ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 187

สรุปบท บทที่187 มีคนคิดอยากจะต่อกรกับบริษัทเสิ้งติ่ง: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ตอน บทที่187 มีคนคิดอยากจะต่อกรกับบริษัทเสิ้งติ่ง จาก ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่187 มีคนคิดอยากจะต่อกรกับบริษัทเสิ้งติ่ง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม ที่เขียนโดย Meow(○` 3′○) เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่187 มีคนคิดอยากจะต่อกรกับบริษัทเสิ้งติ่ง

เฉินถิงเซียวเลื่อนลงไปข้างล่าง เป็นWeiboที่แชร์ภาพซือเฉิงหยู้กับมู่น่อนน่อนที่สนามบินทั้งนั้นเลย การพูดส่วนใหญ่ก็เหมือนๆกัน แค่ดูก็รู้ว่าเป็นหน้าม้า

ข่าวฉาวเมื่อก่อนหน้านี้ของซือเฉิงหยู้ เพราะว่าเกี่ยวโยงมาถึงมู่น่อนน่อน เฉินถิงเซียวจึงลงมือปิดไปด้วยตัวเอง ให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์กลบคำค้นหาพวกนี้ให้หายไป

แล้วยังเคยติดต่อกับทางระบบทางนั้นแล้ว ไม่อาจเกิดประเด็นจำพวกนี้ขึ้นมาได้อีก ถึงขนาดที่ยังเซ็นสัญญาข้อตกลงระยะยาวกันกับทางนั้น จ่ายเงินไปไม่น้อยเลย

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ทางเพจหลักของบริษัทเสิ้งติ่งเพิ่งจะแถลงเรื่องนี้ออกไป วันนี้เรื่องนี้ก็ถูกเสิร์ชจนขึ้นคำค้นหายอดนิยมขึ้นมาอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

เฉินถิงเซียวมีใบหน้าเยือกเย็นออกมา วางโทรศัพท์ของมู่น่อนน่อนลง ลุกขึ้นโทรหากู้จือหยั่น

เอาโทรศัพท์กลับมา เข้าไปดูหน้าเพจหลักของบริษัทเสิ้งติ่ง พวกความคิดเห็นที่ล้อกันว่ากู้จือหยั่นกับซือเฉิงหยู้มีความสัมพันธ์กันได้ถูกกลบไปหมดแล้ว

ความคิดเห็นที่ขึ้นมารอบใหม่ ส่วนใหญ่จะเป็นการโจมตีบริษัทเสิ้งติ่งทั้งนั้น

“ซือเฉิงหยู้ของพวกเราทำงานให้พวกคุณบริษัทเสิ้งติ่งตั้งเยอะ พวกคุณปฏิบัติอย่างนี้กับเขา? เขาไม่ใช่ว่าแค่อยากเปิดเผยสถานะให้กับผู้หญิงที่รักสักหน่อยเท่านั้นเองนี่...”

“บริษัทน่าขยะแขยงเสียจริง!”

“ทั้งๆที่ผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนของราชาภาพยนตร์ของเราแท้ๆ พวกคุณกลัวว่าเขาเปิดเผยความสัมพันธ์แล้วจะเสียแฟนคลับไปแล้วจะส่งผลกระทบต่องาน ก็เลยโพสต์แถลงสิ่งพวกนั้นออกมาใช่มั้ยล่ะ?”

“พวกคุณไม่ละอายใจกันหรอ?”

“สนับสนุนให้ซือเฉิงหยู้เปิดเผยความสัมพันธ์”

“...”

มู่น่อนน่อนยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกเหลวไหล คนพวกนี้มองจากตรงไหนว่าซือเฉิงหยู้อยากจะเปิดเผยความสัมพันธ์?

ในขณะเดียวกัน เธอเองก็พอจะมองออกอยู่บ้าง คนที่คอยประโคมเรื่องพวกนี้เป็นหน้าม้าไปเสียเกินกว่าครึ่ง

เพียงแต่สิ่งเธอไม่เข้าใจเลยก็คือหน้าม้าพวกนี้ทำไมถึงต้องดึงเธอกับซือเฉิงหยู้ไปด้วยกัน?

มู่น่อนน่อนเข้าไปดูหน้าWeiboซือเฉิงหยู้ พบว่าความคิดเห็นตรงด้านล่างWeiboของเขานั้นได้ถูกความคิดเห็นที่ว่า “สนับสนุนให้ราชาภาพยนตร์เปิดเผยความสัมพันธ์” ครอบคลุมไปหมดแล้ว

มู่น่อนน่อนปวดหัวขึ้นมาเล็กน้อย

เรื่องง่ายๆ ทำไมถึงได้ถูกทำให้มันซับซ้อนอย่างนี้ได้?

เวลานี้ เฉินเจียฉินก็ได้โทรผ่านทางวีแชทเข้ามา

หลังจากที่มู่น่อนน่อนรับราย เฉินเจียฉินก็ถามออกมา “พี่น่อนน่อน ผมเห็นว่าในWeiboมีคนแชร์ภาพพี่กับพี่ชายของผมอีกแล้ว มันเกิดเรื่องอะไรหรอ?”

ถึงแม้ว่าแท้จริงแล้วเขาจะคิดว่าพี่ชายของเขากับพี่น่อนน่อนนั้นเหมาะสมกัน แต่พี่น่วนน่วนก็เป็นพี่สะใภ้ไปเสียแล้ว ยังไงพี่ชายของเขาก็ไม่มีโอกาสแล้ว คำค้นหายอดนิยมอย่างนี้แพร่ออกไป มันก็ไม่ค่อยจะดีนัก

มู่น่อนน่อนถามเขา “พี่ชายนายล่ะ?”

“พี่ชายของผมไปต่างจังหวัด เหมือนจะไปที่ที่ห่างไกลความเจริญอะไรเนี่ยแหละ เหมือนที่นั่นจะไม่มีสัญญาณ เหมือนจะทำงานเพื่อสังคมอะไรสักอย่างน่ะครับ”

เฉินเจียฉินพูดจบ ก็ถอนหายใจออกมาเองก่อนรอบนึง “เรื่องแบบนี้ ต้องให้พี่ชายผมเป็นคนออกมาอธิบายเองใช่มั้ยครับ?”

“ผมไปบริษัทนะ” เฉินถิงเซียวเดินเข้ามา ถือเสื้อสูทเตรียมจะเดินออกไปด้านนอก

มู่น่อนน่อนรีบลุกยืนขึ้นทันที “กินข้าวก่อนแล้วค่อยไปเถอะ”

เฉินถิงเซียวเห็นภาพมู่น่อนน่อนกับซือเฉิงหยู้ขึ้นคำค้นหายอดฮิต ภายในใจก็เหมือนภูเขาไฟที่เตรียมจะปะทุออกมาเต็มที จะให้มารอกินข้าวเสร็จแล้วค่อยไปอยู่ได้ยังไงกัน

เห็นเขาเดินตรงออกไปข้างนอกโดยที่ไม่หยุดเลย มู่น่อนน่อนจึงรีบพูดออกไปทันที “กินสักหน่อยเถอะ ฉันจะไปบริษัทกับคุณด้วย”

เฉินถิงเซียวจึงยอมตอบตกลงออกไป “อืม”

ทั้งสองคนกินข้าวเสร็จก็ไปบริษัทเสิ้งติ่งด้วยกัน

หลังจากที่กู้จือหยั่นได้รับสายของเฉินถิงเซียว ก็ไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์ จ้องมองคนพวกนั้นจัดการกับเรื่องนี้

กู้จือหยั่นมีสีหน้าไม่เข้าใจออกมา ช่วงนี้เขายุ่งจนสติเบลอไปหมด เป็นผู้จัดการให้เสี่ยวเหลียงไม่ได้ก็เรื่องนึงแล้ว ตอนนี้ยังต้องมารับกับความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์ที่มาได้ยังไงไม่รู้ของคุณชายมู่อีกหรอเนี่ย?

เฉินถิงเซียวพูดเรื่องงานขึ้นมา “เรื่องจัดการไปถึงไหนแล้ว?”

“กำลังให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์คิดหาวิธีกันอยู่” กู้จือหยั่นทิ้งตัวลงบนโซฟา ใบหน้าดูหมดแรงไม่มีชีวิตชีวา

ทันใดนั้นเองเขาก็ดีดตัวขึ้นมาทันที “จะเป็นไปได้หรือเปล่าที่คุณปู่ของพวกนายคิดที่จะให้นายกลับไปที่บริษัทเฉินซื่อ ก็เลยจงใจใช้ลูกไม้อย่างนี้มาเตือนนาย?”

มู่น่อนน่อนได้ยินอย่างนั้น ก็มองเข้ามาทางนี้

กู้จือหยั่นหมายถึงคุณท่านเฉิน?

เฉินถิงเซียวส่งเสียงเยาะหยันออกมา ในน้ำเสียงนั้นมีความเยาะหยันออกมาอย่างไม่ปิดซ่อนเลยแม้แต่น้อย “นายเห็นคุณปู่โง่เหมือนนายหรือไง?”

กู้จือหยั่นสำลักไปเล็กน้อย เอ่ยออกไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “...นายเชื่อมั้ยว่าฉันจะกระโดดลงไปจากตรงนี้เดี๋ยวนี้เลย?”

มู่น่อนน่อนฟังไปก็มีอาการงุนงงออกมา กู้จือหยั่นกระโดดตึก?

เฉินถิงเซียวยื่นมือออกไปดึงมู่น่อนน่อนมานั่งข้างๆ “วางใจเถอะ เขาไม่กล้ากระโดดหรอก”

กู้จือหยั่น “...” เขาไม่กระโดดไปสักหน่อย ก็รักษาหน้าเอาไว้ไม่ได้เลยจริงๆ!

เฉินถิงเซียวคิดลังเลอยู่สักพัก จึงพูดออกมาต่อว่า “คุณปู่ก็แค่อยากให้ฉันกลับไปที่บริษัทเฉินซื่อเท่านั้นเอง ไม่มีทางใจร้อนรีบลงมือกับบริษัทเสิ้งติ่งอย่างนี้หรอก ถึงแม้ว่าท่านคิดจะลงมือ ก็มีแต่จะยิ่งโจมตีเข้ามาอย่างจังและก็ยิ่งโหดร้ายกว่านี้อีก”

“แล้วคุณจะกลับบริษัทเฉินซื่อหรือเปล่า?” มู่น่อนน่อนเอ่ยถามเขาออกไปด้วยความอยากรู้

เฉินถิงเซียวหันหน้าไป จู่ๆริมฝีปากก็แสยะยิ้มออกมา “แน่นอนว่าจะต้องกลับไปอยู่แล้ว คุณปู่ให้คุณมากล่อมผม ผมจะไม่กลับไปได้ยังไง”

“หมายความว่าอะไร?”

กู้จือหยั่นแปลความหมายแทนเฉินถิงเซียวออกไปอย่างเหนื่อยหน่าย “ความหมายก็คือเฉินถิงเซียวน่ะ แม้แต่คำพูดของคุณปู่ก็ไม่ฟัง ฟังแค่คำพูดของเธอ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม