ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 135

บทที่135 ไม่คิดจะจูบลากับฉันเหรอ ?

ตอนที่ออกไปทานข้าวเที่ยง พอมู่น่อนน่อนเดินออกมาจากตึกของบริษัทมู่ซื่อ ก็เห็นเฉินถิงเซียวพิงรถอยู่ไม่ไกล

เขาสวมสูทสีดำเรียบร้อย สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวไม่ผูกเนกไท กระดุมสองเม็ดที่คอเสื้อถูกปลดออก จนดูเหมือนคนเกเรเล็กน้อย

มู่น่อนน่อนหยุดเท้าลงทันที ชะงักไปครู่หนึ่ง

เฉินถิงเซียวมองตรงมาที่เธอ เขายืดตัวให้ตรง แต่ไม่มีท่าทางอย่างอื่นอีก และไม่ได้เปิดปากพูดอะไร เพียงแต่มองจ้องมายังทิศทางที่เธออยู่เท่านั้น

ความหมายของเขาก็คือให้เธอไปหาเขาเร็วๆ

มู่น่อนน่อนเม้มปาก เชิดคางขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็เดินมุ่งหน้าไปหาเขา

พอเดินเข้าไปใกล้แล้ว เธอก็กอดอกด้วยมือสองข้าง ตรงหว่างคิ้วมีร่องรอยแคลงใจ “ท่านประธานใหญ่เฉินมาหาฉันมีธุระอะไรเหรอคะ ?”

น้ำเสียงของเธอดูสบายๆ แต่ภายในใจของเธอกลับค่อนข้างตื่นเต้น

นี่คือ “เฉินเจียฉิน” ที่กลับไปเป็นเฉินถิงเซียวแล้ว และมู่น่อนน่อนได้พูดคุยกับเขาแบบนี้เป็นครั้งแรก

ตอนที่เผชิญหน้ากับเฉินถิงเซียว ในเวลาส่วนใหญ่แล้วเธอก็รู้สึกกลัวเขาอยู่บ้าง นั่นเป็นความกลัวรูปแบบหนึ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้แข็งแกร่งซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์

พอเฉินถิงเซียวได้ยินอย่างนั้น ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ ?”

“ท่านประธานใหญ่ของบริษัทเสิ้งติ่ง” รอยยิ้มในแววตาของมู่น่อนน่อนค่อนข้างเย็นชา “ขอบคุณที่ก่อนหน้านี้คุณเห็นคุณค่าฉัน และยังส่งคำเชิญสัมภาษณ์มาให้ฉันด้วย”

เฉินถิงเซียวหรี่ตาเล็กน้อย สีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงออกถึงอารมณ์ใดๆอย่างชัดเจน เพียงแค่ภายในเสียงทุ้มนั้นแฝงด้วยความรู้สึกไม่พอใจที่ยากจะสังเกตเห็น “ใครเป็นคนบอกเธอ ?”

“ใครจะบอกฉันแล้วมันเกี่ยวอะไรด้วย ?” มู่น่อนน่อนสีหน้าเย็นชา เลิกคิ้ว “ในเมื่อคุณเลือกที่จะปิดบังตั้งแต่แรก ก็ต้องมีวันถูกเปิดเผยเข้าสักวันอยู่แล้ว”

พอเฉินถิงเซียวได้ยินคำพูดของเธอแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าจะโมโห แล้วพูดอย่างไม่ทุกข์ร้อนว่า “แล้วยังไง ? เธอคิดจะทำอะไรล่ะ ?”

พอเห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจของเขา ก็ทำให้มู่น่อนน่อนพูดอะไรไม่ออกทันที

แล้วเธอจะทำอะไรได้ ?

ถึงแม้ว่าเฉินถิงเซียวจะปิดบังหลอกลวง แต่เธอก็ทำอะไรเขาไม่ได้อยู่ดี

แต่ว่า เธอก็ข้ามกำแพงนี้ในจิตใจไปไม่ได้ ให้แสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วใช้ชีวิตอยู่กับเขาไม่ได้

เรื่องเมื่อคืนเธออาจจะหุนหันพลันแล่นไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจภายหลัง

มู่น่อนน่อนเม้มปาก จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป

เฉินถิงเซียวจ้องมองเงาของแผ่นหลังเธออยู่หลายวินาที จากนั้นค่อยเดินตามไปอย่างไม่รีบร้อน

ทั้งสองคนเดินหน้าหนึ่งหลังหนึ่งเข้าไปในร้านอาหาร

พอมู่น่อนน่อนนั่งลง เฉินถิงเซียวก็นั่งลงตาม

มู่น่อนน่อนพูดอย่างอารมณ์ไม่ดีว่า “คุณตามมาทำไม ?”

ในแววตาของเฉินถิงเซียวฉายแววจริงจังขึ้นมาเล็กน้อย “เมื่อกี้ที่ฉันถามเธอ เธอยังไม่ได้ให้คำตอบ เธออยากจะทำยังไงกับฉัน ?”

“ฉันจะทำอะไรคุณได้ ?”

“เธออยากจะทำอะไรก็ได้”

มู่น่อนน่อนเกือบจะถูกเฉินถิงเซียวปั่นหัวจนสลบแล้ว อายุของทั้งสองคนรวมกันก็ครึ่งร้อยแล้ว แต่กลับยังมาพูดจาอ้อมไปอ้อมมาอยู่ตรงนี้ราวกับเด็กๆ

“ฉันอยากให้คุณไปห่างๆจากฉันหน่อย” ตอนนี้แค่เธอเห็นเฉินถิงเซียวก็รู้สึกรำคาญใจแล้ว

ตอนนี้เธอนั่งอยู่ตรงหน้าของเฉินถิงเซียว รู้สึกว่าตัวเองช่างโง่เง่ามาก

จากต้นจนจบ ทุกสิ่งทุกอย่างของเธอต่างก็อยู่ในเงื้อมมือของเฉินถิงเซียว

ทุกการกระทำของเธอ ทั้งหมดของเธอ เฉินถิงเซียวนั้นรู้ดีทั้งหมด

ส่วนเรื่องของเฉินถิงเซียว เธอกลับไม่รู้อะไรเลยสักนิด

ตอนแรกที่เขายังเป็น “เฉินเจียฉิน” นั้น ถึงแม้ในใจเธอจะรู้สึกหวั่นไหว แต่เพราะว่าทั้งสองคนเป็น “ญาติกัน” เลยยังมีพื้นที่ให้เจรจา

แต่หลังจากที่เขาเป็นเฉินถิงเซียวแล้ว ความหวั่นไหวในใจก็เริ่มฝังรากลึก จนแตกหน่อผลิใบ เมื่อความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นที่ประจักษ์แล้ว เธอก็เริ่มอยากจะให้มีความสมดุลในความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม