ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 32

ตอนที่ 32 ข้ามถนนไม่ระมัดระวังอย่างนี้เธอตั้งใจหาเรื่องผมใช่ไหม

มู่น่อนน่อนหมายความว่านักข่าวนี้เป็นคนหน้าด้านที่มาถามเรื่องผัวเมียในสาธารณสถาน

และนักข่าวที่ถามคำถามคนนั้นก็รู้ความหมายของมู่น่อนน่อน

นักข่าวที่มาในวันนี้ติดสินบนของมู่ลี่เหยียนทั้งหมด จุดประสงค์หลักก็คือย้ายความสนใจของผู้คนจากมู่หวั่นขีไปถึงมู่น่อนน่อน มีแต่นักข่าวคนนี้คนเดียวเพื่อดึงดูดสายตามาถามเรื่องของเฉินถิงเซียว

ตระกูลเฉินมีสิทธิอิทธิพลใหญ่หลวง ไม่ค่อยมีคนกล้าไปรบกวน แต่ก็มีคนใจกล้าๆที่หาเรื่องเองอยู่

นักข่าวคนนี้ถูกหัวเราะจนหน้าหน้าชา จึงพูดต่อด้วยใจชั่วว่า “หน้าตาของเธอแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเฉินถิงเซียวอ่อนแอ ทำไมถึงแต่งงานกับเขาได้ เธอก็ไม่ต้องปิดบานอะไรแล้ว ผู้หญิงที่กล้าแย่งคู่หมั้นกับพี่สาวอย่างเธอ จะหาคนที่สามแน่นอนอยู่แล้ว”

แม้ว่ามู่น่อนน่อนยังไม่เคยเจอหน้ากับเฉินถิงเซียวแต่ในจิตใต้สำนึก เธอก็ไม่อยากให้เฉินถิงเซียวมาวุ่นวายกับเรื่องบ้าๆบอๆเหล่านี้

เฉินถิงเซียวมีนิสัยแปลกๆมีความเกี่ยวข้องกับการประสบการณ์ของเขา ไม่ว่าเขาอ่อนแอหรือไม่คนพวกนี้ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเล่าในสาธารณสถาน

“ไปหาคนที่สามหรือ ในเมืองหู้หยางยังมีผู้ชายคนไหนที่มีอนาคตดีกว่าเฉินถิงเซียวหรือ” มู่น่อนน่อนยิ้มย่องว่า “ชีวิตเราสองคนมีความสุขดี ถ้าเธอไม่เชื่อไปถามคุณสามีของฉันเฉินถิงเซียวก็ได้”

“แก......”

นักข่าวคาดคิดว่ามู่น่อนน่อนจะโมโหจนพูดคำด่า แต่ไม่คิดเลยว่าเธอใจเย็นแบบนี้ ใจเย็นจนเธอก็ไม่รู้ว่าเธอจะพูดอะไร

สำหรับเรื่องไปถามเฉินถิงเซียว?

แค่สิทธิ์ไปเจอเฉินถิงเซียวเธอก็ไม่มี และถ้าได้เจอจริงๆเธอก็แค่อยากเอาใจเฉินถิงเซียวกล้าถามคำถามแบบนี้ได้ยังไง

ถึงตอนนี้ นักข่าวคนอื่นจึงได้สำนึกว่า คนที่พวกเขาสัมภาษณ์นั้น ไม่เพียงแต่เป็นคุณหนูสามที่พ่อแม่ไม่ชอบ ยังเป็นคุณหญิงของตระกูลเฉินอีกด้วย

ถึงแม้ว่าดูท่าทีคุณหญิงคนใหม่นี้ไม่ค่อยได้ใจเท่าไร แต่เรื่องของตระกูลใหญ่นั้นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

ดังนั้น คำถามของนักข่าวเหล่านี้ก็น่าฟังขึ้นมาแล้ว

“ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับมู่หวั่นขีพี่สาวเธอดีไหม”

มู่น่อนน่อนยิ้มละไม “ตอนเด็กๆฉันชอบพี่สาวมาก” พอโตขึ้นก็ไม่ชอบแล้ว

“คุณแม่ทำดีกับคุณกับพี่สาวคุณใช่ไหม”

“ค่ะ แม่เป็นคนดี” เซียวชู่เหอทำดีกับมู่หวั่นขีมาก

“......”

สุดท้ายแล้ว นักข่าวเหล่านี้จึงคิดถึงว่าตัวเองเอาเงินของมู่ลี่เหยียนไว้ จึงถามคำถามเกี่ยวกับเรื่องวิดีโอต่อ

“มีคนพูดว่าความจริงแล้ววิดีโอนั้นคือคุณตั้งใจจะทำให้พี่สาวเธอโกรธ และจ้างคนไปถ่าย เธอเพื่อเก็งกำไรใช่ไหม”

มู่น่อนน่อนเงียบไปครึ่งนาทีแล้วพยักหัวตอบว่า “ใช่”

......

พอสัมภาษณ์เสร็จพวกนักข่าวจากไป มู่หวั่นขีก็เดินเข้ามาด้วยความโกรธเคือง “ให้เธอยอมว่าเธอแค่ทำข่าวกู ทำไมลังเลอย่างนั้น เธอตั้งใจทำใช่ไหม”

พูดจบแล้วเธอรู้สึกยังไม่ได้แก้แค้นและหมายจะตบหน้ามู่น่อนน่อนอีก

มู่น่อนน่อนแสร้งถอยครึ่งก้าวอย่างไม่รู้ตัว ฝ่ามือของมู่หวั่นขีจึงไม่ได้ตบหน้ามู่น่อนน่อนอย่างที่เธอหมาย

พอเห็นแบบนี้มู่หวั่นขีก็แค้นขึ้นอีก ถลึงตากับมู่น่อนน่อนว่า “เธอกล้าหลีกด้วยหรือ”

“หวั่นขี” เสียงตะเบ็งของมู่ลี่เหยียนทำให้มู่หวั่นขีหยุดกิริยาอาการที่อยากจะตบหน้ามู่น่อนน่อน

พอได้เห็นมู่ลี่เหยียน มู่หวั่นขีก็เดินเข้าไปอย่างน้อยใจ “คุณพ่อ เมื่อกี้นักข่าวถามว่าเธอใช่ทำข่าวกูหรือเปล่า แต่เธอลังเลตั้งนาน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม