บทที่181 ความคิดคาดเดาที่บ้าบิ่นอย่างหนึ่ง
มู่น่อนน่อนตะลึงงันไปเล็กน้อย เลิกสายตามองไปทางเฉินถิงเซียว
เฉินถิงเซียวมีสีหน้าไม่สบอารมณ์นักออกมา “ช้า”
พูดจบ มือข้างนึงของเขาก็ถือกระเป๋าขึ้นมา มืออีกข้างก็จูงเธอออกไปด้านนอก
มู่น่อนน่อนหันหน้ากลับไปมองดูมือที่เขาช่วยเธอถือกระเป๋าข้างนั้น ก้มหน้าลง เม้มริมฝีปากยิ้มจางๆออกมา
คุณชายเฉินก็มีตอนที่ใส่ใจคนอื่นเขาเหมือนกัน
……
ทั้งสองคนเข้ามานั่งในรถ เฉินถิงเซียวสตาร์ทรถไปพลาง เอ่ยพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจไปพลาง “หาเวลาไปลาออกซะ”
น้ำเสียงของเขาฟังดูไม่ใส่ใจเกินไป ใช้เวลาปาไปครึ่งนาทีเต็มๆ กว่ามู่น่อนน่อนจะได้สติกลับมารู้ว่าเขากำลังพูดอะไรอยู่
“คุณบอกฉันหรอ?” มู่น่อนน่อนชี้หาตัวเอง
เฉินถิงเซียวหันไปมองเธอ สายตาสงบนิ่ง “ไม่อย่างนั้นล่ะ?”
“ทำไมจู่ๆถึงอยากให้ฉันลาออก?” คำพูดนี้ของเขาพูดออกมาปุบปับเกินไป มู่น่อนน่อนจึงรู้สึกสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย
“คุณไม่อาจทำงานอยู่ที่บริษัทมู่ซื่อไปได้ตลอด มันเสียเวลาเกินไป” น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความจริงจัง “ยิ่งไปกว่านั้น คุณทำงานอยู่ที่บริษัทมู่ซื่อก็ไม่ได้มีความสุขเลยด้วย”
ตอนแรกเริ่มสุดนั้น เขานั้นอยากให้มู่น่อนน่อนเข้ามาที่บริษัทเสิ้งติ่ง แต่ในระหว่างนั้นเองมู่ลี่เหยียนก็วิ่งแจ้นมามอบโอกาสให้กับมู่น่อนน่อน ตัวมู่น่อนน่อนเองก็อยากไปบริษัทมู่ซื่อเหมือนกัน จึงปล่อยให้เธอไป
ถึงแม้ว่าจุดประสงค์ในตอนแรกนั้นบางทีอาจจะไม่ได้บริสุทธิ์ใจอะไรนัก แต่ตอนนี้ ความคิดของเขานั้นง่ายดายอย่างมาก คือหวังว่าเธอจะมีความสุขขึ้นมาสักนิด ได้ไปทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำ
หลายครั้ง ที่เขากลับบ้านไปก็จะเห็นเธอขลุกอยู่กับการเขียนต้นฉบับ
เธอเรียนเอกโทรทัศน์และดิจิตอลมีเดียมา สิ่งที่เธอชอบคือสิ่งนี้
ถ้าเธอไม่อยากทำงาน ก็สามารถเป็นแม่บ้านฟูลไทม์อยู่ที่บ้านก็ได้ เงินที่เขาหามาก็เพียงพอให้เธอสิบคนกินไปสิบชาติก็ไม่หมด
ถ้าเธอมีสิ่งที่อยากทำ อยากทำงาน เขาก็สามารถจัดทีมให้เธอสักทีม ช่วยกวาดทางให้เธอ ให้เธอได้ขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุด
ปลายจมูกของมู่น่อนน่อนเริ่มแสบจมูกขึ้นมาเล็กน้อย
เฉินถิงเซียวเป็นคนที่ย้อนแย้งคนหนึ่ง เขานั้นเป็นคนจิตใจโหดเหี้ยม แต่ก็ไม่ได้เป็นคนเลวไปโดยสมบูรณ์ เขาเองก็อ่อนโยนเป็น เอาใจใส่เองก็เป็นเหมือนกัน อีกทั้งยังรู้จักเป็นห่วงเป็นใยว่าเธอจะมีความสุขหรือเปล่าด้วย
ภายในใจก็รู้สึกซาบซึ้งใจขึ้นมาซ้ำๆ แต่มู่น่อนน่อนก็ไม่ได้ตอบรับออกไปทันที
“ถ้าฉันออกจากบริษัทมู่ซื่อไป แล้วคุณจะสืบข่าวจากทางคุณปู่ของฉันได้ยังไง?”
เฉินถิงเซียวเหมือนได้ยินเรื่องตลกอะไรที่น่าขำขึ้นมาก็ไม่ปาน เอ่ยเยาะออกมา “อย่างคุณ คุณจะไปสืบข่าวอะไรจากทางคุณปู่ของคุณได้บ้าง?”
น้ำเสียงฟังดูเหน็บแนมอย่างไม่มีปิดบังเลยแม้แต่น้อย
ที่เมื่อกี้เธอยังคิดว่าเฉินถิงเซียวนั้นดีมากออกมา! โกหกทั้งเพ!
“ใครบอกฉันไม่ได้เรื่องกัน!” มู่น่อนน่อนส่งเสียงฮึดฮัดออกมา กำหมัดเล็กๆทุบลงไปบนบ่าของเขาไปทีนึง
เฉินถิงเซียวใช้มือข้างที่ว่างรับหมัดเล็กๆของเธอเอาไว้ ประกบจูบลงไป ในน้ำเสียงยังแฝงไปด้วยความขี้เล่น “ขับรถ อย่ากวน”
ตั้งแต่ที่มู่น่อนน่อนอยู่ที่โรงแรมจีนติ่งกับเฉินถิงเซียวคืนนั้น เรื่องที่ใกล้ชิดกันก็ทำมาไม่น้อย แต่บางครั้งตอนที่เฉินถิงเซียวทำการกระทำที่ดูใกล้ชิดกันอย่างเป็นธรรมชาติพวกนี้ เธอก็ยังรู้สึก...เขินอายอยู่นิดหน่อย
เธอหน้าแดง แอบชักมือกลับมา แต่กลับพบว่าชักกลับมาไม่ได้
เธอกระตุกแขนตัวเองไปเล็กน้อย “คุณปล่อยนะ”
เฉินถิงเซียวก็ไม่หันกลับมาด้วยซ้ำ “ขับรถ อย่าซน”
คนขี้โกง!
มู่น่อนน่อนหันไปอีกทางนึง ตลอดการเดินทางก็ได้ถูกเขาจับมือไปอย่างนี้
……
ซือเฉิงหยู้เป็นพี่ใหญ่ของเฉินถิงเซียว แล้วยังเป็นดาราตัวท็อปของบริษัทเสิ้งติ่งอีกด้วย เบื้องหลังจะต้องมีทีมประชาสัมพันธ์ที่สุดยอดที่สุดอยู่แล้ว
เกี่ยวกับคำค้นหายอดฮิตที่ว่าแฟนสาวลึกลับของซือเฉิงหยู้เพียงไม่นานก็จมหายไป
เพจหลักของบริษัทเสิ้งติ่ง ยังทำการอธิบายและแถลงการณ์ต่อเรื่องนี้ออกมาด้วย
“เมื่อเร็วๆนี้ มีข่าวลือเกี่ยวกับแฟนสาวลึกลับของคุณซือเฉิงหยู้ศิลปินของเราแพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกออนไลน์ ได้มีการสืบทราบความจริงมาแล้วว่าเป็นข่าวเท็จ...”
ซือเฉิงหยู้ในฐานะที่เป็นนักแสดงอายุน้อยที่สุดที่ได้ชิงรางวัลมามากมาย มีแฟนคลับจำนวนนับไม่ถ้วน ทันทีที่คำแถลงการณ์ของทางบริษัทออกมา ก็เลยมีแฟนคลับมากหน้าหลายตาเข้ามาประสมโรงกัน
“ถ้าไม่ใช่แฟน แล้วผู้หญิงที่อยู่ในรูปคนนั้นเป็นใคร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...