ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 374

ตอนที่เฉินถิงเซียวกลับมาถึงบริษัทเฉินซื่อ ก็เห็นว่าเฉินจิ่งหยุ้นอยู่ในห้องทำงานท่านประธาน เรียบร้อยแล้ว

ตอนที่เขาเดินเข้าไปนั้นเฉินจิ่งหยุ้นกำลังนั่งอยู่บนโซฟา ท่าทางโกรธเคืองแสดงออกทางสีหน้าและเห็นได้ชัดว่ามารออยู่หลายชั่วโมงแล้ว

เฉินถิงเซียวเดินเข้าประตูมา เธอก็เอ่ยปากถามทันที “แกไปไหนมา?”

“ฉันไปไหนมาต้องมารายงานให้คุณรู้ด้วยเหรอ?” เฉินถิงเซียวชำเลืองมองเธอแค่แวบเดียว ก็เดินมุ่งหน้าไปนั่งเก้าอี้ของท่านประธานที่อยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานทันที

ไม่ได้ใส่ใจเฉินจิ่งหยุ้นเลยด้วยซ้ำ

เฉินจิ่งหยุ้นโมโหอยู่ไม่น้อย พลันผุดลุกขึ้นแล้วเดินลงส้นไปยังด้านหน้าของเขาด้วยอารมณ์โกรธจนพุ่งปรี๊ด “ถิงเซียว เราเป็นพี่น้องกัน เรามีความสัมพันธ์ซึ่งเลือดมันข้นกว่าน้ำ ควรเชื่อมั่นซึ่งกันและกันและสนับสนุนอีกฝ่ายสิ”

“เชื่อมั่นซึ่งกันและกันเหรอ?” เฉินถิงเซียวได้ยินแล้วมันเป็นเรื่องตลกทั้งเพ จนถามเธอกลับด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “คุณเคยโกหกผมไหม?”

แววตาคมกริบของเฉินถิงเซียวจับจ้องมองเธอ นัยน์ตาทอประกายความตื่นตระหนกปรากฏให้เห็นเล็กน้อย และพยายามรักษารอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าเอาไว้ และหลอกถามกลับ “ใครพูดอะไรกับแกมา?”

เฉินถิงเซียวไม่ได้ตอบ เอาแต่จ้องเธอแทน

เฉินจิ่งหยุ้นที่ถูกเขาจับจ้องจนตัวสั่นไม่เป็นตัวของตัวเอง เพราะว่าหวาดกลัวเรื่องที่โกหกไว้จะถูกเปิดเผยออกมา จนทำให้เธอไม่รู้จะเอามือไปวางไว้ที่ไหนดี

ทำไมเธอต้องรู้สึกผิดและหวาดกลัวด้วยนะ?

สิ่งที่ทำทุกอย่างในตอนแรก ก็เป็นการทำเพื่อเฉินถิงเซียวทั้งนั้น เพื่อตระกูลเฉินทั้งสิ้น!

เมื่อฉุกคิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ สีหน้าที่ปรากฏอยู่บนหน้าของเฉินจิ่งหยุ้นเริ่มกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง “ไม่ว่าคนอื่นจะพูดอะไรกับแก แกก็อย่าไปเชื่อพวกเขา การที่ตระกูลเฉินของพวกเราเดินมาถึงวันนี้ได้ มีสายตาเท่าไหร่ที่จับจ้องมายังพวกเรา หวังให้พวกเราสองพี่น้องเริ่มทะเลาะกันเอง ส่วนพวกเขาก็นั่งรอรับผลประโยชน์อย่างเดียว!”

เฉินถิงเซียวไม่ได้ยินคำพูดประโยคจากปากของเธอเพียงครั้งเดียว และพูดออกมาอย่างไร้ความรู้สึก “เหรอ?”

เฉินจิ่งหยุ้นพูดอยย่างหนักแน่นมาก “ใช่สิ!”

เฉินถิงเซียวไม่มองเธออีกเลย พลางก้มหน้าเปิดคอมพิวเตอร์ “ฉันจะทำงานแล้ว คุณออกไปเถอะ”

เฉินจิ่งหยุ้นไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ว่าเฉินถิงเซียวจะเชื่อกับคำพูดของเธอ ทำได้แค่หันตัวและเดินออกไปเท่านั้น

หลังจากออกมาจากห้องทำงานของประธานบริษัทแล้ว สีหน้าของเฉินจิ่งหยุ้นก็เกิดความสงสัยขึ้นมา

สามปีที่ผ่านมานี้เฉินถิงเซียวก็ยังดีๆ อยู่แท้ๆ แถมยังคิดเรื่องในอดีตไม่ได้เลยสักนิด และไม่เคยไปมาหาสู่กับพวกของกู้จือหยั่นเลย แม้ว่าจะไม่ได้สนิทสนมกับเธอสักเท่าไหร่ แต่ถือว่าเชื่อฟังเธอดี

ทว่าระยะนี้ เธอค้นพบว่าเฉินถิงเซียวยิ่งควบคุมได้ยากขึ้นทุกที

ตกลงว่ามันเกิดปัญหาขึ้นตรงจุดไหนกันนะ?

เฉินจิ่งหยุ้นทั้งคิดและเดินกลับไปยังห้องทำงานของตนเอง จากนั้นก็กดโทรศัพท์ทางไกลออกไป

โทรศัพท์มีเสียงรอสายอยู่หลายครั้งถึงกดรับสาย

เมื่อโทรศัพท์มีการกดรับสายแล้ว เฉินจิ่งหยุ้นก็พูดใส่ด้วยอารมณ์กราวเกรี้ยว “คุณหมอหลี่ ช่วงนี้น้องชายของฉันเริ่มแสดงอาการไม่ยอมให้ฉันควบคุมแล้ว ฉันพูดอะไรไปเขาแทบไม่ฟังฉันเลย ฉันสงสัยว่าการสะกดจิตของคุณมันเกิดปัญหาขึ้นแล้วแหละ!”

เสียงปลายสายเงียบสนิท

ผ่านไปสักครู่ ถึงมีเสียงค่อนข้างแหบพร่าเล็กน้อยของผู้ชายดังกลับมา “การสะกดจิตไม่ใช่อาการวิกลจริต แม้ว่าการสะกดจิตก็เพื่อให้เขาคอยทำตามความคิดและวิธีการตามเดิมของตนเอง คุณต้องการให้เขาคอยเชื่อฟังคำพูดของคุณ อยากควบคุมเขา งั้นก็ต้องอาศัยความสามารถของตัวคุณเองแล้วแหละ”

น้ำเสียงของคุณหมอหลี่ไม่ได้แสดงอารมณ์ผิดปกติออกมาสักนิด ทว่าเฉินจิ่งหยุ้นกลับรู้สึกว่าเขากำลังหัวเราะเยาะตนเองอยู่

เฉินจิ่งหยุ้นกำหมัดไว้แน่น และพูดด้วยสีหน้าน่าเกลียดเหลือเกิน “นี่คุณกำลังหัวเราะเยาะว่าฉันไม่มีปัญญาอยู่ใช่ไหม?”

คุณหมอหลี่พูดอย่างเรียบเฉยไม่มีอาการร้อนรนแต่อย่างใด “ในสามปีนี้ คนที่ทำให้เขาเชื่อมั่นก็มีเพียงคุณคนเดียว แต่คุณกลับเอาไพ่ที่ดีที่สุดที่อยู่ในมือเล่นได้ทุเรศชะมัด แต่ก็ถือว่าเป็นความสามารถอย่างหนึ่งนะ”

“คุณ...”

เฉินจิ่งหยุ้นเป็นคนหยิ่งจองหองมาโดยตลอด น้อยครั้งนักที่จะเห็นหัวใคร เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ก็ต้องเกิดอาการกราดเกรี้ยวออกมาอย่างแน่นอน

แต่ว่าพอมาคิดดูแล้ว เรื่องของเฉินถิงเซียวยังต้องอาศัยคุณหมอหลี่ต่อ เลยได้แต่อดกลั้นอารมณ์โกรธเคืองเอาไว้

เธอหลับตาลง และควบคุมอารมณ์อยู่สักพัก ถึงได้ตอบกลับไปอีกครั้ง “คุณหมอหลี่มีโอกาสไหมที่น้องชายของฉันจะจดจำเรื่องราวในอดีตขึ้นมาได้?”

“คำถามนี้ของคุณไม่สามารถหาคำตอบที่ชัดเจนได้”

“ความหมายของคุณคือ เขาอาจจะจำเรื่องราวในอดีตได้งั้นเหรอ?” สีหน้าของเฉินจิ่งหยุ้นเปลี่ยนไปถนัดตา “ตอนแรกพูดว่าไม่มีทางที่จะเกิดข้อผิดพลาดได้ไม่ใช่เหรอ?”

“งั้นก็มีแค่คุณที่คิดว่าไม่มีทางที่จะเกิดข้อผิดพลาดได้ ผมยังต้องทำงานต่อ ลาก่อนนะ คุณหนูเฉิน”

คุณหมอหลี่พูดจบ ก็ตัดสายทิ้งทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม