สรุปตอน ตอนที่ 653 เพียงแค่ขอร้องอีกครั้งก็มิเป็นอันใด – จากเรื่อง ชายาเกิดใหม่ของข้า โดย ลิ่วเยว่
ตอน ตอนที่ 653 เพียงแค่ขอร้องอีกครั้งก็มิเป็นอันใด ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง ชายาเกิดใหม่ของข้า โดยนักเขียน ลิ่วเยว่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ 653 เพียงแค่ขอร้องอีกครั้งก็มิเป็นอันใด
วาจาของลู่กงกงไม่รู้ว่าจะเอ่ยออกไปอย่างไร แต่ทว่าท่าทางที่ลำบากใจของเขา ทำให้หัวใจของหลี่เฉินเย่นตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม
เขาจ้องมองลู่กงกงก่อนจะเอ่ยถามออกมาทีละคำ “นางคือพระชายาขององค์และทายาทหรือ?”
หลี่เฉินเย่นคิดไม่ถึงว่าชูเซี่ยของเขาจะกลายเป็นพระชายาขององค์รัชทายาท ถ้าหากเป็นเช่นนั้น หนทางที่เขาจะสู่ขอชูเซี่ยก็จะยิ่งยากลำบาก
ในหัวสมองของเขากำลังหมุนด้วยความรวดเร็ว เขาคิดไปคิดมาว่าต้องทำเช่นไร จึงจะทำให้องค์รัชทายาทละทิ้งในพระชายาของตนเอง
โชคดีที่ว่าเพลานี้พวกเขาเป็นฝ่ายที่รบชนะแคว้นจื่อสวี้ ขอเพียงแค่เขาเต็มใจที่จะปล่อยให้เลือดไหล การสู่ขอชูเซี่ยคงจะมีใช่เรื่องยาก
“ฮ่องเต้ มิใช่พะยะค่ะ มิใช่ชายาขององค์รัชทายาท แต่ทว่า คือ....” ลู่กงกงคิดไม่ถึงว่าประโยคเดียวของตนเองจะทำให้หัวใจของหลี่เฉินเย่นรู้สึกสับสนอลหม่าน เขารีบอธิบาย แต่ทว่าเพียงแค่วาจากำลังจะออกจากปาก เขากลับเอ่ยอันใดไม่ออก เพราะว่านายหญิงชูเซี่ยคือพระชายาของฮ่องเต้ และนายหญิงชูเซี่ยคือองค์หญิงเวินซือ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องราวที่ดีต่อฮ่องเต้นัก
“เสี่ยวลู่จื่อ เจ้าเอ่ยออกมาดีๆ แท้จริงแล้วนางคือผู้ใดกันแน่?” หลี่เฉินเย่นจ้องมองท่าทีที่เป็นกังวลของลู่กวกง จึงพยายามสงบจิตใจ เขาจ้องมองและเอ่ยถามอย่างจริงจัง
“คือองค์หญิงเวินซือพะยะค่ะ เป็นผู้ที่พระองค์เคยปฏิเสธการแต่งงานมาก่อน” เพลาที่ลู่กงกงเอ่ยออกมา เขาก้มศีรษะลง
หลี่เฉินเย่นตะลึงงันอยู่ที่เดิม เนิ่นนานล้วนมิได้เอ่ยอันใดออกมา ในหัวสมองของเขามีภาพขององค์หญิงเวินซือฉายขึ้นมา องค์หญิงเวินซือ ปฏิเสธการแต่งงาน ปฏิเสธการแต่งงาน....
โชคชะตาผลักพวกเขาให้มาพบกันอีกครั้ง เพียงแต่ว่าเขาปฏิเสธไปแล้ว
เขา....
เพื่อจะได้ชูเซี่ย เขาจึงปฏิเสธชูเซี่ยงั้นหรือ....
“ฮ่องเต้พะยะค่ะ เพลานี้เหล่าพสกนิกรล้วนแพร่กระจายข่าวที่พระองค์มิสนใจองค์หญิงเวินซือออกไปแล้ว เกรงว่าในเพลานี้องค์หญิงคงจะเกลียดชังพระองค์มาก ดังนั้น....” ลู่กงกงมองเห็นเจ้านายของตนกำลังตกตะลึง เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเตือน ก่อนหน้านี้เขาก็เคยบอกฮ่องเต้เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว แต่ทว่าเพลานั้นฮ่องเต้มิได้สนใจแม้แต่น้อย
ใบหน้าของหลี่เฉินเย่นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ในใจของเขาเคยสบถซ้ำไปซ้ำมา รอให้ตนเองหาชูเซี่ยพบ เขาจักต้องใจดีกับนาง มิทำให้นางได้รับความเจ็บปวดใดๆอีก
แต่ทว่าตนเองกลับทำอันใดลงไป คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำให้นางตกเป็นข่าวลือที่เสียหายอีกครั้ง....
“เสี่ยวลู่จื่อ ไปตรวจสอบมาว่าผู้ใดอยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดนี้ ข้าอยากรู้ว่าผู้ใดต้องการจะทำลายชื่อเสียงของนาง” แต่ชั่วครู่หนึ่ง หลี่เฉินเย่นก็เรียกสติกลับมาได้ เขาเอ่ยกำชับ ความสับสนก่อนหน้านี้หายไปอย่างรวดเร็ว
“ฮ่องเต้พะยะค่ะ ผู้กระทำความผิดนี้ก็คือพระองค์ ถ้าหากพระองค์มิปฏิเสธการแต่งงาน....” ลู่กงกงเอ่ยเตือนหลี่เฉินเย่นเสียงเบา เขามิค่อยเข้าใจ ถ้าหาพบว่าผู้ใดอยู่เบื้องหลังเรื่องเหล่านี้ พวกเขาก็มิสามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้วมิใช่หรือ?
"สัญญาระหว่างจื่อสวี้ และต้าเหลียงของเรายังไม่ได้ลงนาม ข่าวการปฏิเสธของฮ่องเต้จะไม่ถูกส่งไปยังจื่อสวี้เร็ว ๆ นี้ ดังนั้นพวกเขาจะต้องมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับชื่อเสียง เนื่องจากพวกเขากล้าที่จะจัดการกับความกระตือรือร้นแล้ว ข้าจะกำจัดกรงเล็บของพวกเขาก่อน "
"ตกลง ข้าน้อยจะตรวจสอบทันที จากนั้นเราจะส่งจดหมายกลับไปจากต้าเหลียง เพื่อสู่ขอหรือไม่?" ลู่กงกงเข้าใจแล้ว เขาเตือนหลี่เฉินเย่นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสัญญายังไม่ได้รับการตัดสิน ชื่อจะคืนสถานะให้กับต้าเหลียง
"ไม่ต้อง" หลี่เฉินเย่นให้คำตอบอย่างรวดเร็ว และคำตอบนั้นไม่ใช่สิ่งที่ลู่กงกงต้องการ
ใบหน้าที่เงียบงั้นของหลี่เฉินเย่นก็เปลี่ยนเป็นแจ่มใสขึ้นมาอย่างฉับพลัน เขาหัวเราะกับลู่กงกงก่อนจะเอ่ยหนึ่งประโยค “ถ้าเช่นนั้นยังมิรีบไปเตรียมพร้อมอีกหรือ”
ถ้าหากว่าการเยี่ยมเยียนก่อนหน้านี้ยังไม่มีเหตุผลที่ชัดเจนพอ ถ้าเช่นนั้นการเยี่ยมไข้เพลานี้ก็เท่ากับว่าเป็นเหตุผลที่ดีที่สุด
“ฮ่องเต้พะยะค่ะ เมื่อวานนี้ไม่ใช่ว่าพระองค์ก็พบกับนายหญิงแล้วหรือ? เหตุใดนางจึงป่วยอย่างเฉียบพลันเช่นนี้? ร่างกายของนางยังมิดีหรือพะยะค่ะ? เป็นไปได้หรือไม่ว่าเรื่องราวเมื่อวานนี้ทำให้นางตกอกตกใจ? ถ้าเช่นนั้นพวกเราไปวันนี้นายหญิงจะ....” เชียนซานรู้ว่าชูเซี่ยป่วยแล้ว ในใจของนางเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด
“พวกเราไปดูด้วยกันเถิด เจ้าตามไปแล้วบอกให้แน่ใจว่านางใช่นายหญิงของเจ้าหรือไม่ก็พอ เรื่องอื่นๆเจ้ามิต้องยุ่ง” ในใจของเชียนซานมีแผนการ จุดประสงค์ที่เขาไปในครั้งนี้ง่ายดายนัก ก็เผื่ออยากจะแน่อกแน่ใจ เชียนซานต้องการแน่ใจว่านั่นคือนายหญิงของพวกเขา อีกทั้งเนี่ยนอีก็ไปพบท่านแม่ของเขา
“ใช่แล้ว จำไว้ให้ดีว่าบอกกับเนี่ยนอีด้วยว่าถ้าหากไปพบชูเซี่ยไม่อนุญาตให้เรียกนางโดยพละการ” หลี่เฉินเย่นมิลืมที่จะเอ่ยกำชับ เด็กคนนั้นเอาแต่มองรูปภาพของชูเซี่ยแล้วเรียกว่าท่านแม่ ครั้งนี้ถ้าหากได้พบกับชูเซี่ยตัวจริง ถ้าหากเขามิลองเรียกถึงจะแปลก แต่ทว่าดีที่เนี่ยนอีฟังคำสั่งของเชียนซาน ถ้าหากว่ามีเชียนซานอยู่ เนี่ยนอี้ก็จะมิลองเรียกผู้ใดตามอำเภอใจ
เชียนซานพยักหน้ารับปาก ในใจของนางฉงนเล็กน้อย ถ้าหากผู้นั้นคือนายหญิงของตนเองจริงๆ ก็ต้องเป็นมารดาผู้ที่เนี่ยนอีเฝ้าคำนึงหา ถ้าเช่นนั้นการเรียกว่าท่านแม่ล่วงหน้าเหตุใดจะมิได้เล่า มิช้ามิเร็ว จำเป็นต้องทำให้เด็กน้อยเสียใจด้วยหรือ?
ดังนั้นในเพลาที่เอ่ยกำชับเนี่ยนอี วาจาของเชียนซานค่อนข้างขอไปที ส่งผลให้เมื่อได้พบกับองค์หญิงเวินซือ เขาก็ตะโกนร้องเรียกท่านแม่อย่างดีอกดีใจ แต่ทว่านี่ล้วนเป็นปัญหาที่ต้องคุยกันในภายหลัง
หลี่เฉินเย่นและผู้คนอื่นๆไปที่จวนขององค์รัชทายาทอย่างกระตือรือร้น แต่กลับไม่คิดว่าจวนขององค์รัชทายาทนั้นปฏิเสธที่จะให้ผู้คนเข้าพบ หลังจากที่ป่วยมาเป็นเวลานาน
ในเพลาที่จนปัญญา ลู่กงกงทำได้เพียงบอกเล่าเรื่องราวเมื่อวานนี้ที่ได้ช่วยชีวิตองค์หญิงเวินซือให้องครักษ์ที่หน้าประตูฟัง
ไม่นานนักองครักษ์ก็กลับมา ในมือถือเบี้ยเงินจำนวน 2200หยวนไว้ ก่อนจะเอ่ย “องค์หญิงของพวกข้าน้อยเอ่ยว่าถ้าหากทุกท่านรู้สึกว่าการช่วยชีวิตเมื่อวานนี้เป็นบุญคุณหนักหนา องค์หญิงของข้าน้อยจักประธานเบี้ยเงิน 2200 ให้ แล้วเป็นอันว่ามิได้เกี่ยวข้องอันใดกับพวกท่านอีก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...