ชายามกุฎเหมย เหนือโบราณกาล นิยาย บท 24

สรุปบท บทที่ 24 โอกาสมาถึง: ชายามกุฎเหมย เหนือโบราณกาล

อ่านสรุป บทที่ 24 โอกาสมาถึง จาก ชายามกุฎเหมย เหนือโบราณกาล โดย ซูเกอ

บทที่ บทที่ 24 โอกาสมาถึง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายย้อนยุคทะลุมิติ ชายามกุฎเหมย เหนือโบราณกาล ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ซูเกอ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เห็นดังนั้น มู่จิ่งซีเลิกคิ้วขึ้น ดวงตาที่เฉียบคมนั้นประกายไปด้วยความเย็นชา ฉีกยิ้มแล้วแสร้งถามอย่างไม่เข้าใจว่า: “ไม่รู้ว่าน้องเชิญพี่มาด้วยเหตุอันใด?”

รองพระชายาเสิ่นรอยยิ้มชะงัก หันกลับไปมองฮูหยินสามคนนั้น จากนั้นก็หันกลับมามองมู่จิ่นซี แล้วพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน: “พี่ท่านเชิญนั่งก่อนเถิด”

จากนั้นก็ลากมู่จิ่งซีไปนั่งลงที่ตำแหน่งที่นางนั่งเมื่อกี้

มู่จิ่งซีสายตาประกายไปด้วยความเย็นชา หางตาเหลือบมองฉู่เทียนฉือที่นั่งอย่างตัวแข็งราวกับน้ำแข็งข้างๆ ในใจก็แอบแสยะยิ้มเย็นชา

ดูแล้วรองพระชายาเสิ่นก็รู้ว่าเรื่องนี้ตัดสินใจยาก ให้นางมานั่งตำแหน่งนี้ ก็เพราะอยากให้นางมาจัดการเรื่องนี้แทน?!

รองพระชายาเสิ่นเจ้าเล่ห์เสียจริง!

ฉู่เทียนฉือแปลกใจกับท่าทีเมื่อกี้ของมู่จิ่งซี เลิกคิ้วขึ้นจากนั้นก็กลับมาเป็นปกติ ยังคงเย็นชาราวกับน้ำแข็งอยู่

“ที่น้องเชิญพี่มาก็เพราะเรื่องของน้องฟาง เมื่อกี้พี่ให้หงหลิงพาน้องฟางกับน้องอีกสองคนมาส่งให้น้องแล้ว หลังจากที่น้องได้ฟังเรื่องทั้งหมดแล้ว ก็เลยอยากให้พี่ท่านช่วยออกความเห็นหน่อยเจ้าค่ะ” รองพระชายาเสิ่นพูดอย่างอ่อนโยน แล้วนั่งลงข้างๆมู่จิ่งซี

มู่จิ่งซรีบแก้วชามาจากสาวรับใช้ เปิดฝาแก้วชาออก แล้วปัดฟองน้ำชาออกอย่างเชื่องช้า

หลังจากจิบน้ำชาอย่างสง่างามแล้ว ก็ถึงเงยหน้าขึ้นกวาดตามองฮูหยินสามที่คุกเข่าอยู่ข้างล่างอย่างเฉยชา จากนั้นก็เอ่ยถามอย่างแปลกใจว่า: “เรื่องนี้ยังไม่ได้จัดการอีกหรอกหรือ?”

สีหน้าของรองพระชายาเสิ่นชะงักค้างไปชั่วครู่ ในใจรู้สึกเกลียดชังขึ้นมา

เรื่องของฮูหยินสามจัดการยากอยู่เหมือนกัน หากจัดการได้ไม่ดีอาจจะทำให้คนอื่นนินทาได้ และวันนี้ท่านอ๋องก็อยู่ด้วย ก็คงตัดสินยากกว่าเดิม ดังนั้นก็ถึงเชิญมู่จิ่งซีมา ให้นางจัดการเรื่องนี้แทน

ตอนนี้ คำถามของมู่จิ่งซีทำให้คนคิดว่านางจัดการงานไม่เป็น แอบกัดฟันกรอดอย่างโมโห เหลือบตามองไปยังฉู่เทียนฉือ

“เมื่อกี้น้องฟางก็เล่าเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้วครั้งหนึ่ง น้องว่าในนี้ต้องมีเรื่องน่าสงสัยแน่นอน แต่ยังไงเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจากเรือนดอกเหมย น้องก็ไม่กล้าตัดสินง่ายๆ”

“ก็เลยคิดว่า เรื่องนี้ให้พี่มาจัดการเองจะดีกว่า ก็ถึงจะทำให้ข้าทาสบริวารในเรือนนับถือ” รองพระชายาเสิ่นพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

คำพูดนั้นมีความหมายชัดเจน เรื่องนี้เกิดขึ้นที่เรือนดอกเหมย ถึงแม้จะเกิดเรื่องขึ้นก็ต้องให้เจ้าของเรือนดอกเหมยรับผิดชอบ ไม่เกี่ยวข้องกับนาง

ได้ยินดังนั้น มู่จิ่งซีก็แอบแสยะยิ้มเย็นชาในใจ

รองพระชายาเสิ่นช่างเล่ห์เหลี่ยมเสียจริง! วิเคราะห์สาเหตุได้อย่างแจ่มแจ้ง

กลอกตาไปมา แสยะยิ้มมุมปากอย่างรู้ทัน

ในเมื่อทุกคนคิดคำนวณมาดีขนาดนี้ นางก็ต้องเอาใจทุกคน ตามน้ำทุกคนไป แต่ว่า……รอยยิ้มกว้างขึ้น ความร่วมมือนี้ก็มีราคาเช่นกัน!

“หื้ม? ได้ยินน้องพูดเช่นนี้ พี่เองก็สมควรจัดการเรื่องนี้เหมือนกัน” มู่จิ่งซีพยักหน้าแล้วพูด

หงหลิงร้อนรนใจมาก ฝ่ามือเต็มไปด้วยเหงื่อ พระชายาจะตอบตกลงทำไมกัน?!

เรื่องนี้ลำบากนัก มีแต่ผลักภาระออกไป ทำไมถึงยังเอาปัญหาเข้ามาอีก?

ฮูหยินสามที่คุกเข่าอยู่ข้างล่างก็ใจเต้นตึกตัก กระวนกระวายจิตใจ ตอนนี้ถึงแม้นางจะปากดีแค่ไหน ก็ไม่อาจหนีรอดไปได้

แอบมองไปยังฉู่เทียนฉือที่เงียบไม่พูดไม่จา ตั้งแต่เมื่อกี้จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยมองนางเลย ได้แต่เพียงหวังว่าท่านอ๋องจะสืบหาความจริง พิสูจน์ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับนาง

ฮูหยินใหญ่กับฮูหยินสี่ก้มหน้าอยู่ตรงหน้าฉู่เทียนฉือ พวกนางทำได้แค่ถ่อมตัวไม่พูดอะไร ก็ถึงปลีกตัวออกจากเรื่องนี้ได้

ส่วนฮูหยินสาม มีความสัมพันธ์กันแค่เพื่อนแบบผิวเผิน หากมีเรื่องขึ้นมาจริงๆ ก็ต้องแยกตัวออกมาจากดีกว่า!

ฉู่เทียนฉือหันไปมองมู่จิ่งซี เขาก็สงสัยเหมือนกับรองพระชายาเสิ่น มู่จิ่งซีไม่รู้หรือว่าเรื่องนี้ร้ายแรงแค่ไหน? ทำไมถึงเอาปัญหาใส่ตัวแบบนี้?!

มู่จิ่งซีเห็นบรรยากาศแปลกๆไป ก็เลยยิ้มแล้วหันไปพูดกับฉู่เทียนฉือว่า: “ท่านอ๋องรู้สึกว่าเรื่องนี้ควรให้ใครจัดการเจ้าคะ?”

รองพระชายาเสิ่นตกใจจนหัวใจหยุดเต้น สมองหยุดหมุน ไม่เข้าใจกับการกระทำของมู่จิ่งซีเลย

ท่านอ๋องจะยอมให้มู่จิ่งซีจัดการเรื่องในเรือนอีกครั้งได้อย่างไร?!

สีหน้าซีดเผือด สมองว่างเปล่า ก็เห็นฉู่เทียนฉือแอบส่งสายตาปลอบใจมาให้นาง นางก็เข้าใจได้ทันทีว่า เรื่องนี้จัดการค่อนข้างยาก

เขาจะต้องเป็นห่วงกลัวว่าผู้คนจะวิจารณ์นาง และหาเรื่องใส่ตัวได้ ไม่อยากให้นางลำบากใจมากเกินไป ก็ถึงตอบตกลงคำขอของมู่จิ่งซี!

เพราะยังไง เขาก็เป็นผู้ชาย เรื่องในเรือนภายใน เขาจะเข้ามายุ่งเกี่ยวไม่ได้!

ยิ่งไปกว่านั้น มู่จิ่งซีแค่ช่วยนาง คนที่ยังจัดการตัดสินเรื่องในจวนก็ยังเป็นนางอยู่ดี!

หลังจากคิดได้แล้ว ก็ลุกขึ้นโค้งคำนับมู่จิ่งซี “งั้นเรื่องนี้ก็ให้พี่ท่านจัดการเองทั้งหมด หากพี่ต้องการให้น้องทำอะไร น้องจะช่วยเต็มที่เจ้าค่ะ”

มู่จิ่งซีที่ก้มหน้าจิบชาก็แสยะยิ้มมุมปาก เหมือนไม่เห็นสายตาของพวกเขาสองคนที่ส่งกันไปมา และเหมือนไม่รู้ว่านี่เป็นแผนการที่คำนวณมาอย่างดี

ศึกในครั้งนี้ ยังไม่รู้เลยว่าผู้ชนะจะเป็นใคร

มู่จิ่งซีเป็นคนที่สู้ศึกในงานห้างสรรพสินค้ามาก่อน จะถูกคนวางกับดักแล้วไม่รู้ตัวได้อย่างไร?

อำนาจนี้คงแย่งกลับมาง่ายๆไม่ได้

ถึงแม้อีกฝ่ายจะวางกับดักมา แต่ก็มีการพัฒนาไปอีกขั้นแล้ว

โอกาสส่งมาถึงหน้าประตู จะไม่คว้าไว้ได้อย่างไร!

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความสามารถของนาง จัดการเรื่องแค่นี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร!

“งั้นพี่ก็ต้องขอบใจน้องมากเลยนะ” มู่จิ่งซีตอบกลับด้วยรอยยิ้มเรียบเฉย สายตาเป็นประกาย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายามกุฎเหมย เหนือโบราณกาล