ตอนที่ 128 การตอบแทนอย่างไม่คาดฝัน
คุกน้ำใต้ดินแห่งนี้น่าจะมีผู้คุ้มกันคนอื่นๆอีก เจ้ารีบไปหาอาจารย์เจ้าก่อนเถิด ข้าจะไปดูรอบๆเพื่อถ่วงเวลาผู้คุ้มกันคนอื่นๆ” หลังจากเข้ามาในคุกน้ำฯ สีหน้าของเทียนหยุนจือเองก็ดูแย่มาก
หลินซินเยียนรีบรับคำ มองดูเทียนหยุนจือที่หันกายจากไป นางเพิ่มความรวดเร็วในการเดินมากขึ้น คุกแห่งนี้มีขนาดใหญ่กว่าที่นางคิด ทางเดินตรงกลางสร้างด้วยหินกั้นแบ่งออกเป็นสองฝั่ง แต่ละฝั่งจะมีห้องคุมขังอยู่สิบกว่าห้อง ระหว่างห้องขังก้จะมีรั้วไม้กั้นอีกที
สิ่งที่น่าตกใจมากที่สุดคือ ห้องขังจำนวนหลายสิบได้จองจำผู้คนไว้เกือบหมดทุกห้อง เพียงแต่หลายคนนั้นสาหัสจนดูเหมือนว่าได้สูญเสียแสงสว่างของชีวิตไปแล้ว แม้แต่การที่มีคนแปลกหน้าเข้ามาก็ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
หลินซินเยียนเดินมาจนสุดปลายทางเดินก็ยังไม่พบท่านเยว่ ใจก็ยิ่งร้อนรุ่ม แต่ก็ปลอบใจตนเองว่าตัวตนของท่านเยว่ในศาลาความลับแห่งสวรรค์ ถึงแม้จะต้องถูกคุมขังก็ควรปฏิบัติเป็นอย่างดีแทนที่จะส่งเขาเข้าตะราง เขาลงทุนลงแรงเพื่อศาลาความลับแห่งสวรรค์มาหลายสิบปี ถ้าหากยังทารุณกรรมเขา เช่นนั้นประมุขศาลาความลับแห่งสวรรค์ก็ยากที่จะได้รับความน่าเชื่อถือแล้วล่ะ
ปลายทางเดินมีประตูเหล็กบานหนึ่ง บนประตูเหล็กมีช่องหน้าต่างขนาดเท่ากำปั้นใหญ่ๆอยู่หนึ่งบาน นางเขย่งปลายเท้าเพื่อมองเข้าไปยังด้านใน เมื่อนางได้เห็นเข้า นางถึงกับผงะถอยหลัง
ภายในประตูเหล็กบานนั้นที่กำลังปิดอยู่ เป็นท่านเยว่อย่างที่คาด เขาถูกจองจำไว้ในสถานที่ที่แตกต่างจากที่อื่น แต่ว่า….
หลินซินเยียนรีบยกมือป้องปากของตนเองที่กำลังสั่นกลัว เมื่อได้สติจากอาการตกตะลึงเมื่อชั่วครู่ นางกัดฟันเผชิญหน้า แล้วเขย่งปลายเท้ามองลอดเข้าไปในช่องประตูเหล็กอีกครั้ง
นางหวังอย่างมาก ว่าฉากที่เพิ่งจะเห็นนั้นเป็นแค่ภาพลวงตา เนื่องจากนางหวาดกลัวกับภาพที่จินตนาการไว้ ทว่าตอนนี้สิ่งนางเห็นก็ยังคงเป็นชายชราซูบเซียวที่ถูกแขวนไว้บนตะขอเหล็ก
ท่านเยว่ถูกแขวนห้อยบนตะขอเหล็กที่อยู่บนกำแพง ตะขอเหล็กคล้องผ่านหัวไหล่ทั้งสองข้าง ปลายแหลมนั้นแหลมยื่นจนไปถึงใต้คางของเขา เลือดสดๆไหลออกมาจากกระดูกสะบักอย่างต่อเนื่องและไหลผ่านตามหน้าอกจนถึงช่วงเอว หลังจากนั้นก็รินไหลลงมาตามต้นขา จนท้ายที่สุดก็ได้ไหลหยดลงมาจากปลายเท้าของเขา...
สายตาของนางเพ่งไปที่เท้าทั้งสองข้างของเขา ช่วงเท้าที่เต็มไปด้วยเลือดปรากฏขึ้นในดวงตาทั้งคู่ของนาง โดยเฉพาะนิ้วเท้าทั้งสิบนั่น นึกไม่ถึงว่าแม้แต่นิ้วเล็บก็ถูกดึงออกมา!
“เป็นไปได้อย่างไร! เป็นไปได้อย่างไรกัน!” หลินซินเยียนรู้สึกอั้ดอั้นราวกับว่าตนจะหายจะไม่ออก เรื่องนี้มีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง หรือว่านางพลาดอะไรไปกันแน่? นั่นคือท่านเยว่ ผู้อาวุโสที่สี่ของศาลาความลับแห่งสวรรค์เชียวนะ ทำไมพวกนั้นจึงทำกับเขาเยี่ยงนี้?
น้ำตาพร่าพร่างไหลหล่นเป็นสาย นางรู้ดีว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่นางจะมาระบายอารมณ์โศกเศร้า นางกัดฟันทดลองเข้าไปเปิดประตู แต่ทว่าประตูเหล็กนั่นปิดไว้แน่นหนามาก นางใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีแต่ประตูเหล็กก็ไม่ทีท่าทีว่าจะเขยื้อน
ในขณะที่นางกำลังรีบร้อนอยู่นั้นกลับได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างหลัง เมื่อหันกลับไปก็เห็นเทียนหยุนจือที่กำลังรีบเข้ามาหา
“พวกผู้คุมมากันแล้ว พวกเราต้องไปจากที่นี่” เทียนหยุนจือฉุดแขนของนางเดินไปยังอีกด้าน
หลินซินเยียนขัดขืน “ไม่! ข้ารู้สึกว่าเรื่องนี่มีบางอย่างไม่ถูกต้อง ข้าต้องไปถามอาจารย์ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ถ้าหากเป็นเรื่องการลักขโมย แม้ว่าอาจารย์จะเป็นแค่ผู้ต้องสงสัย พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องใช้บทลงโทษที่ร้ายแรงเช่นนี้กับเขาสิ!”
เทียนหยุนจือชะงัก แปลกใจกับคำพูดของนาง “เจ้าพูดว่าท่านเยว่ถูกลงโทษร้ายแรง?”
หลินซินเยียนพยักหน้าด้วยความหดหู่เสียใจ ชี้ไปทางประตูเหล็กบานนั้น “ท่านเข้าไปดูเองสิ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...