ตอนที่ 78 อนาคตเพรียวบาง
ใบหน้าของหลี่เฉินเย่นเต็มไปด้วยความอบอุ่น “พะย่ะค่ะ!”
“พวกข้าออกไปคุยกันข้างนอกเถิด ข้ากลัวว่าจะรบกวนเวลาพักผ่อนของนาง” ทอดพระเนตรไปที่ชูเซี่ยด้วยสายตาอ่อนโยน สายตาเช่นนั้นทำให้หลี่เฉินเย่นอดหวั่นเกรงไม่ได้ ความรู้สึกอบอุ่นเมื่อครู่จางหายไป เขาแทบจะโยนความนับถือเสด็จพ่อทิ้งไปเสียด้วยซ้ำ
หลี่เฉินเย่นปรายตามองชูเซี่ยด้วยสายตาขมขื่น ชายหนุ่มกำหมัดแน่นหัวใจเต็มไปด้วยความอึดอัด
ฮ่องเต้สั่งให้คนไปจัดสำรับมาเล็กน้อยและสุราอีกจอก พอดีกับที่ขันทีนำถาดป้ายชื่อพระสนมเข้ามา “ฝ่าบาท คืนนี้ฮ่องเต้ยังไม่ได้เลือกป้ายพระสนมที่จะถวายงานเลยขอรับ”
ฮ่องเต้ขมวดพระขนม “ยังจะมาเลือกป้ายอะไรกันอีก เจ้าไม่เห็นหรือว่าข้ากำลังพูดคุยอยู่กับท่านอ๋อง?”
ขันทีจึงรีบถอยฉากออกไป
หลี่เฉินเย่นรู้สึกกระอักกระอ่วน แม้ว่าจะเป็นพ่อลูกแท้ๆ แต่เรื่องราวของเสด็จพ่อ เขาไม่ได้อยากฟังแม้แต่น้อย
เสี่ยวเต๋อจื่อที่ยืนถวายการรับใช้อยู่ด้านข้างก็รีบรินสุราให้กับนายทั้งสอง “ฝ่าบาทดื่มพะย่ะค่ะ! ท่านอ๋องดื่มพะย่ะค่ะ!”
ฝ่าบาทยกจอกสุราขึ้น เขย่าจอกสุราเล็กน้อยจนมันหกรดลงมาที่พระหัตถ์ของฮ่องเต้ ฝ่าบาทวางจอกสุราลง เสี่ยวเต๋อจื่อก็รีบร้อนถวายผ้าเช็ดหน้าให้ ฮ่องเต้เช็ดพระหัตถ์ไปพลางตรัสกับหลี่เฉินเย่นพลาง “สุราดี แต่เมื่อหกออกมาก็เสียของไม่ใช่หรือ แต่ทว่ามือของข้าก็ยังมีกลิ่นของสุราติดอยู่ดี”
แม้ว่าหลี่เฉินเย่นจะไม่เข้าใจในความหมายที่เสด็จพ่อตั้งใจจะสื่อ แต่ก็ทำทีเป็นพยักหน้าเข้าใจ “พะย่ะค่ะ เสด็จพ่อสอนสั่งลูกด้วยพะย่ะค่ะ!”
ฮ่องเต้ทอดพระเนตรมาที่เขา “ความหมายของข้าง่ายนิดเดียว ชูเซี่ยนางเป็นหญิงสาวที่ดีเลิศ แต่ทว่านางก็จากไปนานแล้ว ความจำระหว่างนางกับเจ้าก็จงเหลือไว้แต่ความจำที่ดีงามเสียเถิด อย่างน้อยมันก็ย้ำเตือนว่าครั้งหนึ่งเจ้าเคยรักใคร่หญิงสาวผู้หนึ่งได้อย่างลึกล้ำเพียงใด เจ้าควรลืมนางแล้วเริ่มต้นใหม่ได้เสียที”
หลี่เฉินเย่นนั่งนิ่งๆอยู่เช่นนั้นสีหน้าราบเรียบไม่เปลี่ยน “ลูกเข้าใจแล้วพะย่ะค่ะ!”
“เจ้าเข้าใจ แต่กลับไม่เคยทำ ข้ารู้ว่าเจ้ารักเดียวใจเดียว แต่จวนอ๋องหนิงอานของเจ้าจนถึงตอนนี้ก็ไม่มีทายาทสืบทอดวงศ์ตระกูล เพียงแค่สตรีผู้เดียวเจ้าไม่อาจใช้ชีวิตเช่นนี้ต่อไปได้ ข้าจะบอกให้ฮองเฮาเฟ้นหาสตรีที่มีคุณสมบัติงามพร้อมให้เจ้า เจ้าเป็นถึงหนิงอานอ๋องจะไม่มีพระชายาเคียงข้างได้อย่างไรกัน” ฮ่องเต้ไม่เห็นด้วย
หลี่เฉินเย่นเงยหน้าขึ้นอย่างตื่นตระหนก “เสด็จพ่อ ลูกไม่ต้องการแต่งพระชายา!”
ฝ่าบาทไม่พอพระทัยอย่างยิ่ง “นี่ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะอยากหรือไม่อยาก ข้าตัดสินใจแล้ว จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีก เจ้าเสียใจกับการจากไปของชูเซี่ยมาถึงสามปีก็เพียงพอแล้ว สมควรแก่การมีความสุขในชีวิตเสียที เจ้าไม่รู้หรือว่าเรื่องของเจ้าทำให้เสด็จแม่ของเจ้าเสียน้ำตามาเท่าไหร่ เจ้าเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของนาง ความหวังและความฝันของนางขึ้นอยู่กับตัวของเจ้าทั้งหมด เจ้าจะทำให้นางผิดหวังได้หรือ ยิ่งไปกว่านั้น เสด็จย่าของเจ้าก็อายุมากขึ้นทุกวัน คาดหวังจะอุ้มหลานที่มาจากเจ้ามาตลอด เจ้าจะให้ฮ่องเต้รอเจ้าจนตายตาไม่หลับงั้นหรือ”
สีหน้าของหลี่เฉินเย่นกลายเป็นมืดคล้ำ ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองเสด็จพ่อของตน “ลูกยอมแต่งก็ได้ แต่ทว่าลูกอยากเป็นผู้เลือกพระชายาของลูกเองพะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้ทอดพระเนตรเขา “เจ้ามีหญิงที่พึงใจแล้วหรือ เป็นคุณหนูตระกูลใด?”
หลี่เฉินเย่นสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ลูกมีหญิงที่ลูกพึงใจแล้ว หญิงผู้นั้นจนถึงตอนนี้ก็อยู่ที่จวน...”
จู่ๆก็มีเสียงของแตกแล้วตามด้วยเสียงกรีดร้องของชูเซี่ยดังขึ้นมาทำให้ฝ่าบาทและหลี่เฉินเย่นต่างก็ตื่นตระหนกจนใบหน้าถอดสี หลี่เฉินเย่นคิดจะพุ่งเข้าไปในห้องแต่ทว่าเสี่ยวเต๋อจื่อกับรั้งเขาไว้เพื่อให้ฝ่าบาทเสด็จเข้าไปเสียก่อน
จุดที่เสี่ยวเต๋อจื่อยืนอยู่นั้นสามารถเห็นร่างของชูเซี่ยที่นอนอยู่บนเตียงบรรทมได้อย่างชัดเจนยิ่ง เขาเห็นตั้งแต่แรกแล้วว่าชูเซี่ยจงใจที่จะขว้างของลงพื้น จุดประสงค์ของนางก็คงจะเป็นเพราะไม่ต้องการให้หลี่เฉินเย่นพูดต่อไป ดังนั้นยามที่หลี่เฉินเย่นพุ่งร่างเข้าไปเขาถึงได้ห้ามไว้ มิฉะนั้นดูจากท่าทางเป็นห่วงเป็นใยของท่านอ๋องในยามนี้ ฝ่าบาทจะต้องสงสัยแน่
แต่หลี่เฉินเย่นกลับทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เขาอยากจะบอกเสด็จพ่อออกไปเหลือเกินว่าคนที่เขารักและพึงใจก็คือชูเซี่ยหรือท่านหมอชูผู้นี้
ดังนั้นชายหนุ่มจึงผลักเสี่ยวเต๋อจื่อออกและวิ่งเข้าไปทันที
ฮ่องเต้มาถึงก่อนเขาเพียงก้าวหนึ่ง ทอดพระเนตรเห็นชูเซี่ยยืนเท้าเปล่าเปลือย ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าเล็กๆซีดขาวไร้สีเลือด บนพื้นมีเศษกระเบื้องของถ้วยยากระจายอยู่เต็มพื้น จุดที่นางยืนอยู่ข้างๆก็มีเศษกระเบื้องอยู่ตรงนั้น
ฮ่องเต้ปรามเสียงดุ “อย่าขยับ!”
ฝ่าบาทก้าวไปข้างหน้าและข้อนชูเซี่ยเข้ามาในอ้อมพระกร ฝ่าบาทอุ้มนางมาวางที่เตียงบรรทมดั่งเดิม ก่อนจะถามอย่างร้อนพระทัย “โดนบาดตรงไหนหรือไม่”
ชูเซี่ยส่ายหน้าเบาๆ ดวงตาเป็นกระกายของนางมองข้ามฝ่าบาทไปหยุดอยู่ที่หลี่เฉินเย่นที่เพิ่งเดินเข้ามาภายในห้องบรรทม ดวงตาของนางสื่อคำพูดนับพันนับหมื่นแต่ไม่อาจเอื้อนเอ่ยออกมาได้แม้แต่คำเดียว
หน้าผากของหลี่เฉินเย่นเต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดโปน ฝ่ามือหนาถูกกำไว้แน่น ดวงตาเต็มไปด้วยแววตาเย็นเยียบระคนแค้นเคือง
“เหตุใดจึงไม่รู้จักระวังเลย?” ฮ่องเต้ถอนพระปัสสาสะอย่างโล่งอก “โชคดีเหลือเกินที่ไม่ได้บาดโดนตัวเองเข้า มิฉะนั้นข้าคงปวดใจน่าดู”
ชูเซี่ยเอ่ย “หม่อมฉันเพียงอยากจะดื่มน้ำสักหน่อย แต่มือไม้ไร้เรี่ยวแรงเผลอไปปัดถ้วยยาตกพื้นเพคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...