ตอนที่ 25 ในทางกลับกัน
เมื่อมู่น่อนน่อนเดินออกมาจากร้านอาการ ก็ได้รับโทรศัพท์ของเสิ่นเหลียง
“รีบมาทางนี้ รถยนต์สีแดงฝั่งตรงข้ามถนน” เสิ่นเหลียงพูดเพียงแค่ประโยคนั้นก็ตัดสายทิ้งทันที
มู่น่อนน่อนเงยหน้าขึ้น ก็เห็นรถยนต์สีแดงที่รอดรออยู่ถนนฝั่งตรงข้าม ตอนที่เธอมองไปนั้น เสียงแตรรถก็บีบดังขึ้นมาสองครั้ง
มู่น่อนน่อนมองสังเกตการณ์โดยรอบ จากนั้นก็รีบข้ามไปยังถนนฝ่ายตรงข้ามพร้อมทั้งเปิดประตูข้างคนขับรถแล้วเข้าไปนั่งในรถ
เสิ่นเหลียงสตาร์ทรถยนต์ พร้อมทั้งถามหล่อนกลับ “เป็นยังไง? เรื่องเรียบร้อยใช่มั้ย?”
ช่วงนี้กำลังมีหนังเรื่องหนึ่งของเสิ่นเหลียง กำลังฉายอยู่ เป็นหนังเรื่องเล็กแต่ก็สามารถขายได้ดีมาก ไม่ว่าจะไปนั่งที่ไหนก็ตามอาจจะถูกคนอื่นจดจำได้ ฉะนั้นทำได้แค่รอหล่อนอยู่ด้านนอก
มู่น่อนน่อนหัวเราะร่า “สำเร็จค่ะ”
มู่หวั่นขีกดดันหล่อนมาหลายปี หล่อนแทบไม่เคยเอาหล่อนไว้ในสายตาเลย เพราะฉะนั้นเลยจัดการปล่อยไปโดยง่าย อีกทั้งคงไม่คิดว่ามันมีกับดักทั้งหมด
“แต่ว่า แผนการอาจมีการเปลี่ยนแปลง”
“หมายความว่าไง?”
“หล่อนอยากให้ฉันพูดเรื่องหย่าร้างกับเฉินถิงเซียว เพื่อทำให้คนในตระกูลเฉินโกรธแค้นขึ้นมา ให้พวกข้อขัดแย้งทั้งหมดมายังที่ฉัน ถึงเวลานั้นคนตระกูลเฉินจะได้มองข้ามว่าที่ภรรยาที่แท้จริงคนนี้ไป หล่อนก็สามารถที่อยู่กับเสิ่นชูหานได้อย่างเปิดเผย”
เสิ่นเหลียงได้ยินดังนั้น โมโหจนทุบพวงมาลัยเสียงดัง “ไม่รู้เลยว่าพวกหล่อนยังไม่มีแผนการอะไรอีกหรือป่าว!”
“ขอแค่มีผลประโยชน์ต่อตนเอง พวกหล่อนก็ไม่มีทางหักหลัง” มู่น่อนน่อนเข้าใจเป็นอย่างดี
เดิมทีหล่อนวางแผนไว้ว่าเช้าวันพรุ่งนี้จะให้ปาปารัสซี่ เอาวิดีโอระหว่างหล่อนกับมู่หวั่นขีปล่อยให้หลุดออกมา
จากสถานการณ์ในเวลานี้นั้น หล่อนเดินหน้าเพิ่มอีกหนึ่งก้าว
……
พาดหัวข่าวบนWeibo “คนอัปลักษณ์เรื่องเยอะ”ถึงกลับดังขึ้นมา จากนั้นก็มีข่าวตามติดมาอีกระลอก “ไม่หย่าร้างเก็บเอาไว้ตอนปีใหม่หรือไง”
“ตามข่าวที่ทราบ น้องสาวของคุณมู่ยื่นเจรจาเสนอขอเลิกร้างกับเฉินถิงเซียวภายใต้ความกดดัน....”
มันเป็นเพียงแค่คำพูดที่ดูมึนงง แต่กลับทำให้เหล่าคนในอินเทอร์เน็ตต่างถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง
“เกี่ยวกับความกดดัน?” ฉันดูแล้วว่าหล่อนก็จิตใจไม่ได้สงบสักเท่าไหร่!
“คิดแต่เรื่องเงินจนประสาทแดกไปแล้ว ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าคุณชายในตระกูลเฉินคนนั้นสถานะเหมือนกับคนไม่สมประกอบ แถมแต่งไปแล้วยังจะต้องไปดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของตนเองเหมือนไม่มีสามีแบบนั้น...”
“บนตึกนั่นช่างเจรจาได้ดี”
หัวข้อนี้ถูกจัดอันดับในอันดับแรก แต่ว่าเร็วมาก ข่าวการค้นหานี้ก็ถูกถอดออกอย่างเร็ว
การถกเถียงกันต่างๆมากมายในหัวข้อนี้ต่างเป็นจุดสนใจในการค้นหาตามอินเทอร์เน็ต แต่มู่น่อนน่อนรู้ดี ว่าข่าวการติดอันดับการค้นหานี้คนในตระกูลเฉินเป็นคนจัดการถอดข่าวออกไปแทน
ในความเป็นจริง ตระกูลเฉินเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียง ไม่สามารถที่จะให้คนสืบทอดอำนาจของตระกูลมาโดนคนซุบซิบข่าวบนอินเทอร์เน็ตแบบนี้
เที่ยงคืนของวันนี้ ทีคนหนึ่งลงวิดีโอบนWeibo แถมลงคำพูดไว้อีกด้วย ต่อไปนี้อย่าปล่อยคู่แข่งไปง่ายๆ จนใบหน้าแดงชาหมดแล้ว
คนนี้ก่อนหน้านี้ก็เคยถากถางมู่น่อนน่อนบนWeiboมาก่อน
คนที่กำลังสงสัยอยู่เลยเปิดคลิปวิดีโอดู ภาพและเสียงชัดเจนจนสามารถรู้ได้ว่าคนในวิดีโอนั้นคือมู่หวั่นขี
อีกอย่างคำติดแฮชแท็กนั้นที่ว่า “ขอโทษก็ทำแล้ว ต่อไปอย่าทำให้แม่ลำบากใจอีกเลย” “เหมือนหมาตัวหนึ่งที่ต้องคอยเชื่อฟัง” “ขอร้องให้ฉันแต่งงานกับเฉินถิงเซียว” คำพูดที่พูดติดกันมาเป็นระลอก ความจริงก็ถูกเปิดเผยจนได้
คนที่เคยด่าทอมู่น่อนน่อนก่อนหน้านี้ เพราะเหตุการณ์มันกลับตาลปัตร ทั้งหมดต่างเงียบฉี่
จากนั้น ก็มีคนเริ่มออกมาขอโทษมู่น่อนน่อนบนWeibo แต่ก็ยังมีคนที่ทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ที่ไม่ได้ดูในเนื้อหาในคลิปวิดีโอเลย เอาแต่ด่าทอมู่น่อนน่อนไม่หยุด แต่ก็เป็นส่วนน้อย
จากเวลาเที่ยงคืนจะถึงเช้าตรู่ หกชั่วโมงเต็มๆ แฟนคลับของมู่น่อนน่อน ก็เพื่มขึ้นมาห้าหมื่นคน
……
ส่วนมู่หวั่นขีหลังจากที่ประสบความสำเร็จในการข่มขู่ หล่อนก็ดีใจอย่างออกนอกหน้าเลยนัดกับเสิ่นชูหาน คืนนั้นเองหล่อนก็พักที่บ้านของเสิ่นชูหาน
ดังนั้น หล่อนเลยไม่รู้เรื่องรู้ราวที่ติดแฮชแท็กที่กำลังโด่งดังอยู่ในWeibo
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...