มู่น่อนน่อนพูดจบ ก็ได้มองไปทางเฉินมู่อีกที
เฉินมู่โอบลำคอของเฉินถิงเซียว เอียงหน้ามาเรียกเสียงหวานออกมา “พี่สาวคนสวย”
“อืม” มู่น่อนน่อนตอบไปคำนึง น้ำเสียงได้เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว “มู่มู่ต่อจากนี้ไปจะวิ่งซนอีกไม่ได้นะ”
เฉินถิงเซียวจึงได้นึกขึ้นมาได้ว่าทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นกับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ได้ขนาดนี้
เขานึกขึ้นมาได้ว่าวันนั้นเมื่อตอนที่รอไฟแดงอยู่ที่ทางแยก เฉินมู่เองก็ได้เรียกเธอว่า “พี่สาวคนสวย” ด้วยเหมือนกัน
สามปีนี้ มีผู้หญิงไม่น้อยเลยที่เปลี่ยนวิธีในการเข้าหาเขา เรียกหาความรู้สึกของการมีตัวตนอยู่
ตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ถึงได้ไม่มีความรู้สึกสนใจต่อคนที่เรียกว่า “คนสวย” พวกนั้นเลยสักนิด ในสายตาก็คิดว่าพวกเธอก็สวยเหมือนๆกันหมด
ขนาดซูเหมียนแม่แท้ๆของเฉินมู่เอง เขาก็ไม่มีความสนใจขึ้นมาเลยสักนิด
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาให้คนไปทำการเทียบDNAของตัวเองกับเฉินมู่ไปแล้ว เขาไม่มีทางเชื่อแน่ว่าตนเคยคบกับซูเหมียน
หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเทียบกับตอนที่เจอกันครั้งก่อนแล้ว เปลี่ยนแปลงไปเยอะเลย มองไปแล้วเจริญตาขึ้นเยอะเลยเหมือนกัน
ครั้งก่อนเขาเพียงแค่เห็นแวบๆ จำได้แค่เพียงว่าเป็นผู้หญิงที่ผอมเสียจนหนังหุ้มกระดูก สีหน้าซีดเซียวเสียจนเหมือนกับผี ขี้เหร่สุดๆไปเลย
ตอนนี้มองไปแล้วมีเนื้อขึ้นมานิดนึง
แต่ว่า...
สายตาของเฉินถิงเซียวจรดไปที่ข้อมือผอมบางเปลือยเปล่าที่โผล่ออกมาข้างนอกของมู่น่อนน่อน เขาสงสัยว่าตนเพียงแค่บีบไปเบาๆทีนึง ก็คงจะสามารถบีบจนกระดูกข้อมือเธอแหลกไปได้เลย
สายตาของเฉินถิงเซียวคมกริบเกินไป ประหนึ่งว่ามีความหมายบางอย่างแฝงอยู่ในสายตาคู่นั้นก็ไม่ปาน มู่น่อนน่อนถูกเขามองจนทั้งร่างอยู่ไม่สุขขึ้นมา
เธอจำต้องเอ่ยถามออกไปเพื่อเบี่ยงเบนหัวข้อบทสนทนา “คุณเฉิน คุณ...ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในสาย ทำไมถึงรู้ว่ามู่มู่หาพี่สาวคนหนึ่งมาช่วยโทรศัพท์ให้เธอกัน?”
เฉินถิงเซียวถอนสายตากลับมา มองไปทางใบหน้าของเธอ น้ำเสียงเรียบนิ่งไม่แยแส “คนที่เป็นเพศเดียวกันที่สูงกว่าเธอ เธอก็เรียกว่าพี่สาวหมด”
ความจริงแล้วขอเพียงแค่เฉินมู่เห็นคนที่เป็นเพศเดียวกันที่ตัวเองคิดว่าสวย ไม่ว่าจะมีอายุเท่าไหร่ก็จะเรียก “พี่สาวคนสวย” ทั้งนั้น
“อย่างนี้นี่เอง...” มู่น่อนน่อนพยักหน้ารับรู้ออกมา
โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าจู่ๆก็สั่นขึ้นมา มู่น่อนน่อนหยิบออกมาดู พบว่าเป็นเสิ่นเหลียงโทรเข้ามา
เธอถือโทรศัพท์เอาไว้ไม่ได้รับสาย เงยหน้าไปพูดกับเฉินถิงเซียวไปอย่างรีบร้อน “คุณเฉิน ฉันไม่ได้ต้องการค่าตอบแทนอะไรเลยจริงๆ ต่อจากนี้ไปก็จะต้องดูลูกให้ดีๆนะคะ เธอยังเด็กมาก ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
เธอพูดจบ ก็ได้มองไปทางเฉินมู่อีกที แล้วก็ได้ก้าวเดินออกไป
เธอเดินไปพลาง หยิบโทรศัพท์ออกมารับสายของเสิ่นเหลียงไปพลาง
“ขอโทษนะ ลืมโทรกลับหาเธอไปเลย” เมื่อกี้เธอเล่นอยู่กับเฉินมู่ จึงลืมเรื่องนี้ไปเลย
เธอเองก็เพิ่งจะค้นพบว่าตัวเองชอบเด็กน้อยขนาดนี้
“ไม่เป็นไร เธอถึงบ้านแล้วหรือยัง?”
“ตอนนี้กำลังจะกลับ...”
มู่น่อนน่อนเพิ่งจะวางสายเสิ่นเหลียงไป สายของลี่จิ่วเชียนก็ได้โทรเข้ามาอีก
ทางลี่จิ่วเชียนนั้นสงบนิ่งอย่างมาก “อยู่ที่ไหน?”
มู่น่อนน่อนมองดูเวลาไปเล็กน้อย ก็ได้พบว่าเป็นเวลาหกโมงกว่าไปแล้ว จึงได้เอ่ยถามออกไป “ฉันอยู่ที่ข้างนอกกำลังจะเรียกรถกลับอยู่ นายกลับบ้านไปเรียบร้อยแล้ว?”
ลี่จิ่วเชียนส่งเสียง “อืม” แล้วเอ่ยออกไป “ส่งที่อยู่มาให้ฉัน ฉันไปรับเธอเอง”
“ไม่ต้องหรอก นายพักผ่อนสักหน่อย ฉันจะเรียกรถกลับไปเดี๋ยวนี้...” มู่น่อนน่อนรู้ว่าถ้าพูดต่อไป ตัวเองจะต้องเปลี่ยนความคิดของลี่จิ่วเชียนไม่ได้แน่ๆ จึงได้วางสายไปทันที
ในตอนนี้เป็นชั่วโมงเร่งด่วน ไม่น่าขับรถเท่าไหร่นัก
แต่ก็ได้เจอกับความซวยซ้ำซ้อนเข้า มู่น่อนน่อนยังไม่ทันได้เรียกรถมาได้ บนฟ้าก็มีฟ้าแลบออกมา แล้วก็เริ่มมีฝนตกลงมา
คงจะเป็นฝนฟ้าคะนองรอบสุดท้ายของปลายฤดูร้อน รุนแรงมาก ฝนเม็ดใหญ่ปะทะเข้ามาจนหน้ารู้สึกเจ็บขึ้นมา
เสื้อผ้าบางๆบนร่างของมู่น่อนน่อนเพียงไม่นานก็ได้ถูกฝนจนเปียกโชกออกมา จึงหาป้ายโฆษณามาป้ายนึงแล้วเข้าไปหลบอยู่ข้างใต้แต่กลับไม่ได้ช่วยอะไรเลย
ในตอนนี้โทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง
มู่น่อนน่อนหรี่ตามองไปเล็กน้อย เป็นเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกชื่อเบอร์หนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...