ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 142

สรุปบท ตอนที่ 142 ความสามารถที่ถูกเปิดเผย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 142 ความสามารถที่ถูกเปิดเผย – ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก โดย ใบไม้แดง

บท ตอนที่ 142 ความสามารถที่ถูกเปิดเผย ของ ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ใบไม้แดง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 142 ความสามารถที่ถูกเปิดเผย

"ท่านอ๋อง ข้าน้อยไร้ความสามารถที่ไม่อาจหยุดพวกเขา!" พ่อบ้านในตำหนักหมิงอ๋องเดินตามใครบางคนเข้ามา หายใจหืดหอบ

ด้านนอกของห้องโถงหลักมีชายรูปร่างกำยำยืนไว้ เขาขมวดคิ้วเป็นปม แววตาของเขาเหมือนน้ำแข็งที่หนาวเหน็บ แก้มทั้งสองแดงก่ำเพราะอากาศที่หนาวเย็น แต่ว่าเขากลับยืนนิ่ง วิ่งมานานขนาดนี้ยังไม่มีการหืดหอบ

บุคคลท่านนี้คือคุณชายเย่อวิ๋นเหิง เขาเป็นชายหนุ่มที่มีชื่อเสียงด้านการฟันดาบแห่งภูเขาคุนหลุน ที่มานั้นค้าขายอยู่นอกเมือง เมื่อได้ข่าวว่าที่ตำหนักเกิดเรื่องจึงต้องรีบกลับมา

"ไม่เป็นไร เจ้าออกไปก่อน" โม่ฉีหมิงวางตะเกียบลง แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

พ่อบ้านโล่งใจ แล้วรีบปิดประตูเดินออกไป

"ไม่ทราบว่าคุณชายเย่มาถึงที่นี่เพราะเหตุใด? หรือว่าคนในตระกูลท่านล้วนมีนิสัยชอบบุกรุกตำหนักคนอื่น?" สีหน้าของโม่ฉีหมิงไม่ดีนัก แววตาของเขามีความร้ายกาจออกมา มองดูเหมือนคนที่ไม่ใจอ่อน มีความเย็นชาดุดัน

เย่อวิ๋นเหิงดึงสติกลับมา สองมือประสานกัน "เวลาไม่คอยท่า ข้ามาที่นี่เพื่อมาขอร้องให้พระชายาช่วยชีวิตน้องสาวของข้า"

หากไม่ใช่เพราะเขามาได้ทันเวลา แล้วบังเอิญเจอกับบ่าวในตำหนักที่กำลังจะไปตำหนักหมิงอ๋องนั้น เขาคงไม่ได้เจอใบหน้าที่แท้จริงของหมิงอ๋อง โชคดีที่เขามาทันเวลา มิเช่นนั้นบ่าวในตำหนักเองคงไม่สามารถเชิญพระชายาได้แน่

โม่ฉีหมิงมองดูเขาด้วยใบหน้านิ่งเฉย "น้องสาวท่านไม่ใช่ว่า......"

"ไม่ น้องสามยังไม่ตาย เมื่อคืนน้องสามกลับมามีลมหายใจอีกครั้ง เพียงแต่หมอหลวงเองก็จนปัญญา พระชายาท่านคือหมอเทวดาที่ฮ่องเต้รับสั่งไว้ ดังนั้นข้าจึงอยากมาขอร้องให้ท่านได้โปรดช่วยน้องสาวข้าด้วย"

อากาศอบอุ่นในห้องพัดมาที่ใบหน้าของเย่อวิ๋นเหิง จากแก้มที่แดงก่ำเพราะอากาศหนาวเย็นก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง นัยน์ตาดำของเขาจ้องมองมาที่โม่ฉีหมิงอย่างมีความหวัง

โล่หวินหลานเป็นหมอเทวดา โม่ฉีหมิงหันไปมองใบหน้าที่เรียบเฉยของโล่หวินหลาน "หวินหลาน เจ้าคิดว่าอย่างไร?"

เมื่อเขาเอ่ยปาก สีหน้าของเย่อวิ๋นเหิงก็เปลี่ยนไป เขาคิดมาตลอดว่าหมอเทวดาคือพระชายา แต่คนที่มีอำนาจตัดสินใจนั้นคือโม่ฉีหมิง ดังนั้นจึงขอร้องโม่ฉีหมิง เขาไม่คิดเลยว่าสุดท้ายโม่ฉีหมิงจะถามความคิดเห็นของนาง

โล่หวินหลานนำมือมาลูบที่คาง "ในเมื่อทุกคนต่างก็มีความเกี่ยวพันเป็นญาติกัน อีกอย่างการช่วยชีวิตคนนั้นคือการเอาชนะทุกสิ่ง งั้นก็ช่วยเถอะ!"

ช่วย.....ก็ช่วยเถอะ! หมายความว่าอย่างไร? การช่วยชีวิตคนสำหรับหมอเทวดานั้นคือเกมส์หรือ!

เย่อวิ๋นเหิงลุกขึ้นยืน แล้วทำท่าทางเป็นการเชิญ "พระชายา เวลาไม่คอยคน รถเกี้ยวได้จัดเตรียมไว้ด้านนอกแล้ว"

โล่หวินหลานพยักหน้า "หม่อมฉันไม่ทำให้การช่วยชีวิตคนเสียเวลาหรอก เพียงแต่หม่อมฉันต้องการผู้ช่วย สวินโม่เข้ามา"

พูดจบ สวินโม่ที่ยืนคอยอยู่ด้านนอกเป็นเวลานานก็เดินเข้ามา วันนี้เขาแต่งตัวตามสบานยเหมือนนักเรียนที่เรียนด้านการรักษาทั่วไปที่คอยศึกษาจากโล่หวินหลาน เพียงแต่ราศีของเขานั้นไม่ค่อยเข้าเท่าไหร่

"พระชายา ท่านอ๋อง คุณชายใหญ่แห่งตระกูลเย่ ข้าคือสวินโม่ เป็นผู้ช่วยของพระชายา" สวินโม่แนะนำตนเอง

เย่อวิ๋นหลานไปกล้าที่จะดูถูกสวินโม่ เพราะเขาคือลูกศิษย์ของหมอเทวดา ดังนั้นต้องมีที่มาที่ไปที่ไม่ธรรมดาแน่ เขาจึงยิ้มแล้วเชิญทุกคนไปที่ตำหนักเย่

รถม้าที่ไปที่หน้าประตูของตำหนักเย่ก็เห็นผ้าขาวและดำถูกจัดวางแต่ไกล หน้าประตูมีตัวอักษรสีทองตัวใหญ่เขียนเอาไว้ว่าตำหนักเย่

"หมิงอ๋อง พระชายา เชิญ" เย่อวิ๋นหลานเปิดประตูห้องของเย่เซียวหลัวออก แล้วทำสัญญาณมือ

เย่กั๋วกงที่กำลังนั่งอยู่นั้น ใบหน้าของเขาเรียบเฉย จนเมื่อพบหน้าของโล่หวินหลานก็มีความหวังขึ้นมา

"ท่านหมิงอ๋อง พระชายา พวกท่านมาแล้วหรือ ใครก็ได้ ยกชามาที!" เย่กั๋วกงลุกขึ้นยืน ใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมาบ้าง

"ไม่ต้องหรอก ท่านเย่ คุณหนูสามอยู่ที่ไหน? รีบรักษาเถอะ หากช้ากลัวว่าจะไม่ทันกาล" ใบหน้าของโล่หวินหลานไร้ซึ่งอารมณ์ เพียงแต่แววตาของนางนั้นดูไม่อันตราย

สวินโม่ที่อยู่ข้างๆพยายามทำสีหน้าให้ปกติที่สุด เขาไม่คิดเลยว่าพระชายาจะเชี่ยวชาญถึงเพียงนี้

สีหน้าของคนในตระกูลเย่นั้นเปลี่ยนไปมา พวกเขามองดูเนื้อตัวของเย่เซียวหลัวที่ไม่เหมือนคนที่โดนยาพิษ ก็ยิ่งไม่อยากจะเชื่อ โดยเฉพาะเย่กั๋วกง ใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

เย่อวิ๋นเหิงมองดูโล่หวินหลาน ทั้งๆที่เป็นเพียงหญิงสาวอายุน้อย เหตุใดนางถึงมีความรู้นัก คำพูดของนางทำให้คนนั้นแปลกใจนัก

"พระชายา นั้นท่านคิดว่าตอนนี้ควรทำอย่างไร? ต้องทำอย่างไรให้หลัวเอ่อฟื้น? ต้องการสิ่งใดบ้างข้าจะรีบเตรียมมาให้" เย่กั๋วกงบอกอย่างร้อนใจ

"ก่อนอื่น ในห้องนี้มีคนมากเกินไป ทำให้อากาศไม่ถ่ายเทนางจึงหายใจลำบากขึ้น โดยเฉพาะเย่เซียวหลัวที่ตอนนี้ร่างกายอ่อนแอ อีกอย่างระหว่างที่หม่อมฉันทำการรักษาคุณหนูสามนั้น พวกท่านต้องออกไปทุกคน เพราะการรักษาของหม่อมฉันอาจจะทำให้ทุกคนตกใจได้ และห้ามไม่ให้ใครเข้าใกล้ห้องนี้ พวกท่านออกไปเถอะ ต้องรีบแล้ว" โล่หวินหลานพูดร่ายยาว และไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของนาง

เย่อวิ๋นเหิงหลายปีที่ผ่านมานั้นเขาเจอผู้คนมาไม่น้อย มีเพียงโล่หวินหลานที่ทำให้เขาตกตะลึงได้

อายุยังน้อยแต่กลับมีคำพูดที่ทำให้คนไม่สามารถขัดได้ คำพูดที่พูดออกมานั้นก็ช่างน่าเชื่อถือ

"พวกเราออกไปกันเถอะ!ข้าจะรอข่าวดีของพระชายาด้านนอก" เย่กั๋วกงรีบบอกให้ทุกคนออกไป

หลังจากที่ทุกคนออกไป โล่หวินหลานก็หายใจทั่วท้องมากยิ่งขึ้น ในห้องเงียบลงทันที อากาศที่อบอุ่นทำให้นางอุ่นใจมากยิ่งขึ้น นางมองไปยังสวินโม่และโม่ฉีหมิง จากนั้นพยักหน้า

"สวินโม่ เจ้าไปดูสิ" โม่ฉีหมิงยืนพิงบนเสา

สวินโม่รับคำ แล้วเดินอย่างเบาเสียง เขาใช้วิชาตัวเบาพริบตาเดียวก็นั่งอยู่บนเตียง จากนั้นก็ทำบางอย่างด้วยความรวดเร็ว โล่หวินหลานเองก็มองดูไม่ทัน ไม่นานเย่เซียวหลัวก็ลุกขึ้นนั่ง

"เหมือนเลือดในตัวนางถูกปิดลง อวัยวะทุกอย่างหยุดทำงาน หม่อมฉันจะลองใช้วิธีอื่นดูเพื่อจะช่วยให้ร่างกายบางส่วนของนางมีการรับรู้ขึ้นได้บ้าง" สวินโม่สกัดจุดอยู่นาน จากนั้นก็พูดขึ้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก