ตอนที่600สงครามฝีปาก
“เขามีผัวเจ้าแล้วหลังจากเงียบไปเนินนานก็ได้ยินเอ่ยออกมาเสียงเบาเพียงแต่ว่าเมื่อได้ยินว่าเจ้าของน้ำตาของนางก็กลับไหลลงมายิ่งกว่าเดิม
เพราะว่าคำขอโทษในใจเพราะคำว่าข้ามิโทษเจ้าทำให้ขอบเขตกว้างขึ้น
“โหรวเจียถ้าหากครั้งหน้ามีโอกาสข้าจะชดใช้ให้เจ้าข้า....”จิงโม่ร่ำไห้พลางหมุนตัวนางหันไปกำชับกับเหล่าองครักษ์“อุ้มแม่นางโจวโหรวเจียขึ้นมาแล้ววางไว้ที่บัลลังก์ด้านบนสุด
ตั้งแต่ต้นจนจบจิงโม่ไม่แม้แต่จะหันมองไปทางโจวโหรวเจียนางเกรงว่าว่าตนเองจักใจอ่อนเกรงว่าตนเองจักระงับความละอายใจไว้ไม่ได้
“เพียงแต่ว่าเพลาที่โจวโหรวเจียถูกนำตัวไปจิงโม่เอ่ยออกมาหนึ่งประโยค“เจ้าวางใจเถิดเหล่าทหารของต้าเหลียงจะมิทำร้ายเจ้าถึงชีวิตเพียงแต่ถ้าหากว่าท่านพ่อของเจ้าเลือก....”
“ข้ารู้ขอบใจมาก”ความทุกข์ยากจักทำให้คนเจริญเติบโตเด็กหญิงที่ร่ำไห้สะอึกสะอื้นเพราะขาอ่อนแรงเมื่อครู่นี้ในเพลานี้กลับมีใบหน้าที่สงบเมื่อได้ยินวาจาของจิงโม่ก็ไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณ
ถ้าหากมีคำรับรองของจิงโม่เช่นนี้อย่างน้อยที่สุดชีวิตของนางครึ่งหนึ่งก็ปลอดภัย
โจวโหรวเจียยอมรับโชคชะตาที่จะถูกคนนำพาตัวไปบนฐานที่ตั้งสูงร่างกายผอมบางของนางถูกมัดไว้นางรับสายลมเย็นที่พัดอิสระอย่างสงบมิมีน้ำตามิมีการร่ำไห้นางจิตใจสงบราวกับคนสูงวัยที่ได้ผ่านลมมรสุมที่มากมาย
ยามที่โจวโหรวเจียถูกนำตัวไปไว้บนแท่นสูงการรบราฆ่าฟันของทั้งสองฝ่ายก็สงบลงในทันที
“ให้เจ้าเมืองของพวกเจ้ามาเจรจากับข้ามิเช่นนั้นข้าจะสังหารบุตรสาวของเขา”เพลานี้จิงโม่ถูกหลีฉางอันอุ้มขึ้นไว้ในอกอีกครั้งน้ำเสียงที่นางเอ่ยออกมามิดังนักคำพูดของนางเพิ่งเอ่ยจบนายทหารต้าเหลียงก็หยิบแตรขึ้นมาและนำวาจาของนางป่าวประกาศให้เหล่าองครักษ์และทหารที่ในเมืองฟัง
“บอกท่านพ่อว่ามิต้องกังวลความเป็นตายของข้าการที่ถูกคนจับมาเป็นเพราะข้าโง่เง่าเองพวกเจ้ามิต้องสนใจข้า”โจวโหรวเจียก็ได้ยินวาจาที่จิงโม่ให้คนเผยแพร่ออกไปสีหน้าของนางเย็นเฉียบนางกรีดร้องตะโกนบอกกับทหารบนกำแพงเมือง
อย่างไรเสียโจวโหรวเจียก็เป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่งวาจาของนางมิได้ถูกเผยแพร่ออกไปน้ำเสียงที่แข็งแกร่งนั้นถูกพัดพาไปกับสายลมเหลือไว้เพียงกลิ่นอายของความแห้งเหี่ยว
โจวโหรวเจียมิคิดว่าเมื่อถึงเพลานี้แม้แต่คำพูดของตนเองก็ไม่มีวิธีที่จะส่งผ่านไปให้ท่านพ่อฟัง
เมื่อคิดถึงว่าท่านพ่อผู้ที่รักใคร่ตนเองจักต้องยอมประนีประนอมเพราะตนเองถูกจับน้ำตาของโจวโหรวเจียก็ไหลลงมายังไม่อาจควบคุม
นางหวังว่าท่านพ่อจากมิยอมแพ้แต่ทว่านางก็กลัวกลัวว่าตนเองจะต้องตายกลัวว่าท่านพ่อจะทอดทิ้งตนเอง
แต่ทว่าจิงโม่กลับยิ้มและจ้องมองไปยังกำแพงเมืองเจ้าของเมืองมีสิทธิ์ตัดสินว่าจะเปิดหรือปิดประตูเมืองเพียงแต่ว่านางมิรู้ว่าโจวโหรวเจียจะทำให้เจ้าเมืองยอมประนีประนอมหรือไม่แต่ทว่าถึงแม้เจ้าเมืองมิประนีประนอมการได้ทำให้แคว้นจื่อสวี้สั่นคลอนก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี
“วางใจเถิดถึงแม้ว่ามิมีโจวโหรวเจียวันนี้พวกข้าก็จะเผชิญหน้ากับเมืองซ่างลี่และมุ่งมั่นที่จะชนะ”ราวกับว่าหลีฉางอันเห็นถึงความกังวลของจิงโม่เขาจึงเอ่ยออกมาเสียงเบา
จิงโม่จ้องมองไปที่ชายสูงวัยที่จ้องมองตนเองอย่างอ่อนโยนนางยิ้มพลางพยักหน้าหลังจากนั้นจึงเอ่ย“ข้ารู้”
การมาถึงของเจ้าเมืองเมืองซ่างลี่รวดเร็วกว่าที่จิงโม่คิดไว้มากนักเขาเพิ่งจะมาถึงกำแพงเมืองก็มองเห็นโจวโหรวเจียที่ถูกมัดไว้บนแท่นสูงสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมากเขาตะโกนมายังหลีฉางอันที่ด้านล่าง“หลีฉางอันเจ้าก็เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงที่ดีการที่ใช้เด็กเพื่อบรรลุเป้าหมายเช่นนี้เจามิสนใจชื่อเสียงของตนเองเลยหรือ?”
“ท่านเจ้าเมืองโจวเพลาที่ท่านจะเอ่ยอันใดออกมารบกวนเข้าใจให้ชัดเจนเสียก่อนผู้ที่จะมาเจรจากับท่านในวันนี้มิใช่ท่านแม่ทัพหลีแต่เป็นข้า...”เมื่อได้ฟังวาจาของเจ้าเมืองโจวนางจึงหัวเราะออกมา
เมื่อเจ้าเมืองโจวได้ฟังวาจาของจิงโม่ก็จ้องมองไปยังเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของหลีฉางอันสายตาของเขาเหลือไว้เพียงความเดือดดาล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...