“ได้ ฉันรู้แล้ว”
มู่น่อนน่อนแม้ปากจะพูดแบบนี้ แต่ในใจเธอรู้ดีว่า ถึงแม้จะเป็นเรื่องจริง เธอก็จะไม่ไปรบกวนเสิ่นเหลียงกับกู้จือหยั่นเด็ดขาด
……
เหมือนที่เสิ่นเหลียงบอก เฉินจิ่งหยุ้นมาหาเธอเร็วมาก
ตอนเช้าตรู่ มู่น่อนน่อนกำลังกินข้าวเช้าอยู่ ก็ได้ยินเสียงจากด้านนอก
ไม่รอเธอลุกขึ้นมา ก็ได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงเดินมา ‘ต๊อกแต๊กๆ’ ใกล้เข้ามาเรื่อย
ไม่นาน หน้าประตูห้องรับประทานอาหารก็มีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏขึ้น
ผู้หญิงสวมชุดสูทเป็นทางการ ดูแล้วเหมือนคนที่มีความสามารถและฉลาดมาก ตรงระหว่างคิ้วเหมือนกับเฉินถิงเซียว ขนาดบุคลิกก็ยังเย็นชาเหมือนเฉินถิงเซียวเลย
มู่น่อนน่อนพอเดาออกคร่าวๆแล้วว่า ผู้หญิงคนนี้ก็คือเฉินจิ่งหยุ้น
ผู้หญิงมุ่งหน้าเดินตรงมาที่มู่น่อนน่อน มองดูมู่น่อนน่อนด้วยแววตาที่แหลมคม และมีความพิจารณา
เธอจ้องมู่น่อนน่อนไม่กี่วินาที จากนั้นก็เธอก็พูดขึ้นว่า: “เธอคือมู่น่อนน่อนสินะ?”
เธอไม่เพียงแต่มีบุคลิกและหน้าตาเหมือนเฉินถิงเซียว ขนาดความหยิ่งยโสและความผู้ดีที่มีแต่ลูกเศรษฐีเท่านั้นถึงจะมี แค่เพียงเธอเอ่ยปากพูด ก็ดูเหมือนมีพลังมหาศาลแล้ว
ถูกออร่าของเฉินถิงเซียวข่มไว้นานมาก มู่น่อนน่อนก็เลยไม่กลัวเมื่อเธอมายืนอยู่ตรงหน้า
มู่น่อนน่อนมองเธอกลับ และพูดอย่างใจเย็นว่า: “ฉันคือมู่น่อนน่อน”
แววตาผู้หญิงมีความตกใจ แต่แค่เสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น
“เธอน่าจะรู้แล้วว่าฉันคือใคร” ผู้หญิงยังคงมองมู่น่อนน่อนนิ่ง: “ฉันคือพี่สาวของเฉินถิงเซียว เฉินจิ่งหยุ้น”
ตอนนี้เองมู่น่อนน่อนพึงลุกขึ้นมา: “สวัสดีค่ะ”
จากนั้นก็สั่งคนรับใช้ด้วยท่าทีคุณนายของบ้านหลังนี้: “ยังไม่เสิร์ฟน้ำชาอีก?”
“ไม่จำเป็นแล้ว” เฉินจิ่งหยุ้นยกมือขึ้นสั่งคนรับใช้ เธอกอดอกและมองมู่น่อนน่อน: “รู้เหตุผลที่ฉันมาไหม? ก่อนที่ฉันจะกลับมาก็ได้ยินแล้วว่า เธอเป็นคนผลักคุณปู่ตกบันได”
มู่น่อนน่อนตอบโต้กลับไปว่า: “ฉันไม่ได้ผลักนะ และตอนนี้ก็ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบเรื่องนี้อยู่”
“ได้” เฉินจิ่งหยุ้นฟังมู่น่อนน่อนแก้ตัวอย่างหงุดหงิด เลยพูดแทรกไปก่อน: “ฉันแค่อยากมาดูว่า ผู้หญิงที่ทำให้ชื่อเสียงน้องชายฉันป่นปี้ แล้วทำให้ตระกูลเฉินของเราวุ่นวายเนี่ยเป็นใครก็เท่านั้น ตอนนี้ฉันจะไปโรงพยาบาล ไม่มีเวลามาเสวนากับเธอหรอกนะ”
ฟังจากน้ำเสียงของเฉินจิ่งหยุ้นแล้ว มองออกได้ว่าเธอเป็นคนที่แข็งกร้าวมากคนหนึ่ง
สมแล้วที่เป็นฝาแฝดกับเฉินถิงเซียว ทุกอย่างคล้ายกันอย่างกับแกะ
เฉินจิ่งหยุ้นพูดจบก็เดินออกไปด้านนอก มู่น่อนน่อนก็เดินตามแล้วส่งเธอออกไป
พอมาถึงห้องโถง เธอก็เห็นคนที่มีท่าทางเหมือนผู้ช่วยตะโกนเรียกว่า: “ประธานเฉิน”
ข้างๆผู้ช่วยยังมีกระเป๋าเดินทางอยู่หนึ่งใบ
เฉินจิ่งหยุ้นกลับมายังไม่ทันได้ไปไว้กระเป๋า ก็เดินมาหามู่น่อนน่อนก่อนทันที
ตอนนี้เอง ด้านนอกก็มีเสียงเบรกรถ ‘เอี๊ยด’ ดังขึ้น
ทั้งสองมองไปด้านนอกพร้อมกัน เฉินถิงเซียวออกมาจากรถ
เฉินจิ่งหยุ้นเดินเข้าไป อยากกอดเฉินถิงเซียว: “ไม่เจอกันนานเลยนะ น้องรัก”
เฉินถิงเซียวกอดเฉินจิ่งหยุ้นตอบ
เฉินจิ่งหยุ้นแค่กอดเขาเบาๆ จากนั้นก็ปล่อยออกทันที
เธอมองดูเฉินถิงเซียว พูดด้วยน้ำเสียงประชดว่า: “เหมือนที่คุณปู่พูดไว้ไม่มีผิด นายหลงมู่น่อนน่อนจนหัวปักหัวปำ ฉันแค่มาดูเธอแค่นั้นเอง นายก็รีบซิ่งรถกลับมา กลัวฉันจะจับเธอกินหรือไง?”
เฉินถิงเซียวไม่มองเธอด้วยซ้ำ แล้วเดินอ้อมเธอแล้วไปตรงหน้ามู่น่อนน่อนทันที
เขาสำรวจดูมู่น่อนน่อน ต่อมาก็ยืนอยู่ตรงหน้ามู่น่อนน่อน พูดกับเฉินจิ่งหยุ้นว่า: “ไม่ไปเยี่ยมคุณปู่หรือไง?”
เฉินจิ่งหยุ้นกอดอก กระตุกยิ้มมุมปากเบาๆ สีหน้าดูจองหองมาก: “จะไปเดี๋ยวนี้แหละ นายไม่คิดจะขับรถไปส่งหน่อยเหรอ?”
เฉินถิงเซียวหันหน้ากลับไปมองมู่น่อนน่อน แต่กลับไม่ได้พูดอะไร ก็เดินตามเฉินจิ่งหยุ้นออกไป
ตอนที่เดินไปถึงประตู เฉินจิ่งหยุ้นก็หันหน้ากลับไปมองเธออีกครั้ง
แววตานั้นดูเป็นการสำรวจ และก็เหมือนกำลังดูตัวตลกอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...