เสิ่นเหลียงยิ้มจนปากถึงรูหูจนหุบไม่ลงแล้ว กระทั่งยังอยากจะเอื้อมมือไปลูบใบหน้าของตนเอง
แต่เธอก็อดทนเอาไว้ได้
เพราะว่าเฉินถิงเซียวยังอยู่ตรงด้านหน้าด้วย
“ค่ะ หนูก็น่ารักมากค่ะ” เสิ่นเหลียงคงได้รับผลกระทบจากเฉินมู่ไปด้วย พอพูดจาออกมาเลยบีบเสียงตนเองลง น้ำเสียงตอนท้ายมีเสียงสูงขึ้น มีความหมายเอาใจอยู่เล็กน้อย
ยากมากนักที่เฉินมู่จะยิ้มอย่างเขินอายออกมา “คริ ๆ”
จากนั้นก็ยื่นมือออกไปจับหน้าตนเอง ตอนที่จับหน้าตนเองนั้น ก็อดใจวางตะเกียบลงไม่ไหว
ถือว่าเป็นเจ้าตัวน้อยนักกินตัวยงจริงๆ เลย
ตอนที่เฉินถิงเซียวคลุกเข้าและยื่นมาทางด้านหน้าของเฉินมู่นั้น เขาก็สังเกตเห็น “แววตาที่ถ่ายทอดความรู้สึกผ่านกัน” ของเฉินมู่กับเสิ่นเหลียงพอดี
เฉินถิงเซียวไม่แสดงอาการสงสัยเลยสักนิด ถ้าเขาเดินออกไปไม่กี่วินาที ผู้หญิงคนนี้ก็จะอุ้มตัวเฉินมู่หนีไปทันที
เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย น้ำเสียงเย็นชากว่าเมื่อครู่เป็นไหน ๆ “มีธุระอะไรอีกไหม?”
“.... คะ?” เมื่อครู่พวกเขายังพูดกันอยู่ดีๆ ว่าเคยรู้จักกันมาก่อนอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?
ทว่าตอนนี้น้ำเสียงของเฉินถิงเซียว ต้องการไล่เธอไปซะงั้น?
ทันใดนั้น วินาทีต่อมาเธอก็ได้ยินเฉินถิงเซียวพูด “ไม่มีธุระอะไร คุณก็ไปได้แล้ว”
“ท่านประธานใหญ่ ฉัน...” ยากนักที่เสิ่นเหลียงจะมาเจอกับเฉินถิงเซียวสักครั้ง และไม่อยากจากไปแบบนี้แน่นอน
ก่อนหน้านี้ ตอนเธอรู้ว่ามู่น่อนน่อนกับเฉินถิงเซียวต่างสูญเสียความทรงจำทั้งคู่ ในใจก็คิดจะไม่บอกกับมู่น่อนน่อนในเรื่องระหว่างเธอกับเฉินถิงเซียว
แต่ว่า พอเธอมาเห็นเฉินมู่แล้ว
เฉินมู่เป็นลูกสาวแท้ๆ ของมู่น่อนน่อน เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธออยู่ในร่างกาย
แม้ว่ามู่น่อนน่อนจะมีพรหมลิขิตกับเฉินถิงเซียวอยู่แค่นี้ก็ตาม แต่ว่ามู่น่อนน่อนกับเฉินมู่ก็ต้องยอมรับความเป็นแม่ลูกกัน
มู่น่อนน่อนเองก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ว่าตัวเองมีลูกสาว
เฉินมู่เองก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ว่าใครคือแม่บังเกิดเกล้าของเธอ
เด็กหน้าตาน่ารักขนาดนี้ เธอก็ควรได้รับทุกอย่างที่คู่ควร รวมถึงความรักของแม่ด้วย
เฉินถิงเซียวเห็นว่าเสิ่นเหลียงยังไม่ยอมไป เลยพูดจาข่มขู่ออกมา “คุณเป็นบุคคลสาธารณะ ไม่คำนึงภาพพจน์ตัวเองสักหน่อยเลยเหรอ?”
ไม่รอให้เสิ่นเหลียงมีปฏิกิริยาตอบโต้กลับ เฉินถิงเซียวก็หยิบโทรศัพท์ออกมา ราวกับเตรียมโทรหายาม
เสิ่นเหลียงกัดฟัน จากนั้นก็ใช้มือทุบลงบนโต๊ะอาหาร แถมน้ำเสียงจริงจังมาก “ฉันขอพูดแค่ประโยคเดียวแล้วจะออกไป”
เฉินถิงเซียวเงยหน้ามองเธอ
เสิ่นเหลียงกลืนน้ำลายลงคอ และพูดต่อ “แม่ที่ให้กำเนิดเฉินมู่ไม่ใช่ซูเหมียน พี่สาวคุณกำลังโกหกคุณอยู่”
เมื่อเห็นสีหน้าของเฉินถิงเซียวที่ยิ่งเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งที่เธอสามารถพูดได้มากที่สุดในเวลานี้ก็ทำได้เพียงเท่านี้
เมื่อก่อนเพราะมู่น่อนน่อน เฉินถิงเซียวถึงได้เกรงใจเธออยู่บ้าง
แต่ว่าตอนนี้ เสิ่นเหลียงไม่กล้ารับประกันได้เลยว่าเธอจะอยู่ที่นี่ต่อไป แต่หลังจากที่ยั่วโมโหเฉินถิงเซียวแล้ว เขาจะลงมือทำอะไรบ้าง
เสิ่นเหลียงพูดจบ ก็หันตัวและเดินสาวเท้าออกมาอย่างรวดเร็ว
เฉินมู่ที่เพิ่งรู้ตัวภายหลังก็เงยหน้าขึ้น เธอมองยังตำแหน่งที่เสิ่นเหลียงกำลังยืนอยู่ จากนั้นก็ยกนิ้วอวบอ้วนเล็กๆ ชี้และพูดออกมา “พี่สาวคนสวยล่ะคะ?”
มุมปากของเธอยังมีเม็ดข้าว และคราบอาหารที่เปรอะเปื้อนอยู่บริเวณมุมปาก
เฉินถิงเซียวเอื้อมมือออกไปช่วยเช็ดให้เธอด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ เฉินมู่ไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการ จึงเกิดอาการอยู่ไม่นิ่ง และหันซ้ายหันขวาเพื่อต้องการหาเสิ่นเหลียง
ฝ่ามือใหญ่ของเฉินถิงเซียวยื่นออกไป และจัดการตรึงศีรษะเล็กๆ ของเธอเอาไว้ เพื่อเป็นการบังคับให้เฉินมู่สบตาเขา
เฉินมู่อ้าปากเล็กน้อย พร้อมทั้งกะพริบตามองเขา “พี่สาวคนสวยไปไหนแล้วคะ?”
เฉินถิงเซียวพูดแก้คำเธอ “นั่นไม่ใช่พี่สาวคนสวย”
เฉินมู่ย่นคิ้ว “เธอสวยนะคะ”
หัวคิ้วของเฉินถิงเซียวค่อยๆ เลิกขึ้นเล็กน้อย “เธอเป็นคุณน้าที่แปลกประหลาด”
ตอนแรกเขาก็ไม่ได้รู้สึกปฏิเสธอะไรกับเสิ่นเหลียง แต่พอเสิ่นเหลียงเอาแต่จับจ้องเฉินมู่แล้ว
ผู้หญิงตอนนี้แปลกประหลาดจริงๆ เลย ถ้าไม่ใช่พุ่งมาหาเขา ก็พุ่งมาที่ลูกเขาแทน
“เธอสวย...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...