นลี่ทำไม่ได้ ตอนนี้สามารถแพร่กระกายได้แม้กระทั่งโรคระบาด ช่าง......” ว่านเหลียงหัวเราะ แต่คิดไม่ถึงว่า ขณะที่หลี่อวิ๋นลี่เข้าใกล้ตนนั้น ยาพิษได้เข้าสู่ร่างกายของเธอผ่านรูจมูกแล้ว

“ข้ามีความสามารถนี้ ในเมื่อเจ้าอยากตาย ข้าก็จะสนองเจ้า อาอ๋องชอบเจ้ามาก คิดว่าน่าจะช่วยเจ้าหายาแก้พิษได้ ข้าเตือนเจ้าตรงนี้เลย ยาแก้พิษหาได้ง่าย แต่มันคือเลือดของชูเซี่ย ตอนนี้ทั้งในเมืองหลวงและเมืองเก้อโจว รวมถึงกองทัพที่อยู่เขตชายแดนต่างถูกยาพิษแล้ว ชูเซี่ยคนเดียวไม่สามารถช่วยทุกคนได้หรอก แต่หากเป็นเจ้า คิดว่าชูเซี่ยน่าจะยอม เพราะความสัมพันธ์ระหว่างชูเซี่ยและอ๋องจิ่วไม่ธรรมดา แต่ไม่รู้ว่า ระหว่างเจ้าและชูเซี่ย อ๋องจิ่วจะเลือกใคร ข้านี่มันนักยอดฝีมือจริงๆ สามารถหาข้อสอบปรนัยที่ยากอยางนี้ได้” หลี่อวิ๋นลี่พูดเองเออเอง พูดจบใบหน้ามีแต่รอยยิ้มอันบ้าบิ่น

“เจ้านี่มันโหดร้ายเสียจริง หลี่อวิ๋นลี่ เวรกรรมต้องตามสนองเจ้าเป็นแน่แท้” ว่านเหลียงเห็นหลี่อวิ๋นลี่จากไปอย่างโอหัง สีหน้าที่มากกว่าความรู้สึกตกใจคือความโกรธเคือง เธอมองเงาด้านหลังของหลี่อวิ๋นลี่ด้วยสายตาที่โหดเหี้ยมและพร้อมกับตะโกนออกไป เพียงแต่ไม่มีใครรู้เลยว่า ใจของเธอในตอนนี้หวาดหวั่นไปหมดแล้ว.......

“จะถูกหรือไม่ถูกกรรมตามสนองนั่นมันเป็นเรื่องของข้า แต่เจ้าสามารถมีชีวิตต่ออีกหรือไม่ นั่นเป็นเรื่องของอาอ๋องแล้วล่ะ อาอ๋องของข้าเคยชอบชูเซี่ยมาก แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาชอบเธอมากกว่าหรือชอบชูเซี่ยมากกวั่น” หน้าของหลี่อวิ๋นลี่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่โหดร้าย รอยยิ้มนั้นเปรียบเสมือนสายลมที่เยือกเย็นที่สุดในฤดูหนาว พัดความอบอุ่นในใจว่านเหลียงออกไปในพริบตา ว่านเหลียงรู้สึกว่าตนหนาวยิ่งนัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า