มู่น่อนน่อนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา พลางยื่นมือออกไปลูบผมเธอเบาๆ แล้วถามเธอออกไปว่า “หนูยังจำฉันได้?”
เด็กน้อยพยักหน้าออกมา ยื่นมือพุ่งเข้ามาในอ้อมแขนของเธอ เอ่ยออกมาอย่างน่าสงสารว่า “หาเฉินชิงเซียว”
มู่น่อนน่อนถูกกอดที่มาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยทำเอางงงวยไปเล็กน้อย
ลูกชิ้นตัวน้อยๆที่อยู่ในอ้อมแขน กำลังกอดรอบลำคอเธอแล้วมองเธอมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไว้วางใจ
เด็กน้อยตอนนี้สนิทกับคนอื่นได้ง่ายขนาดนี้เลยเหรอ?
หญิงสาวส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีแรงต้านทานต่อของน่ารักๆกันเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเด็กน้อยน่ารักที่น่ารักสุดๆเลย
เด็กน้อยพูดเร็วเกินไป มู่น่อนน่อนฟังไม่เข้าใจเลยว่าเธอพูดอะไรอยู่ จึงได้ถามไปประโยคนึง “หนูพูดถึงใครอยู่เหรอจ๊ะ?”
“เฉินชิงเซียว” เฉินมู่พูดออกมารอบนึงด้วยความจริงจัง
มู่น่อนน่อนอึ้งไปแป๊บนึง ตอนที่มีการตอบสนองขึ้นมาได้ว่าเธอกำลังพูดว่าเฉินถิงเซียว หลุดหัวเราะ “พรืด” ออกมา “หนูชื่ออะไร?”
“มู่มู่” เฉินมู่พูดออกไปอย่างตรงไปตรงมา
มู่น่อนน่อนเห็นเฉินมู่ซื่อตรงอย่างนี้แล้ว ถามอะไรไปก็ตอบ ก็อดไม่ได้ที่รู้สึกกังวลอยู่บ้าง
ลูกสาวที่เลี้ยงดูมาจากในตระกูลมหาเศรษฐีอย่างตระกูลเฉินอย่างนั้น ทำไมถึงได้ซื่อตรงขนาดนี้ ควรจะหัวแหลมสักหน่อยสิถึงจะถูก
มู่น่อนน่อนอุ้มเธอขึ้นมา ถามเธอออกไป “หนูมาด้วยกันกับคุณพ่อ?”
เฉินมู่ส่ายหน้า
มู่น่อนน่อนรู้สึกถึงความลำบากใจขึ้นมาเล็กน้อย เธอจะต้องพาเฉินมู่ไปหาเฉินถิงเซียวที่ไหนกันล่ะ?
คงจะต้องไปบริษัทเฉินซื่อ
แต่ว่าบริษัทเฉินซื่ออยู่ที่ไหนเธอไม่รู้เลย
ถึงแม้ว่าจะไปแล้วมันก็ไม่แน่ว่าจะสามารถเจอเฉินถิงเซียวได้
ในตอนนี้ พวกเธอได้ผ่านร้านอาหารร้านนึงพอดี บนป้ายโฆษณาด้านนอกร้านอาหารมีภาพเฟรนช์ฟรายส์
เฉินมู่ชี้ไปที่เฟรนช์ฟรายส์ด้วยดวงตาที่ส่องประกายออกมา ปากก็ได้พูดออกมาตรงๆ “เฟรนช์ฟรายส์!”
มู่น่อนน่อนมองออกว่าเธออยากกินเฟรนช์ฟรายส์ ในตอนนี้ก็ได้ถึงเวลากินข้าวแล้วด้วย มู่น่อนน่อนจึงอุ้มเธอเข้าไป
ตอนนี้เธอเองก็ไม่รู้ด้วยว่าจะไปหาเฉินถิงเซียวกับคนอื่นในตระกูลเฉินได้ยังไง จึงได้พาเฉินมู่ไปกินข้าวก่อนเลยทันที
มู่น่อนน่อนสั่งเฟรนช์ฟรายส์ให้เฉินมู่มาชุดนึง แล้วก็สั่งข้าวผัดกับน้ำซุปมาอีก
มู่น่อนน่อนไม่เคยดูแลเด็กมาก่อน หยิบช้อนมาเพื่อที่จะป้อนข้าวให้เฉินมู่ แต่ผลก็คือเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวก็เห็นเฉินมู่ถือตะเกียบมาพุ้ยข้าวเข้าปากด้วยตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว
มือซ้ายของเธอกำจนกลายเป็นหมัดเล็กๆวางอยู่บนโต๊ะกินข้าว มือขวาถือตะเกียบด้วยท่ามาตรฐาน อ้าปากยื่นเข้าไปที่ขอบถ้วย พุ้ยข้าวเข้าปากไปอย่างรวดเร็ว
แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ยังอายุน้อยอยู่ ข้าวที่พุ้ยเข้าปากไป ครึ่งหนึ่งได้หกกระจายไปบนพื้น ที่ขอบปากยังมีเม็ดข้าวอยู่เต็มไปหมด
มู่น่อนน่อนถูกความน่ารักทำให้หลงเข้าให้แล้ว บนใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว เรียกพนักงานเอาถ้วยเล็กๆมาตักซุป ใช้ช้อนคน อีกเดี๋ยวซุปก็จะเย็นลงบ้าง แล้วก็ให้เฉินมู่ดื่ม
เมื่อก่อนเธอเห็นเด็กน้อยของคนอื่นกินข้าวคำใหญ่ก็รู้สึกว่าน่ารักมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตัวเฉินมู่เองที่หน้าตาเหมือนกับตุ๊กตาที่อยู่ในภาพเลยไม่มีผิด เธอคิดว่าตัวเองไม่ต้องกินข้าว เพียงแค่มองเฉินมู่ก็สามารถอิ่มได้แล้ว
มู่น่อนน่อนลองชิมดูสักหน่อย รู้สึกว่าซุปมันอุ่นลงแล้ว จึงได้ตักป้อนไปที่ปากของเฉินมู่ พลางเอ่ยด้วยเสียงนุ่มนวลออกไป “ค่อยๆกินช้าๆหน่อย แล้วดื่มซุปสักหน่อย”
เฉินมู่สูดไปคำนึงอย่างไว้หน้ากันอย่างมาก ก็ได้ดื่มน้ำซุปไปจนหมด แล้วไปกินข้าวต่อ
มู่น่อนน่อนนั่งมองอยู่ข้างๆเฉินมู่อยู่นาน ข้าวของตัวเองยังไม่ได้กินอะไรเลย
รอจนเฉินมู่กินไปได้ประมาณหนึ่งแล้ว มู่น่อนน่อนถึงได้ให้พนักงานยกเฟรนช์ฟรายส์มาเสิร์ฟ
เด็กน้อยต่างก็ชอบของกินเล่นจำพวกนี้กันทั้งนั้น แต่ไม่สามารถกินเยอะได้ เฉินมู่กินข้าวอิ่ม กินเฟรนช์ฟรายส์ได้ไม่เท่าไหร่ ตอนหลังก็ได้หยิบเฟรนช์ฟรายส์มาจิ้มซอสมะเขือเทศกินเล่นไปหมด
เห็นเธอกินจนอิ่มหมีพีมันแล้ว มู่น่อนน่อนจึงถามเธอ “พวกเราไปหาพ่อของหนูที่ไหน?”
อันที่จริงมู่น่อนน่อนเพียงแค่ถามไปงั้นๆเท่านั้นเอง และก็ไม่คิดด้วยว่าเฉินมู่จะรู้
ต่อจากนั้น เฉินมู่ก็ได้ยื่นตุ๊กตาตัวเล็กๆที่ตัวเองอุ้มอยู่ตลอดตัวนั้นไปให้มู่น่อนน่อน “โทรสิ”
มู่น่อนน่อนมองตุ๊กตาที่เธอยื่นมาให้ไปแวบนึง เป็นตุ๊กตาลูกเสือตัวน้อยสีฟ้าจางๆตัวหนึ่ง น่ารักมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...