ตอนที่ 35 ทำให้ชื่อเสียงของเธอพัง
หลังเสร็จการสัมภาษณ์ “เฉินเจียฉิน”ก็ตามมู่น่อนน่อนตลอด เธอยังไม่ทันดูสัมภาษณ์ตัวเองเลย
เธอเปิดคอมพิวเตอร์ดูพบว่ามีคนติดตามมากและมีคนดังหลายคนแชร์
คนส่วนใหญ่ก็ด่าเธอ แต่ก็มีคนส่วนน้อยที่ยังมีสติอยู่เห็นด้วยกับเธอ
“พูดแล้วไงว่าเธอแค่ทำข่าวกู เห็นมั้ยคนที่สงสารเธอก่อน”
“นึกว่าตนเองเป็นคนสำคัญหรือ ยังใส่หน้ากากมาสัมภาษณ์”
“แค่มีฉันคนเดียวหรือที่คิดว่าคำพูดของเธอเจ๋งมาก”
“เราพบว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอก็ไม่เคยยอมว่าเธอแย่งสามีพี่สาว”
พอเห็นความคิดเห็นข้อสุดท้ายมู่น่อนน่อนก็ยิ้มขึ้นมา
เธอตั้งใจไม่ตอบคำถามนั้นเผื่อวันหลังมู่หวั่นขีจะมาหาเรื่องเธอเพราะเรื่องนี้
มู่น่อนน่อนดูความคิดเห็นต่อไป
“นี่เป็นละครใหญ่ในรอบปีหรือ”
“......”
พอได้รู้จุดมุ่งหมายของคนตระกูลมู่ มู่น่อนน่อนก็ตัดสินใจว่าเธอจะไม่ตามใจเขาเหมือนก่อนแล้ว และเธอจะไม่ให้เรื่องนี่จบลงอย่างง่ายๆ
ไม่นานเท่าไร ความคิดเห็นของการสัมภาษณ์นั้นก็กลายเป็นคำด่าทั้งหมดแล้ว
มู่น่อนน่อนรู้ว่านี่เป็นฝีมือของมู่หวั่นขี
แต่เธอไม่สนใจ
มู่หวั่นขีก็มีจุดดำมากมาย และเธอกับมู่หวั่นขีอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวง่ายที่จะหาจุดดำของเธอ
ให้คนตระกูลมู่ภูมิใจในตัวเองอีกหนึ่งวัน พรุ่งนี้เธอก็จะเปิดเผยจุดดำของมู่หวั่นขีให้นักข่าว เธอจะทำให้ชื่อเสียงของมู่หวั่นขีพังไป
ดูความคิดเห็นไปเรื่อยๆ มู่น่อนน่อนมีอีเมลฉบับหนึ่งทียังไม่ได้อ่าน
พอเธอเปิดไปอ่านก็ตะลึงไปสักพัก
เป็นการชวนสัมภาษณ์จากบริษัทเสิ้งติ่ง
เธอเคยส่งประวัติย่อให้บริษัทเสิ้งติ่งหรือ
เธอไปตรวจดูหลายรอบก็ไม่พบ เธอรู้สึกแปลกใจมาก
ทันใดนั้น เธอคิดถึงว่า “เฉินเจียฉิน”เคยพาเธอไปกินข้าวกับกู้จือหยั่น
เธอพบว่าเวลาที่อีเมลส่งมาคือเก้าโมงเช้าและตอนนั้นเธอกำลังสัมภาษณ์อยู่
คิดแล้วคิดอีก เธอก็ตัดสินใจว่าจะไปถาม “เฉินเจียฉิน”หน่อย
......
เฉินถิงเซียวกำลังนั่งเล่นเกมอยู่ในห้องโถง
สือเย่กำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ด้านหลังเขา และโทรศัพท์ก็เปิดสปีกเกอร์อยู่
เธอได้ยินเสียงคลั่งๆของกู้จือหยั่น “ผมแค่ไปกินข้าวขางนอกกับคุณชายแก พอกลับถึงบริษัทก็วุ่นวายไปหมด แกบอกให้เขาถ้าเขาไม่กลับมาทำงานผมก็จะไปฆ่าตัวตายแล้ว”
สือเย่หันตัวมองเฉินถิงเซียวแล้วพูดอย่างใจเย็นว่า “คุณชายกำลังยุ่งอยู่”
กู้จือหยั่นไม่เชื่อแน่นอน “ยุ่งอะไรของเขาวะ เขาทำอะไรอยู่แกเปิดกล้อง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...