บทที่ 234 กินข้าวกับเธอสำคัญกว่า – ตอนที่ต้องอ่านของ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
ตอนนี้ของ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดย Meow(○` 3′○) ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 234 กินข้าวกับเธอสำคัญกว่า จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 234 กินข้าวกับเธอสำคัญกว่า
พอมู่น่อนน่อนมองเห็นเงาร่างที่คุ้นเคย ทั้งตัวสับสนยังสับสนอยู่บ้าง
เธอพึมพำเรียก “เฉินถิงเซียว?”
คนขับตอบสนองไวมาก ลงจากรถไปเปิดประตูหลังให้เฉินถิงเซียว
เฉินถิงเซียวย่อตัวเข้ามานั่งในรถ เห็นมู่น่อนน่อนทำหน้าตกใจ อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบหัวเธอ ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เห็นเธอตั้งนานแล้ว”
มู่น่อนน่อนตะลึง “คุณเห็นฉันได้ยังไง?”
“เห็นรถไง” เฉินถิงเซียวยื่นมือ ออกแรงนิดหน่อย ก็ทำให้เธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขา
ก้มลงไปจูบหน้าผากของเธอ แล้วกำมือของเธอเล่น “ทีหลังมาหาผม ก็บอกมาตรงๆ ถ้าผมไม่เห็นคุณ เดี๋ยวกลับไปก็โกรธผมอีกล่ะ”
มู่น่อนนอ่นได้ยิน ก็ชักมือตัวเองกลับ “ฉันโกรธง่ายขนาดนั้นเลยหรอ? ฉันไปโกรธคุณกับเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ตอนไหน?”
“อืม ก็ไม่มีนะ” เฉินถิงเซียวพยักหน้า ท่าทางดูจริงจังมาก
มู่น่อนน่อนกำหมัดฟาดบนร่างเขาไปสองที
ไม่ได้แรงมาก ตีบนร่างเขาไม่ได้เจ็บไม่ได้ปวด
เฉินถิงเซียวจับมือเธอไว้ “ไปกินข้าวกัน”
มู่น่อนน่อนมาหาเขาเวลานี้ ต้องยังไม่ได้กินข้าวแน่นอน
“ก่อนหน้านี้ฉันเห็นคุณกับพ่อคุณขึ้นรถไปด้วยกัน จะไปทำธุระอะไร? ไม่สำคัญหรอ?” มู่น่อนน่อนไม่อยากให้ธุระของเขาล่าช้า
“กินข้าวกับเธอสำคัญกว่า” เฉินถิงเซียวพูดไป มือก็วางที่หน้าท้องของเธอ “ตอนนี้เธอท้องอยู่นะ ทนหิวไม่ได้หรอก”
มู่น่อนน่อนจ้องเขา รอยยิ้มบนหน้าของเฉินถิงเซียวกลับชัดขึ้นอีก
……
ทั้งสองเจอร้านอาหารแล้ว
อาหารที่เฉินถิงเซียวสั่งมีแต่ของโปรดของมู่น่อนน่อนทั้งนั้น
ช่วงนี้รสปากของเธอไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก เฉินถิงเซียวก็เลยจัดการสั่งของที่เธอชอบกินก่อนหน้านี้มา
มู่น่อนน่อนหิวอยู่บ้าง ก็หยิบตะเกียบขึ้นมาเริ่มกิน
แต่เฉินถิงเซียวกลับไม่กิน มู่น่อนน่อนคีบมันฝรั่งทอดเข้าปาก ถามเขา “ทำไมคุณไม่กินล่ะ?”
“ฉันกินแล้ว” เฉินถิงเซียวพูดไปด้วย คีบเนื้อเป็ดใส่ถ้วยเธอไปด้วย
ช่วงนี้ความอยากอาหารของมู่น่อนน่อนเพิ่มขึ้นมาหน่อย อาหารที่เฉินถิงเซียวสั่งมาก็พอเหมาะกับความอยากของเธอ สุดท้ายก็ถูกเธอกินไปซะส่วนใหญ่
เธอนึกเรื่องที่ซือเฉิงหยู้ฉีกสัญญากับบริษัทเสิ้งติ่งขึ้นมาได้ เลยถามเขาไป “ฉันเห็นประเด็นร้อนบน Weibo แล้ว คุณเป็นคนเสนอให้ยกเลิกสัญญาหรอ?”
ถึงเธอไม่ได้พูดถึงชื่อของซือเฉิงหยู้ เฉินถิงเซียวก็รู้ได้เอง
“อืม”
พอพูดถึงซือเฉิงหยู้ ความสบายบนหน้าของเฉินถิงเซียวก็จางหายไป สีหน้าค่อยๆเรียบนิ่ง
ซือเฉิงหยู้จะขึ้นศาล ก็อธิบายได้ว่าเขาวางแผนจะเอามู่หวั่นขีออกมาเรียบร้อยแล้ว
เพราะซือเฉิงหยู้ให้ฉันเลือกฝั่งเอง ก็ต้องยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามเขา อย่างงั้นเขาจะได้ไม่ต้องมาสงสาร
นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น
มู่น่อนน่อนรู้ว่าเขาสื่อว่าอะไร ก็เลยเงียบลงไปเช่นกัน
ที่เฉินถิงเซียวคิดการเสนอยกเลิกสัญญากับซือเฉิงหยู้ เป็นสัญญาณหนึ่ง เป็นสัญญาณว่าพวกเขาทั้งสองแตกหักกันอย่างเป็นทางการ
มู่น่อนน่อนนึกถึงWeiboยาวๆที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่เฉินถิงเซียวเขียนขึ้นมา
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย ถามเฉินถิงเซียวเสียงเบา “คุณไม่ได้…คุยกับเขาอีกรอบหรอ? เขาอาจจะมีความลำบากบางอย่างที่พูดได้ยากก็ได้นะ?”
“……”
เหมือนกับทุกคนคิดว่าซือเฉิงหยู้เป็นคนเริ่มเสนอการยกเลิกสัญญากับบริษัทเสิ้งติ่ง
พอมาคิดดูแล้วมันก็ถูก สุดท้ายถ้ามองในมุมของคนทั่วไป บริษัทต่างก็ตั้งอยู่บนผลกำไร บริษัทเสิ่งติ่งไม่มีทางที่จะเป็นคนเริ่มยกเลิกสัญญากับซือเฉิงหยู้ที่เป็นตัวทำเงินได้
พวกก็เลยคิดไปเองว่าซือเฉิงหยู้อยากจะยกเลิกสัญญากับบริษัทเสิ้งติ่ง
แต่บริษัทเสิ้งติ่งในวันที่ข่าวหลุดออกไปนั้น ก็ประชาสัมพันธ์ทุกด้าน ให้เรื่องการยกเลิกสัญญาเป็นไปในทิศทาง “ซือเฉิงหยู้ริเริ่มเสนอการยกเลิกสัญญา”
แล้วพวกชาวเน็ตต่างก็ยอมรับว่าซือเฉิงหยู้เป็นคนริเริ่มยกเลิกสัญญา
แต่ในมุมของซือเฉิงหยู้การที่ถูกบริษัทเสิ้งติ่งชักจูงไปแล้ว แถมไม่ได้อธิบายไปมากนัก แค่โพสต์Weiboยาวๆโพสต์เดียว กลับรู้สึกขอบคุณบริษัทเสิ้งติ่งที่เป็นแบบนี้ รู้สึกขอบคุณ “ผู้ก่อตั้ง XN” เป็นพิเศษ
Weiboของเขามีคนกดไลค์นับไม่ถ้วน
ตอนที่ความฮิตของข่าวซือเฉิงหยู้ฉีกสัญญากับบริษัทเสิ้งติ่งลดลง ก็ใกล้จะสิ้นปีแล้ว บริษัทต่างๆมากมายก็ค่อยๆทะยอยเริ่มหยุดกันแล้ว
ในช่วงวันนี้ สำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะติดต่อมู่น่อนน่อนมาครั้งหนึ่ง บอกว่าได้ข่าวคราวของเซียวชู่เหอแล้ว ให้เธอไปที่สำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะ
มู่น่อนน่อนโทรหามู่ลี่เหยียน มู่ลี่เหยียนไม่รับสายเลย
มู่น่อนน่อนเลยไปสำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะด้วยตนเอง
ผลคือ เธอไปถึงสำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะ มองเห็นเซียวชู่เหอที่ปกติไม่ได้เป็นไรอะไรเลย แล้วก็มีเสิ่นชูหาน
เซียวชู่เหอใส่ชุดคลุมสีแดง แต่งหน้าสวยงาม แล้วยังถือกระเป๋าแบรนด์เนมที่ซื้อมาใหม่อีก มันเหมือนคนหายตัวไปอยู่อย่างลำบากตรงไหนเนี่ย?
เสิ่นชูหานพอเห็นมู่น่อนน่อน ใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา เรียกเธอด้วยความอบอุ่น “น่อนน่อน”
มู่น่อนน่อนคิ้วขมวด ไม่สนใจเสิ่นชูหาน เดินไปด้านหน้าของเซียวชู่เหอถามเธอว่า “แม่ไปอยู่ไหนมา?”
เซียวชู่เหอยกมือมู่น่อนน่อนขึ้นมา พูดด้วยน้ำเสียงเตือนสติ “ฉันไม่ได้ไปไหนมาหรอก ก็แค่ทะเลาะกับพ่อเธอมา ไปอยู่ที่นั่นกับชูหานช่วงนึง ฉันพูดเลยว่า เวลานี้นั้นดีมากที่มีชูหานมาดูแล รู้สึกขอบคุณเขามาก”
มู่น่อนน่อนไม่ชินที่อยู่ใกล้เซียวชู่เหอขนาดนี้ ขมวดคิ้วดึงมือตัวเองออกมา พูดเสียงเย็นชา “ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็กลับบ้านไปเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...