มู่น่อนน่อนมองลงด้านล่างไปเรื่อย ๆ ก็เห็นว่ารูปภาพประกอบที่อยู่ด้านล่าง ซึ่งเป็นรูปเมื่อวานที่เธอกับเฉินถิงเซียวจูบกันอย่างดูดดื่มอยู่ในรถ
เวลานั้นเองเธอรู้สึกว่าเฉินถิงเซียวจูบเธออย่างดุดัน แต่ตอนนี้พอมาเห็นรูปแล้ว ถือว่า...มันดูหนักหน่วงดุดันจริงๆ
เสิ่นเหลียงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของเธอเมื่อเห็นว่าเธอนั้นได้เห็นรูปภาพแล้ว ถึงกลับถอนหายใจทันที “แกบอกความจริงกับฉันมา แกกับบอสใหญ่เลิกกันตอนไหนเหรอ? หรือว่าไม่ได้เลิกกันเลย? ถ้าพวกแกไม่ได้เลิกกันแกทำแบบนี้มันก็เกินเหตุไปแล้วนะ!”
มู่น่อนน่อนโดนเธอพูดใส่ถึงกลับอึ้งกิมกี่ “เราไม่ได้เลิกกัน”
เสิ่นเหลียงที่ได้ยินเธอพูดออกมาเช่นนี้ เลยใช้ฝ่ามือตบลงบนโต๊ะอาหารเสียงดังลั่น แถมแสดงอากัปกิริยาที่ไม่อยากจะเชื่อ “พวกแกไม่ได้เลิกกันแล้วแกดันมาทำเรื่องแบบนี้อีก จนถูกพวกสื่อฯถ่ายรูปมา นี่แกไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่ออีกแล้วใช่ไหม!”
มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าเสิ่นเหลียงเข้าใจเรื่องนี้ผิดไปเยอะเลย จึงเตรียมอธิบายให้เธอฟัง “ไม่ใช่นะ ความหมายของฉันคือ...”
เสิ่นเหลียงยื่นมือออกมาและทำมือโบกปฏิเสธต่อหน้าเธอ เพื่อแสดงสัญลักษณ์ว่าเธออย่าได้อธิบายอีกเลย และพูดแทรกคำพูดของเธอแทน “เรื่องนี้มันออกข่าวไปแล้ว บอสใหญ่ตอนนี้ก็คงรู้เรื่องแล้ว แกก็รีบจัดการเก็บของ และรีบหนีให้รอดชีวิตไปเถอะ”
มู่น่อนน่อน “….”
เสิ่นเหลียงเห็นว่าเธอไม่ได้มีอาการขยับเขยื้อนใด เลยไม่ลืมที่จะเร่งรัดเธอ “รีบไปเร็ว ยังจะมามัวอึ้งอยู่อีกทำไมกัน?”
“ผู้ชายคนนี้ก็คือเฉินถิงเซียว” มู่น่อนน่อนยกมือขึ้นเพื่อท้าวหน้าผากของตนเองเอาไว้ และหลุบตาลงเพื่อมองคอมเม้นท์ที่เขียนอยู่ในโทรศัพท์
ในคอมเม้นท์ต่างพูดกันไปต่างๆ นานา มีสีสันเป็นอย่างมาก
“ดูสไตล์จากเสื้อผ้าที่ชายคนนี้ใส่ น่าจะยังอายุน้อยมาก อาจจะเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ก็เป็นได้”
“หาเด็กอายุน้อยขนาดนี้ ก็คงเอามาเยาะเย้ยเฉินถิงเซียวละมั้ง?”
“พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ผู้หญิงนั่นกับคุณชายเฉินคนนั้นตกลงว่าทำไมถึงหย่ากันล่ะ? เป็นเพราะว่าผู้ชายทำไม่ไหวเหรอ?”
รีโพสต์แรก “ตรงนี้มีคนซื่อสัตย์อยู่ด้วย ทุกคนมารุมเขาเร็ว”
รีโพสต์อันที่สอง “คนปกติที่ไม่เคยออกสื่อต่อสายตาประชาชนมาตั้งสิบกว่าปี แถมยังอนุญาตให้คนอื่นพูดถึงเข้าด้วย คุณชายเฉินนี่ต้องประสาทไปแล้วแน่....”
รีโพสต์อันที่สาม “ฮ่า ๆ ๆ เจ้าของกระทู้ยังกล้าจะพูดอีก เดี๋ยวไม่เกินสามวินาทีทางฝั่งตระกูลเฉินก็ออกมาประกาศศึกแน่”
“เฮ้อ ...” มู่น่อนน่อนถอนหายใจออกมา คนเหล่านี้ประสาทกันไปแล้ว!
ต่างมีข่าวลือถึงเฉินถิงเซียวหนาหูมาโดยตลอด “ทั้งหน้าตาขี้เหร่และไม่มีมนุษยธรรม” ซึ่งมันไม่เป็นความจริงเลยสักนิด ตอนนี้ก็ถูกคนเหล่านี้เอาพูดกันสนุกปาก
มู่น่อนน่อนกำลังจะตอกกลับคนเหล่านี้นั้น โทรศัพท์ก็ถูกเสิ่นเหลียงแย่งคืนกลับไปทันที
มู่น่อนน่อนเงยหน้าขึ้น จากนั้นก็มองโทรศัพท์ที่เสิ่นเหลียงชูขึ้นแกว่างด้านหน้าของเธอ “น่อนน่อนแกมองมองให้ชัดๆ นะ หมวกแก๊ป เสื้อสเวตเตอร์ฮู้ดสีเขียว นี่มันเป็นสไตล์การแต่งตัวของบอสใหญ่เหรอไง? นอกจากใส่เสื้อผ้าสีดำ สีขาว หรือสีเทา ฉันก็ไม่เคยเห็นเขาใส่เสื้อผ้าสีอื่นเลย นี่แกเกลี้ยกล่อมใครกันอยู่!”
ความจริงแล้ว ตอนที่เธอเห็นเฉินถิงเซียวในเวลานั้น ผ่านไปนานสักพักยังตั้งสติไม่ได้เลย
มู่น่อนน่อนยักไหล่ให้ และพูดกลับอย่างไม่ยี่ระ “งั้นต้องทำยังไงถึงจะเชื่อว่า ผู้ชายคนนั้นคือเฉินถิงเซียว? งั้นฉันพาแกไปพิสูจน์ต่อหน้าเขาเลยเอามั้ย?”
แม้ว่าเสิ่นเหลียงจะไม่ค่อยเชื่อว่าคนที่อยู่ในรูปคือเฉินถิงเซียว แต่เธอเชื่อมั่นในตัวของมู่น่อนน่อน
“บอสใหญ่จริงๆ เหรอ?”
“จริงสิ”
เมื่อเห็นน้ำเสียงและการแสดงออกของมู่น่อนน่อนหนักแน่นเต็มเปี่ยม เสิ่นหยางถึงพยักหน้าให้ “’ งั้นได้ เชื่อแกแล้ว”
“แต่ ทำไมเขาถึงแต่งตัวแบบนั้นล่ะ?”
“เมื่อวานนี้เขาเพิ่งจะบินกลับมาจากเมืองM และก็ไปหาฉันที่สตูดิโอ ซิตี้ แต่กลัวว่าจะถูกแอบถ่ายและไม่อยากให้มันยุ่งยาก เลยจัดการแต่งตัวแบบนั้นไป” แต่ผลที่ได้คือการแต่งตัวแบบนั้นไปยิ่งทำให้วุ่นวายหนักกว่าเดิมเสียอีก
เสิ่นเหลียงได้ยินแล้ว รีบเสนอและถามกลับทันที “งั้นแกมีรูปอยู่ไหม?”
มู่น่อนน่อนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “มีสิ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...