ชายามกุฎเหมย เหนือโบราณกาล นิยาย บท 25

ตอนที่มู่จิ่งซีลุกขึ้นอย่างเรียบเฉย สายตาที่เฉยชานั้นก็กวาดตามองไปยังฉู่เทียนฉือ

ฉู่เทียนฉือนัยน์ตาสีดำขลับมืดมน สีหน้าแข็งทื่อ ริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรง

มู่จิ่งซีทำเหมือนไม่เห็น ฉีกยิ้มร่าเริงให้เขา หันไปพูดกับฮูหยินสามที่คุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างหวาดกลัว: “เมื่อกี้ข้าคิดไปคิดมา ถึงแม้ภาพต้องห้ามนั้นจะเป็นภาพที่ฮูหยินสามส่งมาให้ข้า แต่ตัวอักษรบนภาพนั้น เห็นได้ชัดว่าเพิ่งเขียนเพิ่มลงไปเมื่อสองวันก่อน หากเป็นเช่นนี้แล้ว ฮูหยินสามก็จะน่าสงสัยน้อยลง”

ฮูหยินสามที่คุกเข่าอยู่บนพื้นเบิกตาโพลง ไม่อยากจะเชื่อว่ามู่จิ่งซีจะช่วยนาง ดวงตาของนางเป็นประกาย มองมู่จิ่งซีด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง

รองพระชายาเสิ่นขมวดคิ้วแน่น สงสัยว่านางจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร?

“มีคนคิดที่จะทำร้ายบ่าวจริงๆ ขอพระชายาคืนความยุติธรรมให้บ่าวด้วยเจ้าค่ะ!” ฮูหยินสามคำนับโขกหัวลงพื้นแรงๆสามที น้ำตาเอ่อล้นแล้วพูดอย่างน่าสงสาร

“งั้นก็พูดมาก่อน นอกจากเจ้าแล้วใครเคยแตะภาพนี้อีก หรือมีใครรู้อีกว่าเจ้าจะมอบภาพนี้ให้แก่ข้า?” มู่จิ่งซีถามเสียงต่ำ

ฮูหยินสามหัวใจเต้นตึกตัก ได้ยินคำพูดของมู่จิ่งซี ลูกตาก็เริ่มหมุนไม่หยุด

สุดท้าย ดวงตาของนางเป็นประกาย รีบถามว่า: “ภาพนี้บ่าวเก็บสะสมไว้ในกล่องมาตลอด ไม่เคยเอาออกมาเลย สองวันนี้เพิ่งเอาออกมาจากกล่องเจ้าค่ะ”

“ผู้ที่เคยเห็นภาพนี้ก็มีแต่สาวใช้ชั้นสองยู่รุ่นที่อยู่ในห้องของบ่าว นอกจากนี้แล้ว ยังมีแม่นมสองคนเคยเข้ามาในห้องของบ่าวเมื่อสองวันก่อน พวกนางไป……”

พูดถึงตรงนี้ ฮูหยินสามก็อึกอัก เหมือนมีเรื่องลำบากใจ และอยากปกปิดอะไรสักอย่าง

มู่จิ่งซีถามอย่างเย็นชา: “หากไม่อยากตาย ก็พูดต่อ!”

ฮูหยินสามได้ยินน้ำเสียงที่เย็นชาแล้วก็ตัวสั่นเทากว่าเดิม ริมฝีปากสั่นไม่หยุด ก้มหน้าลงไปจนสุด น้ำเสียงสั่นเทาและแหบแห้ง: “แม่นมสองคนไปซื้อยาเสน่ห์ตามที่บ่าวสั่งเจ้าค่ะ……”

ยาเสน่ห์งั้นเหรอ? มู่จิงซีแอบแสยะยิ้มเย็นชาในใจ สายตาแอบเหลือบไปมองฉู่เทียนฉือ

แต่เขากลับมองฮูหยินสามด้วยสายตาที่รังเกียจ

ภายในจวนอันกว้างใหญ่นี้ เพื่อที่จะได้รับความโปรดปรานจากผู้ชาย ผู้หญิงทำได้ทุกอย่าง นี่เป็นความลับที่ทุกคนรู้ดีแก่ใจ

พูดออกไปก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่แปลกที่ฉู่เทียนฉือจะรังเกียจ

รองพระชายาเสิ่นมองมู่จิ่งซีด้วยสีหน้าใจเย็น ถึงแม้ภายนอกจากดูใจเย็น แต่ภายในกลับลนลานไปหมด

หากมู่จิ่งซีจัดการเรื่องนี้ได้อย่างราบรื่นจริงๆ งั้นมู่จิ่งซีก็จะมีสิทธิ์เข้ามาร่วมกันจัดการเรื่องในเรือนได้

ฮูหยินสามในตอนนี้อับอายจนไม่กล้าเงยหน้ามองใครอีกแล้ว

ฮูหยินใหญ่กับฮูหยินสี่ก้มหน้า ถึงแม้พวกนางสองคนจะสะใจ แต่ก็กลัวจะหาเรื่องใส่ตัว เพราะยังไงเรื่องการส่งของขวัญก็เป็นเรื่องที่พวกนางคิดมาด้วยกัน

มู่จิ่งซีครุ่นคิดสักพัก ก็สั่งหงหลิง: “นำตัวยู่รุ่นกับแม่นมสองคนนั้นขึ้นมา”

ผ่านไปสักพัก ยู่รุ่นกับแม่นมสองคนก็ก้มหน้าเดินเข้ามา

เพิ่งเข้ามาถึงห้องโถง ก็คุกเข่าพร้อมกันอย่างรวดเร็ว

“รู้ไหมว่า ข้าเรียกพวกเจ้ามาด้วยเหตุอันใด?” มู่จิ่งซีกวาดตามองพวกนางแล้วถามด้วยอย่างเข้มงวด

สามคนสบตากันเลิ่กลั่ก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายามกุฎเหมย เหนือโบราณกาล