ตอนที่ 201 นางเมียน้อยที่ไร้ยางอาย
หลังจากที่เฉินถิงเซียวคีบอาหารขึ้นมา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
เขาวางตะเกียบลง กำลังจะแตะโทรศัพท์ก็ถูกมู่น่อนน่อนหยุดไว้ก่อน
“คุณทานให้เสร็จก่อนเถอะนะคะ เรื่องนี้กู้จือหยั่นคงจะจัดการเรียบร้อยแล้ว” จริงๆแล้วมู่น่อนน่อนก็ยังไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกันว่าปัญหานั้นถูกแก้ไปแล้วหรือยัง
ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าเรื่องนี้เฉินถิงเซียวเป็นคนกำชับกู้จือหยั่นเป็นคนดำเนินเรื่อง ในใจของเธอจึงคิดว่าเรื่องนี้เฉินถิงเซียวจะต้องจัดการได้อย่างแน่นอน หลังจากนั้นจึงไม่ได้เก็บเรื่องนั้นมาใส่ใจ เธอจึงสนใจแต่เรื่องการอาหารให้กับเฉินถิงเซียว
แต่เฉินถิงเซียวก็ยังจะรั้นล้วงโทรศัพท์ออกมาและต่อสายหากู้จือหยั่น
กู้จือหยั่นยุ่งทั้งวันเพิ่งจะได้หลับ แต่เขาก็ถูกปลุกขึ้นมา รับสายและตะโกนออกมาเสียงดัง โดยที่ไม่รู้ว่าปลายสายคือใคร “ใครกัน! ดึกขนาดนี้ยังโทรมาอีก”
“ฉันเอง” เฉินถิงเซียวพูดออกมาอย่างนิ่งๆ แต่ทันใดนั้นกู้จือหยั่นก็ตาสว่างทันที
กู้จือหยั่นนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ปรับน้ำเสียงหลายเป็นนุ่มนวลน่าฟัง “คุณชายเฉินครับ ก็ไม่ดูหน่อยหรอครับว่าตอนนี้กี่โมงกี่ยามแล้ว ยังจะโทรหาฉันอีก ถ้าหากว่าคุณมีเวลาเยอะ ก็เสิร์ชราชาภาพยนตร์ซือหาอะไรดูไปนะ น่อนน่อนก็ถูกดึงเข้าไปแล้ว ไม่กี่วันมานี้ฉันมัวแต่ยุ่งกับเรื่องๆนี้จนไม่ได้หลับไม่ได้นอนแล้ว”
กู้จือหยั่นและเฉินถิงเซียวสนิทกัน เพราะอย่างนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพูดจาอ้อมค้อม
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนที่อยู่เบื้องหลังในเรื่องนี้ต้องการอะไร แต่เขาจะต้องรู้เรื่องความสัมพันธ์ของนายกับมู่น่อนน่อนอย่างแน่นอน ถ้าไม่อย่างนั้นมันคงไม่อยู่เป็นเสี้ยนที่รังควานเราได้ขนาดนี้ ทุกครั้งที่มู่น่อนน่อนเป็นประเด็นร้อน ทำให้พวกเราต้องมาคอยตามแก้ปัญหาจนวิตกกังวลและไม่กล้าทำอะไรเลย”
มู่น่อนน่อนทำได้เพียงสังเกตจากสีหน้าอันเคร่งขรึมของเฉินถิงเซียว แต่เรื่องที่กู้จือหยั่นพูดคือเกี่ยวกับอะไรเธอก็ไม่ค่อยแน่ใจ
หลังจากที่วางสายโทรศัพท์ทั้งสองก็ถูกความเงียบปกคลุม เวลาผ่านไปซักพักก็ยังไม่มีใครเอ่ยปากพูดอะไร
“วันนี้ฉันเห็นพี่ใหญ่ที่บริษัท” มู่น่อนน่อนเปล่งเสียงออกมาเพื่อทำลายความเงียบงัน
เมื่อเฉินถิงเซียวได้ยินเช่นนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองเธอ ขมวดคิ้วขึ้นมาโดยที่ไม่รู้ตัว
“แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ ฉันไม่ได้พูดอะไรออกไป” มู่น่อนน่อนทำได้เพียงพูดพลางยิ้มออกมา “แต่เขาก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องประเด็นร้อน” เฉินถิงเซียวลุกขึ้นยืน “ฉันทานอิ่มแล้ว”
“แฉบ”มู่น่อนน่อนลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และพูดออกมาอย่างดัง “เฉินถิงเซียว คุณเลิกหลอกตัวเองได้แล้วนะ คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าสถานะของพี่ใหญ่เป็นอย่างไร แต่คุณเองต่างหากที่ไม่อยากจะทำใจเชื่อมัน และเอาแต่หลอกฉันว่าค้นหาอะไรไม่พบเลย”
คำพูดเหล่านี้ถูกเก็บเอาไว้ในใจของมู่น่อนน่อนมานานแสนนาน
เฉินถิงเซียวหยุดชะงัก จากนั้นหันหลังไปมองมู่น่อนน่อน
สำหรับครั้งนี้เขาไม่ได้ปฏิเสธและไม่ได้ยอมรับอะไร เพียงแค่พูดออกมาอย่างนิ่งขรึม “เรื่องนี้ฉันจะจัดการเอง”
แววตาของเขาไร้ซึ่งความอ่อนโยน เหลือเพียงแต่ความเยือกเย็นเท่านั้น
ทันใดนั้นมู่น่อนน่อนก็ยืนสั่นไปทั้งตัว เธออ้าปากครั้งแล้วครั้งเล่าแต่กลับพูดอะไรออกมาไม่ได้เลย
สายตาอันเย็นชาของเขา มันเยือกเย็นจนมู่น่อนน่อนสัมผัสได้ ในเวลานี้เฉินถิงเซียวดูแปลกมาก ดูเย็นชาไปหมด
มู่น่อนน่อนทำได้เพียงยืนแข็งทื่ออยู่ที่เดิม
บางที เธออาจจะไม่เคยเข้าไปอยู่ในใจของเขาตั้งแต่แรกเลยก็เป็นได้
เขาไม่เต็มใจที่จะบอกกับเธอ จนเธออดไม่ได้และเอ่ยปากพูดขึ้นมา แต่เฉินถิงเซียวกลับทำท่าทีเย็นชาและทำราวกับว่าเธอไม่ควรเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้
ในค่ำคืนนี้ทั้งสองคนนอนหันหลังให้กันและกันอยู่บนเตียง ไร้ซึ่งการโอบกอด ไร้ซึ่งการพูดจา
……
งานของที่บริษัทยังคงเยอะเหมือนเคย และมู่น่อนน่อนก็ยังคงยุ่งเช่นกัน
เพราะเมื่อวานเธอพักผ่อนไม่เพียงพอ เมื่อถึงเวลาพักกลางวันมู่น่อนน่อนก็รีบไปที่ห้องดื่มชาเพื่อชงกาแฟดื่ม
จนถึงตอนที่น้ำร้อนออกมามู่น่อนน่อนถึงดึงสติกลับมาได้
หลังจากที่เธอดื่มกาแฟเสร็จ เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะกดเข้าไปในWeibo
วันนี้คือวันศุกร์ บล็อกเกอร์ที่บอกว่าจะประกาศสถานะของมู่น่อนน่อนก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใด นี่คงเป็นผลจากที่พวกกู้จือหยั่นจัดการไปเมื่อวาน
เธอกดไปที่ไอคอนของWeibo ยังไม่ทันจะได้ดูอะไรก็มีสายโทรศัพท์โทรเข้ามา
และคนๆนั้นก็คือ กู้จือหยั่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...