นางเอ่ยเป็นจริงเป็นจัง แววตาใสซื่อบริสุทธิ์ ทว่ากลับทำเอากู้ชูหลันและอี๋เหนียงห้าโกรธจนสั่นไปทั้งตัว
"กู้ชูหน่วน เจ้าโกหก ตอนที่เจ้าบังคับให้ข้าดื่มเมามายพันกาล มิได้ท่าทางเช่นนี้เลย"
"น้องสาว ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้าพูดเรื่องอันใด ข้ารู้ว่าข้าผิด ไม่ควรจะไปสาย น้องสาวอย่าโกรธเลยได้หรือไม่"
กู้ชูหลันเสียสติ ความบริสุทธิ์ผุดผ่องของนางถูกอีกฝ่ายทำลาย แต่อีกฝ่ายกลับทำเป็นใสซื่อเหมือนกระต่ายขาวตัวน้อย ความโกรธเอาชนะกู้ชูหลัน นางตะกายตัวขึ้นมาหมายจะบีบลอคำของอีกฝ่าย ราวกับอยากจะบีบคอกู้ชูหน่วนให้ตายทั้งเป็น
"สามหาว"
เสียง "ปึง" ดังขึ้น อัครเสนาบดีกู้ตบโต๊ะ โมโหเลือดขึ้นหน้า
เว้นเสียแต่กู้ชูหน่วน ทุกคนต่างตื่นตกใจ
ส่วนอี๋เหนียงห้าก็กระชากกู้ชูหลันให้คุกเข่าลงเสียงดังโครม "นายท่านใจเย็นเจ้าค่ะ หลันเอ๋อร์ก็แค่คิดน้อยไปจึงได้ออกไปกับคุณหนูสาม เมามายพันกาลนั่น ต้องมีคนจงใจวางยาแน่"
ฮูหยินใหญ่และอี๋เหนียงสามรวมถึงคนอื่นๆ พากันแค่นหัวเราะ
มีคนจงใจวางยางั้นรึ? หมายถึงพวกนางอย่างนั้นหรือ?
อี๋เหนียงห้าเป็นที่โปรดปรานของอัครเสนาบดี ยามปกติแล้วมักจะอวดเบ่งวางอำนาจกับพวกนางอยู่บ่อยๆ ยามนี้กู้ชูหลันแปดเปื้อนมลทิน พวกนางเองก็อยากรู้นักว่าอี๋เหนียงห้าจะพลิกหน้ามือเป็นหลังมือได้อีกไหม
ที่โง่ที่สุดก็คือ กู้ชูหน่วนขี้ขลาดอย่างกับหนู อ่อนแอแต่กำเนิด เว้นเสียแต่ไปจุดธูปไหว้แม่ที่จากไปของนางแล้ว ก็ไม่เคยออกนอกจวนเลย ทั้งยังไม่ญาติสนิท จะไปรู้จักเมามายพันกาลได้อย่างไร? แถมจะไปหาซื้อเมามายพันกาลจากที่ไหน
หากกู้ชูหลันจะโยนความผิด ก็ควรหาเหตุผลที่ดีกว่านี้
เสียบริสุทธิ์แล้ว คนเรานั้นโง่ลงหรือไร?
