บทที่183 พรุ่งนี้ที่นี่สามารถกลายเป็นของผมเลยก็ได้
สามวิก็ตอนที่หายใจออกมาทีนึง เธอจะไปมีเวลาคิดออกได้ยังไงว่าจะใช้วิธีไหนง้อเขา?
ไม่สิ เธอไม่ใช่ว่าแค่ว่าจะมาลองถามเขาเรื่องกู้จือหยั่นดูสักหน่อยเอง มันก็ขัดใจเขาเสียแล้ว แต่ก็นึกไม่ถึงว่าจะยังต้องมาง้อเขาด้วย?
ในหัวของมู่น่อนน่อนเพียงแค่คิดวุ่นๆออกมา ข้างหูก็ได้ยินเสียงของเฉินถิงเซียวดังขึ้น “ครบสามวิแล้ว”
มู่น่อนน่อนแสยะริมฝีปากออกมาเล็กน้อย เธอคิดว่าเฉินถิงเซียวคนนี้นับวันจะยิ่งแปลกขึ้นมาเรื่อยๆ
แขนของเฉินถิงเซียวยื่นเข้ามา เชิดคางของเธอขึ้นมาแล้วจูบลงไป
หลังจากที่ผ่านไปครึ่งนาทีแล้ว เฉินถิงเซียวผละออกจากริมฝีปากของเธอไปด้วยอารมณ์ที่เหมือนจะยังไม่หายอยาก มองดวงตาที่พร่าเบลอของเธอ เอ่ยออกมาด้วยโทนเสียงที่เป็นเชิงกล่าวเตือนออกมา “ตอนนี้เข้าใจแล้วหรือยัง?”
มู่น่อนน่อนพยักหน้าออกมาไปอย่างลังเล
พูดมาอ้อมค้อมเสียขนาดนั้น ที่แท้ก็อยาก...จูบเธอ!
เฉินถิงเซียวมีความรู้สึกปีติยินดีออกมา ตบลงไปบนศีรษะของเธอเบาๆเหมือนกำลังตบรางวัลอยู่ “รอผมในรถ”
ในทันใดนั้น เขาผันร่างลงจากรถไป
มู่น่อนน่อนทันเพียงแค่เกาะอยู่ตรงหน้าต่างถามเขาออกไป “คุณจะไปไหน?”
เฉินถิงเซียวเพียงแค่มองเธอมาเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร เดินตรงไปยังบริษัทมู่ซื่อ
มู่น่อนน่อนเม้มริมฝีปากออกมาเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเธอจะเดาถูกว่าแท้จริงแล้วเฉินถิงเซียวนั้นมาเพราะเรื่องการลาออกของเธอ
ตอนนี้เป็นเวลาเลิกงาน คนที่ผ่านไปมาตรงบริษัทมู่ซื่อก็มีอยู่หลายคน
หลังจากที่สถานะของเฉินถิงเซียวเปิดเผยออกมา ก็มีหลายคนที่รู้จักเขา
ถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่ไม่รู้จักเขา ก็ต้องมองเขาไปโดยไม่ตั้งใจเพราะกลิ่นอายที่สูงส่งแบบเฉพาะตัวจากร่างของเขา
เฉินถิงเซียวราวกับว่าไม่ได้รู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองมาของพวกเขาเลย เดินตรงไปยังประตูลิฟต์
สาวประชาสัมพันธ์เพิ่งจะมาใหม่ไม่กี่วันมานี้ เห็นเฉินถิงเซียวเดินวางมาดเข้ามาอย่างนี้แล้ว รีบเดินตามเข้าไป “คุณผู้ชายคะ...ไม่ทราบว่าคุณมาหา...”
“มาหาประธานมู่ของพวกเธอ” เฉินถิงเซียวหันหน้ากลับไป เอ่ยนิ่งๆออกไป
ถูกสายตาเยือกเย็นของเฉินถิงเซียวจ้องเข้ามา คำพูดตรงปากที่ว่า “ไม่ทราบว่าคุณได้นัดเอาไว้หรือเปล่า”คำนั้นของสาวประชาสัมพันธ์ได้เปลี่ยนมาเป็น “ประธานมู่อยู่ในห้องทำงาน...”
“ขอบคุณ” บนใบหน้าของเฉินถิงเซียวยังคงไร้สีหน้าใดๆออกมา พูดจบก็เดินเข้าลิฟต์ไป
จนประตูลิฟต์ปิดลง หญิงสาวประชาสัมพันธ์ถึงได้ตบลงบนหน้าอกผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกออกมาเสียยาวเหยียด สายตาของผู้ชายคนเมื่อกี้มันน่ากลัวชะมัด...
……
ในห้องทำงาน
หลังจากที่มู่เจิ้งซิวจัดการกับเอกสารชุดสุดท้ายเสร็จ ก็ได้ยินเสียงผลักประตูเข้ามา
ใครกันที่ไม่รักษากฎระเบียบอย่างนี้ เข้าห้องทำงานเขามาก็ไม่รู้จักเคาะประตูก่อน
เขาขมวดคิ้วเงยหน้าขึ้นไป ก็เห็นเข้ากับร่างสูงโปร่งของเฉินถิงเซียวที่ได้เดินเข้ามาเรียบร้อยแล้วกำลังหันไปล็อกประตูลง
“คุณชายเฉิน?” เขาวางปากกาในมือลง ลุกยืนขึ้น
สายตาของเฉินถิงเซียวกวาดมองไปยังกองเอกสารตรงหน้าเขาพวกนั้น เอ่ยออกมาด้วยสีหน้าที่ยิ้มก็เหมือนไม่ยิ้ม “คุณท่านมู่ นี่ช่างตั้งใจทำงานเสียจริงๆเลยนะครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...