ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 651

สรุปบท ตอนที่ 651 อยากเจอท่านแม่: ชายาเกิดใหม่ของข้า

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 651 อยากเจอท่านแม่ – ชายาเกิดใหม่ของข้า โดย ลิ่วเยว่

บท ตอนที่ 651 อยากเจอท่านแม่ ของ ชายาเกิดใหม่ของข้า ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ลิ่วเยว่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 651 อยากเจอท่านแม่

ลู่กงกงถูกหลานชายทุบตี เขาจ้องมองหลานอย่างเงียบเชียบ แทบไม่อยากจะเชื่อใบหูของตนเอง

เจ้านายของเขา ไม่ต้องพูดถึงว่าอยู่ในชุดที่สง่างามถึงเพียงใด แต่บุคลิกลักษณะกลับสูงสง่า ร่างกายเต็มไปด้วยบรรยากาศของจักรพรรดิ แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยเชื่อมโยงเจ้านายและคางคกเข้าด้วยกัน เพราะกลัวว่าคนทั้งต้าเหลียงจะไม่กล้านำฮ่องเต้และสิ่งของที่แตกต่างกันอย่างมากเช่นคางคกเชื่อมโยงกัน แต่ทว่าหญิงสาวที่เบื้องหน้ากลับเอ่ยวาจาอย่างตรงไปตรงมา....

“เจ้าเอ่ยเช่นนี้ได้อย่างไร? เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้านายของข้าคือคนเช่นไร? คิดไม่ถึงว่าเจ้า....” ลู่กงกงอดทนไม่ได้ที่จะปกป้องอย่างภักดี เจ้านายของเขาไม่ชอบให้สบประมาท ถึงแม้ว่านางจะเป็นองครักษ์หญิงที่อยู่ข้างกายของนายหญิงชูเซี่ยก็มิได้

“องค์ชายท่านนี้ ข้ามีคู่หมั้นหมายแล้ว ดังนั้นถ้าอิงตามฐานะถือว่ามิได้ แต่ทว่าถ้าหากองค์ชายมีความต้องการด้านอื่น ข้ายินยอมที่จะทำตาม...” องค์หญิงเวินซือเอ่ยกับหลี่เฉินเย่นจบ ก็จูงมือบุตรชายที่กำลังเกรี้ยวโกรธออกไป ครั้งนี้หลี่เฉินเย่นมิได้ตามไป แต่กำชับกับลู่กงกงว่าให้คนของพวกเราตามไป จักต้องตรวจสอบให้ได้ว่านางคือผู้ใด

“ฮ่องเต้วางใจเถิดพะยะค่ะ ครั้งนี้ข้าจะต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ จะต้องจัดการให้ฮ่องเต้นำตัวพระราชินีกลับวังให้ได้พะยะค่ะ” หลังจากที่ลู่กงกงเอ่ยรับปากเสร็จเรียบร้อย ก็หันไปกำชับอย่างหนักแน่นกับองค์หญิงเวินซือและบุตรชาย แต่ทว่าเขากลับยืนอยู่อย่างว่าง่าย และจ้องมองมายังฮ่องเต้ที่อยู่ระยะไกล สายตาอ่อนโยนราวกับว่าจ้องมองภรรยา

หลี่เฉินเย่นไม่กล้ากลับออกไป เกรงว่าหากตนเองออกไปแล้วทุกอย่างเมื่อครู่นี้จะเป็นเพียงแค่ฝัน

แม้ว่าเขาเข้าใจแจ่มแจ้งว่าหญิงสาวที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับชูเซี่ยทุกประการเช่นนี้ไม่รู้ว่าตนเองคือผู้ใด แต่ทว่าสามารถมองเห็นใบหน้าของนาง ได้ยินน้ำเสียงที่มิสามารถบรรยายได้ สามารถมองเห็นรอยยิ้มของนาง เขาก็รู้สึกว่าตนเองมีชีวิตอยู่จริงๆ

ของเค้ายังอยู่วันพรุ่งนี้ของตนเองก็จะมีเหมือนกับวันนี้ของตนเองแล้ว ที่ชีวิตมิมีความสนุกสนาน

“ฮ่องเต้ พวกเรากลับกันก่อนเถิดพะยะค่ะ วันนี้หญิงสาวเชียนซานจะนำเจ้านายน้อยเนี่ยนอีมา พระองค์มิได้พบกับเจ้านายน้อยมาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว เขา....” ลู่กงกงลังเลเล็กน้อย ในที่สุดจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเตือน

“อื้ม ถึงเวลาที่เนี่ยนอีจะได้พบกับท่านแม่ของตนเองแล้ว” หลี่เฉินเย่นคิดอันใดออกพร้อมกับเอ่ยเสียงเบา

เมื่อเห็นเจ้านายของตนเองเอ่ยออกมา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความอบอุ่นนุ่มนวล ลู่กงกงรู้สึกเพียงแค่ว่าในใจของตนเองนั้นเจ็บปวด มารดาของเจ้านายน้อยยังไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ใด แล้วยังเป็นท่านแม่ของเจ้านายน้อยอีกหรือ?

“ทั้งหมดล้วนโทษเจ้า มิเช่นนั้นวันนี้ก็จะสามารถเอ่ยกับนางได้อีกสองสามประโยค” หลี่เฉินเย่นจ้องมองลู่กงกงแล้วเอ่ยมิหยุด เขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยตำหนิ

“ฮ่องเต้ กระหม่อม....” ลู่กงกงอยากจะเอ่ยอธิบายแต่เขารู้ดีว่าที่นายหญิงชูเซี่ยมองฮ่องเต้เป็นศัตรูก็เพราะตนเอง เมื่อฮ่องเต้ยิงลูกศรออกไปก็มิเคยคิดว่าจักได้รับค่าตอบแทนอันใด ล้วนเป็นสิ่งที่เขาเรียกร้องเองทั้งหมด....

“ฮ่องเต้ ที่นายหญิงทรงโกรธเป็นเพราะวาจาของพระองค์ในเพลานั้นพะยะค่ะ ที่บอกว่านางมิมีความรู้ในตนเอง” ลู่กงกงรู้สึกว่าหม้อนี้หนักเกินไป เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเตือนหลี่เฉินเย่น ถ้าหากมิใช่เพราะการแสดงออกครั้งแรกของเขาคือความเจตนาร้าย ผู้น้อยเช่นเขาคงมิมีความกล้าหาญที่จะทำตามอำเภอใจ

หลี่เฉินเย่นจ้องมองลู่กงกง ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อเจ้าชอบทายใจของข้านัก ถ้าเช่นนั้นต่อไปก็ไปคอยตามเนี่ยนอีน้อยเถิด ถ้าหากเฝ้าเขามิดี คอยดูว่าข้าจะจัดการกับเจ้าเช่นไร”

หลี่เฉินเย่นเอ่ยจบก็หมุนตัวเดินจากไป ลู่กงกงรู้สึกว่าที่ด้านหลังของเขาอึมครึม เดิมทีเมื่อได้พบกับนายหญิงชูเซี่ยหลี่เฉินเย่นยังมีความสุขมากมาย แต่ทว่าเหตุใดฮ่องเต้จึงยังคงตึงเครียด ไม่ได้ต่างอันใดเมื่อเปรียบเทียบกับเจ้านายน้อยผู้ที่ร่ำไห้อย่างน่าเวทนา ผู้ซึ่งรู้สึกหวาดกลัวกับการร่ำไห้ของเขา และยิ่งอยากจะคอยเฝ้าผู้ที่สามารถใช้วาจามาอธิบายการแสดงออกของฮ่องเต้

เมื่อเพลาที่หลี่เฉินเย่นมาถึงลานเล็ก เนี่ยนอีกำลังถือหนังสือวาดรูปอยู่ เมื่อเห็นว่าหลี่เฉินเย่นมา เขาก็วิ่งไปยังเบื้องหน้าของหลี่เฉินเย่นและกอดขาของเขา ก่อนจะตะโกนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ท่านพ่อ”

“เย้ๆ ตกลงพะยะค่ะ” เนี่ยนอีร้องตะโกนออกมาอย่างดีใจ หลังจากนั้นริมฝีปากที่นุ่มนวลจุมพิตลงไปที่ใบหน้าของหลี่เฉินเย่น

ตั้งแต่แปดเดือนมานี้ ถ้าหากว่าเนี่ยนอีมีความสุขก็จากจุมพิตใบหน้าของเขา เพียงแต่ว่าครั้งนี้เวลาที่เขาจุมพิตนั้นนานที่สุด และเสียงที่จุมพิตก็ดังที่สุด

“เชียนซาน เจ้าไปกล่อมเนี่ยนอีนอนก่อนเถิด ในส่วนของเรื่องราวนายหญิงของพวกเจ้า เดี๋ยวสักครู่ข้าจะเอ่ยกับพวกเจ้า” หลี่เฉินเย่นส่งเนี่ยนอีให้เชียนซาน หลังจากนั้นจึงเอ่ยอย่างนุ่มนวล

ระยะเวลาหนึ่งปีกว่านี้ เพลาที่หลี่เฉินเย่นยุ่งก็จะมีเชียนซานที่เป็นคนดูแลเนี่ยนอี นอกจากหลี่เฉินเย่นก็มีเพียงแค่เชียนซานที่สามารถกล่อมให้เขานอนหลับได้

แต่ทว่าครั้งนี้เชียนซานกลับมิได้นำเนี่ยนอีออกไป นางได้ยินวาจาของหลี่เฉินเย่น ก็จ้องมองอย่างตกตะลึง ดวงตานางเต็มไปด้วยแสงของน้ำตา นางมิได้เอ่ยอันใดออกมา แต่กลับชัดเจนในทุกสิ่งทุกอย่าง

“ในเพลาที่ข้าพบนาง เป็นเพลาที่ม้าตกใจและวิ่งพุ่งเข้าไปหาพวกนางพร้อมกับรถม้า นางมิสนใจชีวิตของตนเอง นางเพียงแค่จะปกป้องหญิงสาวคนรับใช้ของนางไว้ ข้าเห็นนางที่ด้านหลัง ลักษณะของนางเหมือนนายหญิงของพวกเจ้า นิสัยใจคอก็คล้ายคลึง เพียงแต่ว่าใช่หรือไม่ ข้าก็มิกล้ายืนยัน” หลี่เฉินเย่นเอ่ยจนจบก็ลังเลไปชั่วขณะหนึ่ง ถึงจะบอกเชียนซานตามความเป็นจริง

ในปีศูนย์เจ็ดหลายเดือนนี้ พวกเขาเคยมีความคาดหวังที่มากมาย เพียงแต่ว่าความคาดหวังที่ยิ่งใหญ่ในทุกครั้ง ล้วนมีเพียงความผิดหวังในภายหลัง

ครั้งนี้หลี่เฉินเย่นได้พิจารณาแล้วว่านั่นคือชูเซี่ยของเขา แต่เพราะว่าวาจาของนางมีช่องว่างระหว่างเขา

“ฮ่องเต้ พระองค์แน่ใจแล้วว่านั่นคือนายหญิงใช่หรือไม่เพคะ? ก่อนหน้านี้แต่ไหนแต่ไรมาพระองค์มิเคยแน่ใจเช่นนี้มาก่อน” ยามที่เชียนซานเอ่ยออกมา น้ำเสียงของนางแฝงไปด้วยความสั่นเทา เมื่อได้ยินฮ่องเต้เอ่ยถึงเรื่องราวของนายหญิง นางก็เริ่มมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากบนโลกใบนี้ผู้ที่สามารถปกป้องผู้อื่นมากกว่าตนเองนั้นมีไม่มาก ในปีนั้น นายหญิงเคยปกป้องตนเองโดยมิคิดถึงชีวิตของนางเอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า