ตอนที่ 108 ของจริงส่งถึงหน้าประตู
พอมู่น่อนน่อนออกมาจากห้องอาหาร ก็รีบวิ่งไปชั้นบนราวกับมีผีไล่หลังมา กลับเข้าไปในห้องนอน
ปิดประตูลง เธอยืนพิงประตูแล้วเอามือตบอกตัวเอง
ถึงว่า”เฉินเจียฉิน”ชอบเอาแต่หยอกเย้าเธออยู่เรื่อย หยอกแล้ววิ่งหนีนี่มันตื่นเต้นอย่างนี้นี่เอง!
หลังจากสงบลงแล้ว มู่น่อนน่อนก็กดล็อกประตูอย่างระมัดระวัง ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ
เธอไม่ได้คิดที่จะทำอะไรกับ”เฉินเจียฉิน”เลยแม้แต่น้อย
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเฉินถิงเซียวแล้วอย่างไร
......
คืนนั้น”เฉินเจียฉิน”ไม่ได้ไปหามู่น่อนน่อนแต่อย่างใด
วันที่สองเป็นวันเสาร์ ในใจของมู่น่อนน่อนยังกังวลเรื่องของเฉินเจียฉินอยู่ ตอนเช้าเธอไปส่งอาหารให้เขาไม่ได้ เลยสั่งอาหารจากข้างนอกไปให้เขา
ของเมื่อคืนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจัดการได้อย่างไร
เด็กคนนั้นเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่มากเกินไป ถ้าเป็นลูกของเธอเอง เธอคงตีขาเขาให้หักไปแล้ว
แต่ว่า ถ้ามองในอีกมุมหนึ่ง เด็กคนนี้ค่อนข้างกล้าหาญเลย
พอมู่น่อนน่อนสั่งอาหารให้เขาเสร็จ ก็แอบย่องเปิดประตูออกไปเหมือนขโมย
เธอเดินไปที่ราวกั้นของทางเดินบนชั้นสอง หันซ้ายแลขวา เพื่อมองหาเงาของ”เฉินเจียฉิน”ในห้องรับแขก
พอยืนยันแล้วว่า”เฉินเจียฉิน”ไม่ได้อยู่ที่ห้องรับแขก เธอก็รู้สึกโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง ตอนที่กำลังจะหันกลับ ก็ได้ยินเสียงเยือกเย็นของ”เฉินเจียฉิน”ดังมาจากทางด้านหลัง “กำลังมองอะไรลับๆล่อๆ”
มู่น่อนน่อนตกใจจนสะดุ้ง และเผลอถอยหลังไปสองก้าว แต่ว่าด้านหลังเป็นราวกั้น เธอเลยไม่เหลือที่ให้ถอยอีก
“เฉินเจียฉิน”เองก็เพิ่งตื่นเหมือนกัน และดูเหมือนวันนี้คงไม่มีความคิดที่จะออกไปข้างนอก ดังนั้นเขาก็เลยสวมชุดอยู่บ้าน เสื้อผ้าอยู่บ้านที่เนื้อผ้านิ่มและตัวหลวม ลดความดุดันบนตัวเขาลงไปได้ไม่น้อย ทำให้เขาดูสง่าและมีระดับมากขึ้น
แน่นอนว่า นั่นเป็นก่อนที่เขาจะเปิดปากพูดเท่านั้น
“เฉินเจียฉิน”เดินมาด้านหน้าอีกก้าวหนึ่ง ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนไม่ถึงห้าเซนติเมตร “ทำเรื่องน่าละอายใจ เลยกลัวว่าใครจะรู้เข้าเหรอ”
มู่น่อนน่อนแทบจะสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิบนผิวหนังของเขา
มู่น่อนน่อนเม้มปาก เผลอจับราวกั้นที่อยู่ด้านหลังไว้อย่างไม่รู้ตัว ราวกับกำลังแสวงหาความปลอดภัย
ตอนที่เงยหน้าขึ้นมา ก็ไม่เหลือร่องรอยของความตื่นตระหนกบนใบหน้าของเธอแล้ว ดวงตางดงามที่คล้ายตาแมวนั้นแฝงด้วยความชุ่มชื้น บวกกับรอยยิ้มมีเสน่ห์ และน้ำเสียงที่อ่อนโยน “ฉันทำเรื่องน่าละอายใจอะไร แล้วกลัวว่าใครจะรู้เข้า ในใจคุณก็รู้ดีที่สุดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”
ขณะที่มู่น่อนน่อนพูด มืออีกข้างก็ลูบบนแผ่นอกเขา นิ้วเรียวยาวนุ่มนิ่มนั้นเสียดสีแผ่วเบาผ่านบนเนื้อผ้าของชุดอยู่บ้าน ราวกับแมวน้อยที่ยังไม่มีเล็บงอก ข่วนทีหนึ่ง ก็รู้สึกคันยุบยิบไปถึงหัวใจ
สีของดวงตาเฉินถิงเซียวเข้มขึ้น ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือของมู่น่อนน่อนที่กำลังลูบไล้แผ่นอกเขาเอาไว้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงขมขื่นว่า “ก่อนหน้านี้ยังมั่นคงกับเฉินถิงเซียวอยู่ แต่ตอนนี้กลับมายั่วยวนฉันแบบนี้ ผู้หญิงอย่างพวกเธอนี่ช่างเอาแน่เอานอนไม่ได้เลยจริงๆ”
ถึงแม้ว่ามู่น่อนน่อนจะไม่ชินกับการถูกผู้ชายจับมือไว้แบบนี้ แต่ว่าตอนนี้ตัวตนของเธอก็คือผู้หญิงที่หลงรัก”เฉินเจียฉิน” และอยากจะยั่วยวนเขา เลยจะถอนมือกลับมาไม่ได้
เธอมองเขาด้วยแววตาเปื้อนยิ้ม “จะเอาแน่เอานอนไม่ได้ได้ยังไงล่ะ ขอแค่เป็นผู้หญิงที่ยังสมองดีอยู่ ก็คงเลือกแบบเดียวกับที่ฉันเลือกทั้งนั้นแหละ”
ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง มู่น่อนน่อนก็เขย่งปลายเท้า แล้วขยับเข้าไปพูดข้างหูเขาว่า “ฉันรู้สึกว่าผู้ชายอย่างพวกคุณต่างหากที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ก่อนหน้านี้คุณเอามาคอยยั่วยุฉัน แต่ตอนนี้พอฉันไปหาคุณถึงหน้าประตู คุณกลับบอกว่าฉันเอาแน่เอานอนไม่ได้ ผู้ชายอย่างพวกคุณเลวแบบนี้กันทุกคนหรือเปล่า ส่งถึงหน้าประตูก็ไม่เอา แต่พอเอามาไม่ได้ก็ยิ่งอยากจะไปยั่วยุ”
มู่น่อนน่อนอยากจะด่าเขามาตั้งนานแล้ว เธอไม่เคยรู้สึกสะใจขนาดนี้มาก่อน
เฉินถิงเซียวจะฟังไม่ออกได้อย่างไรว่ามู่น่อนน่อนกำลังเปลี่ยนวิธีการในการด่าเขาอยู่ แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่ค่อยเข้าใจก็คือ วันสองวันนี้ผู้หญิงคนนี้ไม่ค่อยปกติ
เธอคงจงใจเข้ามายั่วยุเขา แต่พอเขาเข้าไปใกล้ ก็เห็นได้ชัดว่าเธอตื่นเต้นจนตัวแข็งทื่อ
หรือว่าเธออยากจะอ้อนวอนให้เขาช่วยบริษัทมู่ซื่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...