อี๋เหนียงสามแสยะยิ้ม น้ำเสียงเย้ยหยัน "เฮ้อ ไม่รู้ว่าผู้ใดบอกท่านอัครเสนาบดีว่าคุณหนูสามหนีไปที่วัดร้างกับบ่าวไพร่ นอกจากจะทำร้ายผู้อื่นไม่สำเร็จแล้ว กลับกันเป็นตัวเองที่ซวย"
อี๋เหนียงห้าสีหน้าดูไม่ได้
เพราะนางต้องการให้ลูกสาวของตัวเองได้เป็นเจ๋ออ๋องเฟย จึงได้เล่นงานกู้ชูหน่วน นางไหนเลยจะคาดเดาได้ว่า คนที่นางคิดจะทำร้ายนั้น กลับกลายเป็นลูกสาวของนาง
คิดไม่ถึงเลยว่าความบริสุทธิ์ของลูกสาวตัวเองจะสูญสิ้น อี๋เหนียงห้าในใจโกรธจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่ใบหน้านั้นกลับสะอื้นไห้ น่าสงสารเหลือเกิน
"นายท่านเจ้าคะ หากข้าคิดจะทำร้ายคุณหนูสาม แล้วเหตุใดถึงได้โง่เง่าทำร้ายลูกสาวของตัวเองเล่า ต้องมีคนจงใจวางแผนทำร้ายพวกข้าแน่นอน"
"เป็นฝืมือนางสารเลวกู้ชูหน่วนนั่นแหละเจ้าค่ะ ท่านพ่อ ท่านต้องจัดการให้ข้านะเจ้าคะ"
อี๋เหนียงห้ากระตุกชายผ้ากู้ชูหลัน ส่งสายตาบอกนางว่าอย่าพูดไม่เข้าเรื่องอีก
ทว่ากู้ชูหลันที่กำลังเลือดขึ้นหน้ามีหรือจะสงบนิ่งเหมือนดั่งเคยได้
"ท่านพ่อ ท่านต้องสั่งสอนนางสารเลวนี่ นางหน้าซื่อใจคด"
จวบจนยามนี้ ร่างกายท่อนล่างของนางยังคงปวดร้าวเหมือนถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ทั้งหมดต้องโทษกู้ชูหน่วน
"พอได้แล้ว ชูหน่วน เจ้าว่ามาซิว่าเรื่องมันเป็นเช่นไรกันแน่ เจ้าได้กรอกเมามายพันกาลใส่ปากน้องสาวเจ้าหรือไม่?"
กู้ชูหน่วนหัวเราะเสียงเย็น
คำก็สารเลว สองคำก็สารเลว หากนางสารเลวจริง แล้วตาเฒ่ากู้จะเรียกว่าอะไร?
พ่อชั่ว?
ถึงจะขยะแขยง แต่กู้ชูหน่วนก็ยังคงเอ่ยอย่างน่าสงสาร "หากน้องสาวบอกว่าใช่ เช่นนั้น...เช่นข้าเป็นคนทำก็ได้เจ้าค่ะ"
กู้ชูหลันหอบหายใจอกกระเพื่อม โมโหจนหัวใจจะวายตาย หากไม่ใช่เพราะอี๋เหนียงห้ารั้งนางไว้ ป่านนี้คงสะบัดหน้าเดินหนีไปแล้ว
"ต่อให้เป็นวันรำลึกของแม่เจ้าก็เถอะ เจ้าจะพาบ่าวไปด้วยสักสองสามคนก็ได้ กลางค่ำกลางคืนเช่นนั้น เด็กผู้หญิงออกไปทำอะไรข้างนอกตัวคนเดียว?"
"ลูกก็อยากจะพาคนไปด้วยสักสองสามคนอยู่หรอกเจ้าค่ะ แต่ว่า... แต่ว่าน้องห้าบอกว่า นางพาคนมาเยอะแล้ว ข้าไม่ต้องพามา ตอนนั้นที่น้องห้าพุดแบบนี้อยู่ มีคนอยู่เยอะแยะ หากไม่เชื่อท่านจะถามพวกเขาก็ได้เจ้าค่ะ"
อี๋เหนียงสามเล่นเล็บที่ทาสีของตัวเองอย่างเบื่อหน่าย เอ่ยพลางหัวเราะ "คุณหนูห้าพูดเช่นนั้นจริงๆ ทั้งยังให้คนขวางชิวเอ๋อร์เอาไว้ด้วย"
คุณหนูเจ็ดกู้ชูฉิงที่ยังไม่รู้ทิศด้วยซ้ำก็รีบสมทบ "ข้าก็เห็น"
อี๋เหนียงห้าร้อนรน ลางว่าวันนี้เรื่องคงจบไม่สวย
อัครเสนาบดีกู้ตวาดลั่น "ดึกดื่นปานนั้นเจ้าออกไปทำอะไร"



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม