ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 42

ตอนที่ 42 อุปสรรค

ความสงสัยของเหล่าหมอหลวงไม่ได้ทำให้โล่หวินหลานท้อถอย นางกลับยิ้มแล้วพูดว่า “ที่พวกท่านไม่เคยได้ยินเพราะไม่เคยมีใครทำ ถึงแม้ฝีดาษจะเป็นโรคติดต่อ แต่ว่าหากใช้ยาให้ถูกต้อง ก็สามารถป้องกันได้ แล้วก็รักษาให้หายได้ด้วย”

หมอหลวงส่ายหน้า เขาไม่ได้สนใจ “คำพูดไม่มีหลักการ” ของโล่หวินหลาน เขาแค่รู้สึกว่านางแค่พูดจาเหลวไหล

“พระสนมกุ้ยเฟย เพื่อรักษาพระวรกาย ท่านออกไปก่อนจะดีกว่า อย่าเข้าไปในห้องนอนของท่านอ๋องอีกเลย ขอแค่ท่านอ๋องกินยาตามเวลาเท่านั้นก็พอแล้ว ท่านอ๋องจะหายหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวท่านอ๋องแล้ว” หมอหลวงพูด พวกเขาคิดว่าพวกเขาเก่ง ยังไงก็ควบคุมได้

ต้วนชิวเยนไม่มีทางยอมแน่นอน นางไม่มีทางปล่อยให้โม่ฉีมู่อยู่ในห้องคนเดียว แต่ว่าแต่ไหนแต่ไรมาคนที่เป็นฝีดาษก็ทำอย่างนี้ทั้งนั้น นางมองไปที่โล่หวินหลาน

หมอห่วย ทำได้แค่พูดสองคำนี้มาบรรยายให้กับพวกหมอหลวงเหล่านี้ ความรู้การแพทย์ไม่สูงยังจะมาโอ้อวดอีก คิดว่าตัวเองเก่งกาจไร้เทียมทาน

“อะไรคือขึ้นอยู่กับตัวท่านอ๋องเอง? พวกท่านไม่เคยพลิกแพลงการรักษาเลย พวกท่านไม่เคยแม้แต่จะพยายาม เคยลองหรือยัง เอะอะก็ปล่อยให้เป็นไปตามดวง? พวกท่านยังเรียกตัวเองว่าหมออีกหรอ?” โล่หวินหลานรู้สึกโมโหมาก

“พระชายา ......” หมอหลวงเองก็โมโหมากเช่นกัน คิดอยากจะพูดอะไรแต่ก็ติดอยู่ที่ปากพูดไม่ออก

พูดกับหมอพวกนี้มันเหนื่อยมากจริงๆ โล่หวินหลานนวดไปที่ขมับ จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก นางเดินไปที่ข้างเตียงของโม่ฉีมู่แล้วใช้ผ้าอุ่นๆวางไปที่หน้าผากของเขา

เหล่าหมอหลวงเห็นนางไม่สนใจคำเตือนของพวกเขา ยังเดินเข้าไปใกล้กับโม่ฉีมู่อีก ก็จ้องอย่างไม่กระพริบตา แล้วก็ซุบซิบกันกับหมอหลวงคนอื่น

ต้วนชิวเยนสีหน้าอ่อนเพลีย สายตาของนางไม่มีประกาย นางก้มหน้ามองพื้น ไม่ว่าจะหมอหลวง หรือว่าโล่หวินหลานก็ตามที ขอแค่รักษาโม่ฉีมู่ให้หายได้เป็นสำคัญที่สุด

“หมอหลวงหลี่ ท่านอาวุโสที่สุดในหมู่หมอหลวงอย่างเรา ท่านว่ารักษาฝีดาษแบบนี้จะเกิดปัญหาไหม?” หมอหลวงคนหนึ่งพูดขึ้นมาเสียงเบาๆ พอพูดออกมา หมอหลวงคนอื่นเองก็เห็นด้วยกับคำพูดของเขา

“ก็นั่นน่ะสิ แต่ว่าพระชายาหมิงอ๋องเองก็รักษาโรครัชทายาทจนหายนะ เราควรจะเชื่อหรือว่าไม่เชื่อดีล่ะ?”

หมอหลวงเฒ่าลูกเคราขาวๆของเขา แล้วจ้องไปที่โล่หวินหลาน “มีปัญหาหรอ? ยังไงก็ต้องมีปัญหาอยู่แล้ว? เด็กสาวที่ไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนหนึ่งจะรักษาฝีดาษได้ยังไง? ที่นางรักษารัชทายาทจนหายมันก็แค่บังเอิญเท่านั้น เรารอดูไปเถอะ เดี๋ยววพอเกิดปัญหาขึ้นมา เราก็ต้องมาช่วยเก็บกวาดให้อยู่ดี”

คำพูดของเหล่าหมอหลวงลอยมาเข้าหูของโล่หวินหลาน นางหยุดมือ แล้วเหลือบไปมองเหล่าหมอหลวง ดูท่านางไม่ควรใจดีมาช่วยรักษาอาการให้โม่ฉีมู่เลย ให้เขาตายๆไปซะดีกว่า

รักษาโรคง่ายๆยังต้องมาทนฟังคำพูดแบบนี้อีก

นางเช็ดหน้าผากให้โม่ฉีมู่ต่อ แล้วพูดว่า “พวกท่านหมอหลวง น่าจะรู้ดีว่าคนป่วยต้องการพักผ่อน หากพวกท่านต้องการคุยกัน ก็เชิญออกไปข้างนอก”

เสียงใสๆของนางลอยเข้าหูของทุกคน เสียงอันอ่อนโยนของผู้หญิงชัดๆ แต่พอเข้าหูของเหล่าหมอหลวงกับเป็นคำสั่งที่เด็ดขาด ทำให้รู้สึกหนาวไปถึงกระดูก

โล่หวินหลานไม่ได้มีเวลามากพอมาสนใจพวกเขา สาวน้อยที่ไปต้มยาเมื่อกี้ยกยาเดินเข้ามา

ตอนที่เดินผ่านหน้าหมอหลวงหลี่ เขาก็อดไม่ได้ที่มองว่ามันเป็นยาอะไร เขาหยิบช้อนตักยาขึ้นมาชิม

หลังจากชิมแล้วก็ขมวดคิ้ว “ไป๋หลี่เซียง หยางกันเฉ่า ผู่ถีฮว๋า ......สมุนไพรสามอย่างนี้มันยาลดไข้ธรรมดาทั่วไป หากกินตามนี้ ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะหาย”

โล่หวินหลานได้ยินดังนั้นก็ยิ้ม แล้วก็พูดว่า “หมอหลวงอย่างพวกท่านยังไม่รู้สินะว่า สภาพร่างกายของหลินอ๋องเป็นธาตุเย็นมาตั้งแต่เกิด หากใช้ยาแรงเกรงว่าจะมีผลตรงข้ามกัน ยาพวกนี้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของหลินอ๋อง”

หมอหลวงหลี่ถึงกลับอึ้งไป เขานั่งลงแบบทำอะไรไม่ถูก สาวใช้ยกยามาให้โล่หวินหลาน

ตอนที่สาวใช้กำลังจะออกไป ก็ถามว่า “พระชายา แล้วสาลี่จะให้ทำยังไงดี?”

โล่หวินหลานไม่ได้มองนางเลยแล้วพูดว่า “เอาสาลี่พวกนั้นไปให้เหล่าหมอหลวงกินเถอะ จะได้ลดความร้อนลงมาบ้าง”

สาวใช้อดหัวเราะไม่ได้ นางรับคำ แล้วก็ถอยออกไป

เหล่าหมอหลวงลูบเคราแล้วจ้องไปที่สาลี่ ในใจก็รู้สึกร้อนรน หากเป็นอย่างนี้ต่อไป จะต้องถูกพระชายาหมิงอ๋องหักหน้าอีกแน่ เขานั่งเฉยๆไม่พูดอะไรอีก ได้แต่หวังว่าอาการของหลินอ๋องจะแย่ลง พวกเขาจะได้แสดงฝีมือบ้าง

โล่หวินหลานป้อนยาให้โม่ฉีมู่อย่างระมัดระวัง ยาที่อ้วกออกมามีไม่มาก ที่กินเข้าไปมากอยู่ นางใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดปากให้เขา แล้ววางถ้วยยาลง จากนั้นก็มองไปที่ตุ่มหนองที่แขน มันไม่มีอาการเลวร้ายลง

หากจะรอตุ่มหนองพวกนี้แห้งแล้วตกสะเก็ด อย่างน้อยต้องใช้เวลาเป็นเดือน ในเวลานี้ เขาห้ามมีอาการแทรกซ้อนอย่างอื่นมากกว่า ไม่งั้นเขาทนไม่ได้ถึงเดือนแน่นอน

“พระสนม วันนี้หลินอ๋องไม่เป็นอะไรมากแล้ว ทุกคนก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ไปพักกันได้แล้วล่ะ แต่ว่าจำเอาไว้ให้ดีต้องเอาของที่หลินอ๋องใช้เก็บให้ดี อย่าเอามาปนกับของอย่างอื่น” โล่หวินหลานเดินออกมาจากหลังฉากบังลม แล้วพูดใส่คนที่นั่งอยู่

“ได้ ได้ เราจะออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่กวนมู่เอ๋อพักผ่อน” ต้วนชิวเยนไหนเลยจะกล้าปฏิเสธคำของโล่หวินหลาน นางรีบนำสาวใช้กับเหล่าหมอหลวงออกไป

เหล่าหมอหลวงเหมือนอยากจะออกจากห้องโม่ฉีมู่อยู่แล้ว เห็นต้วนชิวเยนพูด ก็รีบออกจากห้องไปเหมือนม้าเลย แต่ก็ไม่ได้ไปไหนไกล ยืนรออยู่หน้าห้อง

เมื่อออกจากห้องนอนของโม่ฉีมู่ นางก็ถอดชุดต้านเชื้อออก เมื่อกี้เห็นพวกหมอหลวงเดินตามต้วนชิวเยนไปที่เรือนตะวันออก จะต้องไปคุยเรื่องอาการของโม่ฉีมู่แน่นอน จะได้ไปเอาหน้ากับโม่ฉีสิงได้ง่าย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก