บทที่ 161 ก็แค่คิดได้แล้วเท่านั้น – ตอนที่ต้องอ่านของ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
ตอนนี้ของ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดย Meow(○` 3′○) ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 161 ก็แค่คิดได้แล้วเท่านั้น จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 161 ก็แค่คิดได้แล้วเท่านั้น
“เรื่องสถานีตำรวจหรือ” มู่น่อนน่อนยังคงต่อสู้กับกระดูกในชาม พูดโดยไม่เงยหน้าขึ้นมา “ก็คือมีคนคิดร้ายกับเสิ่นเหลียง หยิบเสื้อผ้าหล่อนไป อยากจะถ่ายรูปแบบนั้นของหล่อน……”
“คุณก็รู้ว่าที่ผมถามไม่ใช่เรื่องนี้” เฉินถิงเซียวตัดบทเธออย่างเย็นชา รอบๆมีความเย็นยะเยือกแพร่กระจายอยู่โดยรอบ
ทันใดนั้นมู่น่อนน่อนก็ไม่มีกะจิตกะใจจะกินต่อไปแล้ว เช็ดไม้เช็ดมือลุกขึ้นยืนพูดว่า “ฉันกินอิ่มแล้ว”
เมื่อคืนตอนที่เขารีบร้อนออกไป ทำไมไม่ถาม ทำไมไม่พูด
ตอนนี้กลับมาถามเธอ
เห็นได้ชัดเจนมากว่าเฉินถิงเซียวไม่คิดจะปล่อยเธอไปง่ายๆ
เขาลุกขึ้นยืน ขาเรียวยาวก้าวยาวๆมาด้านหน้า สองสามก้าวก็ตามมู่น่อนน่อนทันแล้ว
เฉินถิงเซียวรั้งข้อมือเธอเอาไว้ ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดของตนเอง อีกมือบีบใต้คางเธอไว้ เสียงขรึม “มู่น่อนน่อน คุณมองผม”
มู่น่อนน่อนจ้องมองที่ใบหน้าเขาอย่างจริงจังด้วยความซื่ออยู่หลายวินาที จากนั้นก็พยักหน้าพูดว่า“ก็ยังหล่อเหมือนกับเมื่อวาน”
น้ำเสียงพูดอย่างขอไปทีของเธอ ทำให้เฉินถิงเซียวเพิ่มแรงที่มือมากยิ่งขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้มู่น่อนน่อนขมวดคิ้ว พูดอย่างกับยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้ม “ทำฉันเจ็บแล้ว ทำขาฉันเจ็บยังไม่พอ ตอนนี้ยังคิดจะทำให้กระดูกข้อมือฉันหัก คางหลุดอีกเหรอ”
เฉินถิงเซียวชะงักทันที สีหน้านิ่งขรึมจนน่าตกใจ
มู่น่อนน่อนที่ถูกบีบคางอยู่นั้น แต่กลับเห็นได้ชัดว่าไม่มีท่าทางตื่นตระหนกแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเธอกลับเย่อหยิ่งราวกับราชินี ไม่มีท่าทีจะยอมอ่อนข้อให้เขาแม้แต่น้อย
แต่ว่า ดวงตาของเขาดำขลับราวกับค่ำคืนที่มืดมิดราวกับว่าสามารถดูดกินคนได้ ไม่นานเธอก็ฝืนเอาไว้ไม่อยู่
สุดท้ายเธอก็เบนสายตาไปก่อน
ในที่สุด ก็เป็นเธอที่เบนสายตาไปก่อน
“ในเมื่อคุณโทษว่าเป็นความผิดฉัน ก็ไม่ต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้จะทำยังไง น่าเกลียด” เฉินถิงเซียวปล่อยมือที่บีบคางเธอเอาไว้ออก วางบนศีรษะของเธอ ค่อยๆลูบเบาสองครั้ง
สีหน้าของเขายังคงเย็นยะเยือกและมืดมน แต่ท่าทีกลับอ่อนโยนอย่างประหลาด
เฉินถิงเซียวควบคุมทุกอย่างเอาไว้แบบนี้ ทำให้คนเราไม่อาจคาดเดาอะไรได้ ทำให้มู่น่อนน่อนเกิดความหงุดหงิดภายในใจ
อยู่ต่อหน้าเฉินถิงเซียว ความสามารถเธอยังต่ำต้อยเกินไป ยากที่จะปกปิดตนเองได้สำเร็จ
“ไม่ได้เสแสร้ง ก็แค่คิดได้แล้วเท่านั้น” มู่น่อนน่อนยังคงเอียงศีรษะไปด้านข้าง พูดว่า “ซูชิงหนิงเป็นเพื่อนเก่าคุณ เกิดเรื่องไม่คาดฝันแบบนั้น ฉันก็รู้สึกเห็นใจคุณ คุณเห็นฉันหน้าตาเหมือนกับเธอ มีความรู้สึกดีๆกับฉันก็เป็นเรื่องปกติมาก”
“ถ้าเป็นฉัน เห็นคนข้างนอกหน้าตาคล้ายกับเสิ่นเหลียง ก็คงต้องมอง เหตุผลง่ายๆแบบนี้ ฉันเข้าใจ”
ใช่ ก็คือเหตุผลง่ายๆขนาดนี้
เธอหน้าตาคล้ายกับซูชิงหนิง ดังนั้นเฉินถิงเซียวจึงรู้สึกพิเศษกับเธอ ตามหลักธรรมชาติทั่วไปของมนุษย์
เฉินถิงเซียวดีกับเธอ ก็เพราะเธอหน้าตาเหมือนกับซูชิงหนิง ก็เป็น……เหตุผลตามหลักธรรมชาติทั่วไป
เธอคิดได้อย่างเข้าใจกระจ่างจริงๆ แต่ว่า…… ภายในใจทำไมถึงยังรู้สึกหน่วงๆอยู่นะ
“ดีมาก”
เฉินถิงเซียวปล่อยมือจากเธอ ถอยไปด้านหลังครึ่งก้าว หลุบตามองเธอเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้ม บนใบหน้าที่หล่อเหลานั้นมองไม่ออกถึงความยินดียินร้าย
มู่น่อนน่อนคิดว่า ไม่มีใครคาดเดาอารมณ์ความรู้สึกเขาออกจากใบหน้าท่าทางแบบนี้ของเขา เพราะเขาไม่อยากให้ใครเข้าใจ
ก็เหมือนกับที่เขาสามารถสืบขุดคุ้ยประวัติของมู่น่อนน่อนมาจนหมด มู่น่อนน่อนกลับไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเขาเลยสักนิดเดียว เขาควบคุมผู้อื่น แต่กลับไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงต่อหน้าผู้อื่นมาก่อนเลย
เดิมก็เป็นเกมที่ไม่มีความยุติธรรมอยู่แล้ว คือเธอคิดอย่างซื่อๆไร้เดียงสาเกินไป
ครั้งนี้การเผชิญหน้าระหว่างทั้งสองคนเหมือนจะกลายเป็นจุดแบ่งแยก
ต่อไปภายในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทั้งสองต่างแสดงออกถึงความเย็นชาและห่างเหิน
ทั้งสองคนแยกห้องนอน เช้าตื่นมาต่างฝ่ายต่างไปทำงานที่บริษัท กลับมาทานอาหารเย็นด้วยกัน บางครั้งพูดคุยกันสองสามประโยค ไม่ต่างอะไรกับคู่สามีภรรยาที่แต่งงานกันเพราะเหตุผลทางธุรกิจที่ภายนอกดูสนิทสนมกันแต่ความจริงไม่ใช่
แต่กลับสร้างความลำบากให้กับเฉินเจียฉิน ภายใต้บรรยากาศที่อึดอัดแบบนี้ เขาพอจะคาดเดาได้ว่าชีวิตช่วงปิดเทอมภาคฤดูหนาวจะต้องเปลี่ยนเป็นลำบากมากแน่นอน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไปหาซือเฉิงหยู้พี่ชายแท้ๆของเขา
……
ห้องประชุม บริษัทเสิ้งติ่ง
“ตัวเลขในเอกสารนี้ไม่มีความถูกต้องอยู่เลย!”
“แล้วยังอันนี้ พวกคุณทำงานกันยังไง”
“โบนัสปลายปีพวกคุณไม่อยากได้แล้วเหรอ จะสิ้นปีแล้วก็จะสิ้นใจแล้วเหรอ”
บรรดาผู้เข้าร่วมประชุมระดับสูงกลุ่มหนึ่งต่างพากันก้มหน้าก้มตา ไม่กล้าส่งเสียง
ช่วงนี้พวกเขามีชีวิตเหมือนตกนรกทั้งเป็นมาตลอด
เมื่อก่อน เจ้านายใหญ่โกรธเกรี้ยว ประธานกู้ก็ยังพอจะช่วยพูดได้
ช่วงสองสามวันนี้ไม่รู้เป็นอะไร เจ้านายใหญ่ที่ค่อยจะเปิดเผยใบหน้าที่บริษัทมาตลอดก็กลับเหมือนจะอาศัยอยู่ที่บริษัทอย่างนั้น จับจ้องพวกเขาทุกวัน
และประธานกู้ก็เหมือนกับนัดแนะกับเจ้านายใหญ่มาอย่างนั้น ก็คือตอนเช้ามาที่บริษัทมืดๆถึงกลับไป มุ่งมั่นทำงานไม่พูดไม่จา ทันใดนั้นก็เริ่มดุด่าคนขึ้นมา……
กู้จือหยั่นด่าจบ เอกสารทั้งหมดในมือก็เสียงดัง “ผัวะ” ทิ้งลงบนโต๊ะประชุม “ทำใหม่ทั้งหมด!วันนี้ทำไม่เสร็จ ทุกคนต้องทำงานล่วงเวลาด้วยกัน!”
เฉินถิงเซียวที่อยู่ด้านข้างของการประชุมไม่ส่งเสียงอะไรมาตลอด ก็ค่อยๆพูดออกมาในเวลานี้ “รายการที่ผมพูดก่อนหน้านี้ ขอแผนงานที่สมเหตุสมผลภายในวันนี้”
พอทั้งสองออกไป เจ้าหน้าที่ระดับสูง ทั้งหมดพากันมีสีหน้าท่าทางหน้านิ่วคิ้วขมวด
“ผมคิดว่าทั้งสองคนนี้ล้วนบ้าไปแล้ว”
“ประธานกู้เป็นอะไร ผมไม่รู้ ผมสงสัยว่าเจ้านายใหญ่ต้องทะเลาะกับเมียมาแน่นอนเลย!”
“คุณรู้ได้ยังไง”
“ก็เป็นผู้ชายเหมือนกันไง คุณลองคิดดูว่าก่อนหน้านี้มีกี่ครั้งที่เขาไปรับสายขณะที่ประชุมอยู่บ้าง ต้องเป็นโทรศัพท์ของผู้หญิงแน่……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...