ตอนที่ 398 ถูกกักขังในคุก
ที่แท้ในใจของต้วนกุ้ยเฟย ได้มองเขาเป็นคนเยี่ยงนี้ตลอด ตนเองเป็นคนกระทำผิดขั้นร้ายแรงที่สุด เป็นกษัตริย์ที่ไม่สามารถให้อภัยได้ เขาไม่สามารถให้สิ่งที่เพียงพอกับนางและเวินอ๋อง
ฮ่องเต้เจียเฉิงมองต้วนกุ้ยเฟยอย่างคาดไม่ถึง ถ้าไม่ใช่วันนี้ เขาก็ไม่มีทางรู้ความคิดทั้งหมดที่นางมี
เขาเดินเข้าไปหาต้วนกุ้ยทีละก้าว และอยากจะบีบคอผู้หญิงคนนี้ให้ตายคามือตนเอง
“ท่านพ่อ หลายปีผ่านไป พวกข้าต่างไม่รู้ว่าต้วนกุ้ยเฟยเป็นเบื้องหลังของเรื่องทั้งหมด และยังทำให้ท่านแม่ต้องตายจากไป ลูกขอให้ท่านพ่อทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อให้ท่านแม่ของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์”
โม่ฉีหมิงคุกเข่าต่อหน้าฮ่องเต้เจียเฉิง และขัดขวางฝีเท้าของเขา คำพูดของเขาฟังดูหนักแน่นมาก
ฮ่องเต้เจียเฉิงพยักหน้าอย่างแรง “เรื่องนี้ ข้าต้องให้ความเป็นธรรมแก่เฉินเฟยอย่างแน่นอน”
ทั้งสองมองไปยังต้วนกุ้ยเฟย และทำท่าทางโกรธแค้นจนไม่สามารถออมมือได้ เพื่อที่จะแก้แค้นให้สาสมแก่ใจ ต่างก็กำลังคิดว่าจะเอาโทษนางเยี่ยงไรดี
แค่ทุกอย่างก็ไม่ได้นึกถึงเย่ฮองเฮา ที่เคยอิจฉาริษยาจนกลายเป็นคนขาดสติ ถึงทำให้ต้วนกุ้ยเฟยฉวยโอกาสใช้ไฟเผาเฉินเฟยให้ตาน
โล่หวินหลานฉวยโอกาสตอนนี้ทุกคนไม่สังเกตตบต้วนกุ้ยเฟยให้สลบ และหันหลังเดินไปอย่างไม่สนใจใยดี รอให้ต้วนกุ้ยเฟยตื่นขึ้นมา ก็จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วจู่ๆนางก็ถูกเพิกเฉยอย่างน่าแปลกใจ
“ทำให้กุ้ยเฟยได้เข้าไปในคุกก่อน และรอรับโทษ” ฮ่องเต้เจียเฉิงพูดขึ้นอย่างเย็นชาแล้วมองไปยังต้วนกุ้ยเฟยที่สลบคาเตียง และได้สั่งการถึง
บรรยากาศเงียบจนรู้สึกแปลกๆ ไม่มีใครกล้าร้องขอเพื่อปล่อยต้วนกุ้ยเฟยให้หลุดพ้นจากโทษ และไม่มีใครอยากขอร้องเพื่อนางด้วยเช่นกัน แค่ใช้สายตาอันเยือกเย็นมองไปรอบๆ
พูดจบ ก็หันไปมองเย่ฮองเฮา นางเป็นราชินีของแคว้น ทำไมถึงต้องกระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า และไม่รู้ถึงฐานะที่ตนเองมี
ฮ่องเต้ทำสายตาโกรธเคือง และจับจ้องเย่ฮองเฮาอย่างโหดเหี้ยม เหมือนยังไม่รู้ว่าจะลงโทษนางเยี่ยงไรดี
เขาได้นิ่งไปสักพัก แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำ “ฮองเฮา เจ้ากลับเรือนเจ้าก่อน”
ฟังจากน้ำเสียงที่เหมือนจะทำตัวห่างเหินนาง เย่ฮองเฮาไม่รู้ว่าควรโล่งอกหรือควรตื่นเต้นขึ้น แต่เขากลับไม่สบอารมณ์ใดๆ และทำตัวเฉยชาอย่างมาก
แล้วได้ตอบกลับอย่างเฉยว่ารับทราบ แล้วค่อยๆมองฮ่องเต้เดินจากไป แล้วล้มลงบนพื้น
พวกบ่าวและทหารได้เดินผ่านนางไปโดยเร็ว นางทำตาตั้งและอึ่งไปสักพักที่ไม่มีคนสนใจ สุดท้ายก็มีรองเท้าสีดำคู่หนึ่งหยุดอยู่ตรงหน้านาง
นางค่อยๆเงยหน้าขึ้น กลับเห็นใบหน้าที่ดูเลือดเย็นของโม่ฉีหมิง กำลังจะฆ่านางให้ตายทั้งเป็น
“เจ้าคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันไม่เกี่ยวกับเจ้าเลยหรือ?” โม่ฉีหมิงทำน้ำเสียงเย็นชาเหมือนดั่งผนังที่หนาวเย็น ไม่มีแม้แต่ความเมตตา
“ข้าก็จมอยู่กับความเข้าใจผิดด้วยเช่นกัน ถ้าไม่ใช่เพราะต้วนกุ้ยเฟย ข้าจะไปลงมือทำร้ายกับพวกเจ้าทำไม? เจ้าก็น่าจะรู้ดี สำหรับข้าแล้วองค์รัชทายาทสำคัญแค่ไหน?” เย่ฮองเฮากัดฟันพูดขึ้น และคิดว่านางจะไม่เกลียดหรือไง?
ลูกชายของตนเองแท้ๆ อนาคตจะต้องยาวไกล ไม่มีใครสามารถเหนือกว่าเขาได้ แต่กลับโดนทำร้ายจนป่วยหนัก นางจะไม่เกลียดคนร้ายนั้นได้เยี่ยงไร?
โม่ฉีหมิงเดินก้าวเข้าไปอีกก้าว นางกำลังต่อล้อต่อเถียงก็ช่างมันเถอะ แต่ยังคงไม่รู้จักกลับตัวกลับใจหรือรู้สึกผิด?
“เจ้ายังกล้าพูดอีกหรือว่าไม่ได้ตั้งใจจะอยากฆ่าแม่ของข้า? ต้วนกุ้ยเฟยได้ให้โอกาสเจ้าได้ปล่อยไฟเผาก็เท่านั้น ให้เจ้าลงมือกับแม่ข้าอย่างไม่ละลายใจ” โม่ฉีหมิงพูดแทงใจนางมากๆ และพูดความในใจของนางออกมาทั้งหมด
“เจ้า……” เย่ฮองเฮาจับแขนเสื้อของตนเองไว้แน่นๆ ความคิดที่ชั่วร้ายในใจของนางถูกล้วงออกมาทั้งหมด
“ทำไม? ที่ข้าพูดไม่ถูกแต่อย่างไร?” โม่ฉีหมิงทำริมฝีปากทรงโค้ง นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย
“เจ้าพูดถูก ตอนนั้นเฉินเฟยถูกรักใคร่โปรดปรานจนมิอาจมีใครสามารถมาเปรียบได้ ถึงแม้ต้วนกุ้ยเฟยไม่ลงมือทำอะไรกับองค์รัชทายาท ข้าก็ต้องจัดการกับเฉินเฟยอยู่แล้ว” เย่ฮองเฮาหยุดชะงักไป นัยน์ตาของนางขังไปด้วยน้ำตา
“แต่ว่าก็ไม่ได้จะเอาชีวิตของเฉินเฟยเร็วเยี่ยงนั้น และจะไม่ทำร้ายเจ้าที่ยังเด็กต้องโดนทำร้ายเยี่ยงนี้ด้วย ทุกอย่างมันมาได้ไม่ถูกเวลา และไม่เหมาะกับเวลานั้นๆเลย”
พูดถึงตอนสุดท้าย เย่ฮองเฮาร้องไห้จนไม่ได้สุ่มไม่มีเสียงออกมา และล้มลงกับพื้น สภาพของนางตอนนี้ไม่เหมือนฮองเฮาที่สง่าและสูงส่งเลย
นางเสียใจเยี่ยงนี้เลยหรือ?
เสียใจที่ตนเองเคยทำเรื่องนั้นขึ้น หรือว่าเสียใจเพราะเรื่องถูกล้วงลับออกมา เพื่อที่จะคุ้มครองชีวิตของตนเองจึงพูดเยี่ยงนี้ออกมา?
โล่หวินหลานมองโม่ฉีหมิงตัวสั่นเบาๆ เลยเดินไปข้างหน้า หันข้างแล้วกุมมือเขาไว้
“แต่สุดท้ายท่านแม่ก็ตายไปแล้ว” โม่ฉีหมิงค่อยๆหลับตาลง น้ำเสียงกดต่ำลงแล้วเย็นชามากๆ
เหมือนกำลังทนไม่ไหวและหมดเรี่ยวแรง แต่ว่ามือใหญ่ๆของเขากลับมีกำลังที่จับมือของโล่หวินหลานไว้ แค่มีนางอยู่เคียงข้าง เขาก็รู้สึกสงบจิตใจหน่อย
ทั้งสองก้าวไปยังประตู และผลักประตูออก แล้วมีลมที่หนาวเย็นพัดเข้ามา
“เจ้าต้องเชื่อข้า ข้าไม่ใช่อยากจะทำร้ายเฉินเฟย!เจ้าก็น่าจะเข้าใจ การเป็นแม่ บางครั้งเรื่องมากมายมันไม่ทำก็ไม่ได้” เย่ฮองเฮาวิ่งพุ่งไปทิศทางทางไปประตูแล้วตะโกนขึ้นเสียงแหบและไร้ซึ่งเรี่ยวแรง นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่ต้องรู้สึกเสียใจที่ทำลงไป
“ขอโทษ…..”ขอโทษจริงๆ
เรื่องมาถึงวันนี้ นางแพ้แล้ว แพ้ไปแล้วจริงๆ ไม่มีทางจะหวนกลับไป
ตอนนี้นางเผชิญกับโม่ฉีหมิง กลับเป็นความรู้สึกอับอายที่พูดไม่ออก ถ้าเรื่องจริงไม่ได้ถูกเปิดเผยวันนี้ นางก็คงไม่พูดคำพูดเยี่ยงนี้ออกมา
ผู้ชนะเป็นเจ้า ผู้แพ้เป็นโจร นางยอมรับว่านางแพ้แล้ว จะให้นางต่อสู้ไปยังไงมันไม่มีประโยชน์อยู่ดี
เมื่อออกจากวัง รถม้าได้ขับเคลื่อนขึ้น เหมือนรถม้าได้อยู่ห่างจากโลกภายนอก คนในรถม้าไม่ได้ยินเสียงใดๆที่เกิดขึ้นเลย
โม่ฉีหมิงกำลังเหม่อลอยจ้องมองอยู่แต่ที่เดิม โล่หวินหลานไม่เคยเห็นเขาเป็นเยี่ยงนี้เลย นางได้กุมมือใหญ่ๆนั้นไว้แน่นๆตลอดทาง และไม่ได้ปล่อยมือเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก