ซูเหมียนนึกไม่ถึงว่าทันทีที่เฉินถิงเซียวเอ่ยปากพูดจะพูดเรื่องนี้ออกมา สีหน้าจึงเปลี่ยนไปโดยทันที “หมายความว่าอะไรคะ?”
“คำพูดง่ายๆแค่นี้ก็ยังไม่เข้าใจ เฉินมู่ไม่สามารถให้เธอมาดูแลได้หรอก” เฉินถิงเซียวย่นคิ้วออกมาเล็กน้อย น้ำเสียงเยือกเย็นออกมายิ่งกว่าเดิม
ความอดทนของเขาได้หายไปทีละนิดๆ
“ไม่ว่าจะพูดยังไง ฉันก็เป็นคู่หมั้นของคุณนะ และก็เป็นแม่แท้ๆของมู่มู่ คุณมาพูดอย่างนี้กับฉันได้ยังไง!” ซูเหมียนถูกเขายั่วให้รู้สึกโมโหขึ้นมา ระดับเสียงยกสูงขึ้น ไม่มีท่าทางใจเย็นสง่างามของตอนปกติอยู่เลยสักนิดเดียว
เธอทนมาพอแล้ว ผ่านมาสามปีไปแล้ว
ถึงแม้ว่าจะเป็นก้อนน้ำแข็ง ก็ควรจะละลายไปได้แล้ว
แต่ว่าเฉินถิงเซียวกลับเหมือนกับก้อนหิน ท่าทีที่มีต่อเธอยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยสักนิดเดียว
“อย่างแรก เรื่องคู่หมั้น เฉินจิ่งหยุ้นเป็นคนพูดมาเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน อย่างที่สอง ถ้าเธอไม่ใช่แม่แท้ๆของเฉินมู่ เธอคิดว่าตอนนี้เธอจะยังสามารถนั่งคุยกับฉันอยู่ที่ตรงนี้ได้เหรอ?”
น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวเย็นชาจนเกือบจะโหดร้ายไปเลย
ซูเหมียนใบหน้าซีดออกมา พูดไม่ออกอยู่นาน จากนั้นก็ถือกระเป๋าลุกขึ้นเดินออกไป
ทันทีที่เธอเดินไปถึงที่ประตูทางเข้า ก็เจอกับเฉินจิ่งหยุ้นที่กำลังเข้าประตูมาพอดี
เฉินจิ่งหยุ้นรีบรั้งเธอเอาไว้ทันที “ซูเหมียน? นี่เธอจะไปไหน? ดึกขนาดนี้แล้วก็พักที่นี่เสียเลยเถอะ”
ซูเหมียนหันไปมองทางข้างในอย่างระมัดระวัง แล้วก็ลากเฉินจิ่งหยุ้นเดินไปที่ตรงมุมที่ไม่มีใครเลยที่ข้างนอกประตู
ภายใต้แสงไฟริมถนนสีเหลืองนวล เฉินจิ่งหยุ้นมองเห็นซูเหมียนเบ้าตาแดงก่ำออกมา สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“จิ่งหยุ้น ฉันทนเฉินถิงเซียวไม่ไหวแล้วจริงๆ เขายังคงเป็นก้อนหินไม่เปลี่ยนไปเลย...”
ซูเหมียนได้เอาคำพูดของเฉินถิงเซียวเมื่อครู่นี้เล่าให้กับเฉินจิ่งหยุ้นไป
เฉินจิ่งหยุ้นลังเลตัดสินใจออกมาไม่ได้ ไม่ได้พูดอะไรออกไป
ซูเหมียนถอนหายใจออกมาด้วยความอดกลั้นเป็นอย่างมาก “เมื่อตอนนั้นเธอไม่ควรจะพาเฉินมู่กลับมาเลย เฉินถิงเซียวดีกับเธอมากกว่าฉันเสียอีก!”
“อย่าพูดอย่างนั้น เฉินมู่เป็นลูกสาวแท้ๆของถิงเซียวนะ” ในใจของเฉินจิ่งหยุ้น ความสัมพันธ์ของคนทางสายเลือดสำคัญมาก
เฉินถิงเซียวจำเรื่องเมื่อก่อนไม่ได้ เฉินจิ่งหยุ้นนึกว่าการที่เธอบอกเฉินถิงเซียวไปว่าซูเหมียนเป็นแม่แท้ๆของเฉินมู่ไปแล้ว อย่างน้อยเฉินถิงเซียวก็จะมีความรู้สึกที่พิเศษกับซูเหมียนมาบ้างสักนิด
แต่นึกไม่ถึงว่าเฉินถิงเซียวมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวกับเฉินมู่เลย แต่กับซูเหมียนกลับยังเย็นชาอย่างนี้อยู่เหมือนเดิม
สามปีมานี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยสักนิดเดียว
ด้วยเหตุนี้เอง เฉินจิ่งหยุ้นถึงได้จงใจปล่อยข่าวกับสื่อออกไปว่าซูเหมียนเป็นคู่หมั้นของเฉินถิงเซียว
ซูเหมียนถึงแม้ว่าจะไม่พอใจกับการแถลงออกไปนี้ของเฉินจิ่งหยุ้น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาให้มากมาย เพียงแค่เอ่ยพูดออกมาด้วยความเหนื่อยหน่ายอยู่บ้างเล็กน้อย “วันนี้ฉันเหนื่อยนิดหน่อย ขอตัวกลับก่อน”
“ฉันให้คนขับรถไปส่งเธอ แล้วฉันจะคิดหาวิธีดู” เฉินจิ่งหยุ้นพูดออกไป จากนั้นก็ยื่นมือออกไปตบไหล่ของซูเหมียน
……
ส่งซูเหมียนไปแล้ว เฉินจิ่งหยุ้นถึงได้เข้ามา
เฉินถิงเซียวกำลังกินอาหารเย็นอยู่ ข้างๆเขามีเก้าอี้สำหรับทานอาหารของเด็กวางไว้ตัวนึง เฉินมู่กำลังกอดถ้วยเล็กๆสีฟ้าจางๆกินผลไม้อยู่
เธอเห็นเฉินจิ่งหยุ้นเดินเข้ามา ส่งเสียงเรียกเสียงอ้อแอ้ออกไป “คุณป้า~”
“มู่มู่กำลังกินผลไม้อยู่เหรอเนี่ย~” เฉินจิ่งหยุ้นยิ้มพลางเดินเข้าไป
เฉินมู่ยื่นมือไปถือส้อม จิ้มแตงโมชิ้นนึงยื่นไปตรงหน้าของเฉินจิ่งหยุ้น “คุณป้ากิน”
เฉินจิ่งหยุ้นมองผลไม้ในถ้วยที่ถูกเฉินมู่จิ้มจนเละเทะไปหมด และก็ไม่รู้ด้วยว่าได้ละเลงน้ำลายลงไปเท่าไหร่ เฉินจิ่งหยุ้นเกิดความลังเลขึ้นมาเล็กน้อย
เธอยิ้มแล้วกุมมืออวบเล็กของเฉินมู่เอาไว้ เอาผลไม้ยื่นไปทางปากของเฉินมู่ “มู่มู่กินเองเลย กินเยอะๆ จะได้สวยๆ”
เฉินถิงเซียวที่อยู่ข้างๆได้ยินคำพูดของเฉินจิ่งหยุ้น ได้หันหน้าไปมองเธอเล็กน้อย ส่งเสียงพูดออกไปเบาๆ “มู่มู่ ให้พ่อกินแอปเปิลสักชิ้นนึงสิ”
เฉินมู่ได้ยินคำพูดของเฉินถิงเซียว ดวงตาก็เป็นประกายออกมา เอาแตงโมยัดเข้าปากของตัวเองไป หาแอปเปิลมาชิ้นนึงจิ้มขึ้นมาอย่างแม่นยำแล้วยื่นไปที่ปากของเฉินถิงเซียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...