สรุปเนื้อหา บทที่ 180 ผู้ชายปากอย่างใจอย่าง! – ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดย Meow(○` 3′○)
บท บทที่ 180 ผู้ชายปากอย่างใจอย่าง! ของ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Meow(○` 3′○) อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 180 ผู้ชายปากอย่างใจอย่าง!
“อืม” น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวไม่แยแส “คุณโทรมาหาผมเรื่องนี้เหรอ”
“ก็ไม่ใช่ทั้งหมด...”
“งั้นคุณมีเรื่องอะไรอยากจะพูดกับผมอีก”
น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวยังคงไม่แยแส แต่มู่น่อนน่อนกลับได้ยินความผิดปกติแอบแฝง
“ไม่มีแล้ว...” จู่ๆ เธอก็ไม่กล้าพูดเรื่องของซือเฉิงหยู้
“อยู่ไหน ผมจะไปหาคุณ” ในขณะที่เฉินถิงเซียวพูดก็หยิบกุญแจรถจะออกไปข้างนอก
“คุณจะไปไหน” กู้จือหยั่นเห็นเฉินถิงเซียวหยิบเอากุญแจรถและจะเดินออกไป จึงพูดด้วยสีหน้าตกใจทันที “คุณคงจะไม่ไปทะเลาะกับราชาภาพยนตร์ซือหรอกนะ เขาไม่ได้อยู่บริษัท...”
เฉินถิงเซียวไม่สนใจคำพูดไร้สาระของเขา เดินตรงออกไปทันที
เฉินถิงเซียวบอกว่าเขาจะมาหาเธอ มู่น่อนน่อนจึงจำต้องหาร้านอาหารใกล้โรงน้ำชานั่งรอเฉินถิงเซียว
เธอเลือกที่นั่งริมหน้าต่าง สายตามองออกไปนอกหน้าต่างเป็นครั้งคราว ซึ่งแบบนี้ ทันทีที่เฉินถิงเซียวมา เธอก็สามารถเห็นเขาได้
เฉินถิงเซียวมาถึงอย่างรวดเร็ว มู่น่อนน่อนโทรหาเขา เขาหยุดรถและเดินเข้ามาในร้านอาหาร
มู่น่อนน่อนทำหน้ายิ้มเอาใจทันที “คุณอยากดื่มอะไร ฉันสั่งชามะนาวให้คุณ”
ชามะนาวเหรอ
นี่มันสิ่งที่ผู้หญิงดื่ม
เฉินถิงเซียวเลิกคิ้ว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ทันทีที่เขานั่งลง ก็พูดออกมาตรงๆ “เวลานี้คุณควรอยู่บริษัท”
อีกนัยหนึ่งคือการที่มู่น่อนน่อนออกมาอยู่ที่นี่ แน่นอนว่าเพราะมีเรื่องหรือมีคนขอให้เธอออกมา
มู่น่อนน่อนรู้ว่าตัวเองถูกเปิดโปงแล้ว สมองของเฉินถิงเซียวฉลาดเกินไป ไม่มีอะไรที่ปกปิดเขาได้
เธอจำต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้เฉินถิงเซียวฟัง
เมื่อเฉินถิงเซียวฟังจบก็ไม่ได้พูดในทันที แค่จ้องเธอเงียบๆ สักพัก
จนกระทั่งมู่น่อนน่อนถูกเขาจ้องจนหลังขนลุก เขาถึงได้พูดออกมาเชื่องช้าว่า “ดังนั้น หลังจากที่รู้ว่าคุณกับซือเฉิงหยู้ขึ้นฮอตเซิร์ช คนที่คุณตามหาอันดับแรกก็คือซือเฉิงหยู้”
มู่น่อนน่อนรู้สึกถึงกลิ่นดินปืนจากประโยคนี้
ดูเหมือนว่าตราบใดที่คำพูดประโยคต่อไปของเธอไม่ถูกต้อง มันก็สามารถจุดชนวนดินปืนบนร่างกายของเขาได้
เธอไตร่ตรองครู่หนึ่ง อยากจะพูดอะไรดีๆ เพื่อทำให้กลิ่นดินปืนของเฉินถิงเซียวสงบลง สายตาเหลือบแล แล้วจู่ๆ ก็เห็นเฉินชิงเฟิงกับเฉินอันหลิน
เฉินอันหลินคือชื่อของคุณปู่เฉิน
พวกเขาทั้งคู่กำลังออกมาจากข้างในโรงน้ำชา ทั้งสองคนหนึ่งเดินหน้าอีกคนตามหลัง
ความต่างในระยะทางค่อนข้างไกล ดังนั้นมู่น่อนน่อนจึงไม่สามารถมองเห็นสีหน้าของทั้งสองคนได้ แต่สามารถสัมผัสได้ว่าบรรยากาศระหว่างทั้งคู่ดูเหมือนจะไม่ค่อยดี
มู่น่อนน่อนชี้ไปยังที่ที่พวกเขาสองคนอยู่ และพูดกับเฉินถิงเซียวว่า “คุณพ่อคุณกับคุณปู่ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะ”
เฉินถิงเซียวหันหน้ามองไป ก็เห็นเฉินชิงเฟิงกับเฉินอันหลิน
เขาจับจ้องอยู่เล็กน้อย ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ก่อนจะพูดออกมาบางเบา “โรงน้ำชาแห่งนี้เป็นกิจการภายใต้บริษัทเฉินซื่อ คนของตระกูลเฉินมักจะมาพูดคุยดื่มชากันที่นี่”
มู่น่อนน่อนพยักหน้า “อ้อ...”
ใจเธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ กิจการภายใต้บริษัทเฉินซื่อมีนับไม่ถ้วนจริงๆ
“เอาแบล็คการ์ดที่คุณปู่ให้คุณไปใช้ในโรงแรมร้านอาหารห้างร้านสถานบันเทิงภายใต้การดำเนินการของบริษัทเฉินซื่อ ทุกอย่างจะไร้การติดขัด”
คำพูดของเฉินถิงเซียวเป็นการพูดกับมู่น่อนน่อน แต่สายตาของเขากลับยังคงมองออกไปนอกหน้าต่าง
ตอนนี้เฉินอันหลินเดินไปถึงหน้ารถแล้ว บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านข้างเปิดประตูรถให้เขา เขาโน้มตัวเข้าไปในนั่งรถ
ก่อนที่รถจะขับออกไป เขาก็เรียกเฉินชิงเฟิงไปหาที่หน้าต่างรถอีกครั้ง ไม่รู้ว่าพูดอะไรหลายคำ ก่อนที่รถยนต์จะขับออกไป
เหตุผลหลักเพราะเฉินถิงเซียวมักจะชอบส่งพวกSMSให้เธอ เธอถึงกับรู้สึกว่าเฉินถิงเซียวคุณชายยิ่งใหญ่คนนี้ อาจจะไม่ใช้วีแชทเลยด้วยซ้ำ
“ไม่ต้อง” เฉินถิงเซียวพูดอย่างเย็นชาจบก็หันหน้าไปด้านข้าง
แต่โทรศัพท์มือถือของเขายังวางอยู่บนโต๊ะ
ผู้ชายปากอย่างใจอย่าง!
มู่น่อนน่อนรีบหยิบโทรศัพท์มือถือมา แล้วเพิ่มวีแชทกับตัวเอง
จากนั้นก็ยื่นโทรศัพท์มือถือคืนกลับไปให้เขา “เพิ่มเรียบร้อยแล้ว”
เฉินถิงเซียวเหลือบมองเธอทันที วางท่าอยู่สองวิก่อนจะรับมือถือไป
เมื่อเห็นข้อความบนหน้าจอ เขาก็ขมวดคิ้ว “โน้ตนี่คืออะไร”
มู่น่อนน่อนบอกว่า “ชื่อไง”
เฉินถิงเซียวกวาดตามองเธอ นิ้วยาวขยับลงบนหน้าจอสองครั้ง แล้วโยนมือถือไปตรงหน้าเธอ จากนั้นก็มองเธออย่างตั้งใจ
มู่น่อนน่อนชะโงกไปดู ก็พบว่าเขาเปลี่ยนบันทึกย่อให้เธอเป็น “ภรรยา”
เห็นได้ชัดว่าความหมายของเขาคือต้องการให้เธอเปลี่ยนเขาในรายชื่อเพื่อนของตัวเองให้เป็นบันทึกย่อที่ตรงกัน
เธอแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ แต่เฉินถิงเซียวมองเธอตลอดเวลา เธอจึงจำต้องเปลี่ยนอย่างไม่มีทางเลือก
เธอรู้สึกว่าเฉินถิงเซียวเริ่มเป็นคนจริงจังขึ้นมาก ดื้อรั้นไม่ต่างจากเด็กเล็ก
“อ้ะ ตอนนี้แก้แล้ว!” หลังจากแก้ไขแล้ว เธอก็ยื่นมือถือให้เฉินถิงเซียวดู
ดวงตาของเฉินถิงเซียวเผยความพึงพอใจ แล้วลุกยืนขึ้น “จะกลับบริษัทไหม ผมจะไปส่งคุณ”
“อืม”
มู่น่อนน่อนลุกขึ้นยืนตาม กำลังจะเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าของตัวเอง แต่เฉินถิงเซียวกลับเร็วกว่าเธอหนึ่งก้าว คว้าเอากระเป๋าของเธอไปก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...