ห้ามออกไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็เป็นการจำกัดเสรีภาพส่วนบุคคลแล้ว
มู่น่อนน่อนก็ไม่ได้คัดค้านใด ๆ
ตอนนี้เธอรู้สึกเป็นห่วงคุณท่านเฉินมาก
ถึงแม้ว่าคุณท่านเฉินเมื่อก่อนจะเคยส่งผู้หญิงไปที่คฤหาสน์ของเฉินถิงเซียว เคยทำให้มู่น่อนน่อนรู้สึกแย่กับเขาจริง ๆ แต่ว่าก่อนหน้านี้ที่คุณท่านเฉินเคยบอกเล่าคำเหล่านั้นกับเธอ ความรู้สึกแย่ ๆ ในใจที่มีต่อคุณปู่ก็ได้หมดไป
อีกอย่างเฉินถิงเซียวจะต้องทุกข์ทรมานมากอย่างแน่นอน
เมื่อนึกถึงเฉินถิงเซียว สีหน้าของมู่น่อนน่อนก็เย็นลงอย่างไม่รู้ตัว
บนระเบียงทางเดินกลับเข้าสู่ความสงบเหมือนก่อนหน้านี้อีกครั้ง
ถึงแม้ว่าเฉินอินหย่าจะไม่พอใจการกระทำของเฉินชิงเฟิง แต่ก็ไม่กล้าจะพูดอะไรมาก
เพราะถึงอย่างไรคุณท่านเฉินก็นอนอยู่ในห้องผ่าตัด เป็นตายไม่แน่นอน คนที่พูดจามีน้ำหนักมากที่สุดในตระกูลเฉินก็คือเฉินชิงเฟิง
ทันใดนั้น ในเวลาที่เงียบสงบเช่นนี้เฉินถิงเซียวก็เปล่งเสียงพูดออกมา : “แจ้งความเถอะ”
คำพูดของเขาดึงดูดความสนใจจากทุกคน
มู่น่อนน่อนหันหน้ามา เห็นเพียงข้างใบหน้าที่รูปงามกับดวงตาที่หรี่ลงของเฉินถิงเซียว
เขาดูใจเย็นมาก แต่ว่ากลิ่นอายความเยือกเย็นบนตัวของเขาที่แผ่กระจายออกมา ได้บ่งบอกถึงอารมณ์ของเขาในเวลานี้
และเขาก็เปิดปากกล่าวต่อในทันที : “ในเมื่อคุณพ่อสงสัยว่าที่คุณปู่ตกลงมาจากบันไดไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นฝีมือของคน อย่างนั้นก็แจ้งความเถอะ ให้ตำรวจตรวจสอบหาความจริง”
เขาพูดประโยคเหล่านี้กับเฉินชิงเฟิง
มู่น่อนน่อนเห็นสีหน้าของเฉินชิงเฟิงเกิดความประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด ราวกับว่าเขาตกใจอย่างมากกับการเสนอของเฉินถิงเซียว
นี่ทำให้มู่น่อนน่อนเกิดความสับสนในใจ
ถ้าเฉินชิงเฟิงสงสัยว่าเรื่องของคุณท่านเฉินนั้นเป็นฝีมือคนจริง ๆ การแจ้งความก็เป็นขั้นตอนที่ปกติถึงจะถูก
เฉินชิงเฟิงเงียบอยู่ชั่วครู่ แล้วกล่าวขึ้น : “โอเค งั้นโทรแจ้งตำรวจ”
เฉินชิงเฟิงให้คนโทรแจ้งตำรวจ แต่เนื่องด้วยเป็นวันแรกของปีใหม่ ตำตรวจจึงไม่ได้มาเร็วขนาดนั้น ทางตำรวจได้ขอให้พวกเขากันสถานที่เกิดเหตุไว้ให้ดี
และมู่น่อนน่อนกับทุกคนก็เฝ้าคุณท่านเฉินอยู่ที่โรงพยาบาล
มู่น่อนน่อนเพิ่งจะตื่นนอนจากเตียงได้ไม่นาน ยังไม่ทันได้ทานอะไรก็ตามทุกทคนมาที่โรงพยาบาล
แล้วมานั่งเฝ้ารอการผ่าตัดของคุณท่านเฉินให้เสร็จสิ้น เวลานี้เธอรู้สึกหิวขึ้นมา
แต่ สถานการณ์แบบนี้ ต่อให้เธอจะรู้สึกหิว ก็คงได้แต่อดทน
การผ่าตัดของคุณท่านเฉิน ไม่ใช่จะเสร็จสิ้นในเวลาสั้น ๆ มู่น่อนน่อนก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องอดทนไปนานแค่ไหน
ทันใดนั้น สือเย่ปรากฏตัวขึ้นที่ระเบียงพร้อมกับพรรคพวก
เขาเดินตรงมาที่เฉินถิงเซียว เมื่อเดินผ่านเฉินชิงเฟิงนั้น เขาก็โค้งคำนับเล็กน้อยเพื่อเป็นการทักทาย
สือเย่ยืนอยู่ตรงด้านหน้าของเฉินถิงเซียว : “คุณผู้ชายครับ”
เฉินถิงเซียวเหลือบมองมู่น่อนน่อนด้วยหางตาแวบหนึ่ง แล้วกล่าวกับสือเย่ว่า : “พาคุณหญิงน้อยกลับไป”
มู่น่อนน่อนรีบหันหน้าไปมองเฉินถิงเซียวทันใด
ทำไมต้องพาเธอกลับไป
“ฉันจะรออยู่ที่นี่จนกว่าคุณปู่จะฟื้น” ถ้าหากคุณท่านเฉินฟื้นขึ้นมา ก็น่าคลี่คลายความต้องสงสัยในตัวของเธอได้
แทบจะในทันที เฉินถิงเซียวพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง : “คุณอยู่ที่นี่รังแต่จะทำให้ผมเห็นแล้วรู้สึกขวางหูขวางตา”
“เฉินถิงเซียว!”
“อย่าคิดว่าอยู่ในฐานะคุณหญิงน้อยแล้วจะทำอะไรก็ได้ตามต้องการ ตอนนี้คุณยังเป็นผู้ต้องสงสัยในการผลักคุณปู่ตกบันได ผมให้สือเย่พาคุณกลับบ้านก็เพื่อให้เขาเฝ้าคุณไว้ให้ดี ไม่ให้หนีไป”
มู่น่อนน่อนแทบไม่อยากจะเชื่อว่าคำพูดเหล่านี้จะออกมาจากปากของเฉินถิงเซียว
แต่ว่าน้ำเสียงที่เยือกเย็นของเฉินถิงเซียว ไม่เหมือนกับเป็นการหยอกเย้าเลยสักนิด
เขาไม่ได้หันมามองมู่น่อนน่อนอีก เพียงแค่กล่าวกำชับตรง ๆ กับสือเย่ : “สือเย่ ไม่ได้ยินคำพูดของผมหรือไง พาคุณหญิงน้อยกลับบ้าน แล้วเฝ้าดูให้ดี!”
“เชิญครับ คุณหญิงน้อย” สือเย่ เดินมาที่ด้านหน้าของมู่น่อนน่อน แล้วโค้งคำนับเล็กน้อย ยังคงให้ความนอบน้อม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...