ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 377

เสิ่นเหลียงยิ้มจนปากถึงรูหูจนหุบไม่ลงแล้ว กระทั่งยังอยากจะเอื้อมมือไปลูบใบหน้าของตนเอง

แต่เธอก็อดทนเอาไว้ได้

เพราะว่าเฉินถิงเซียวยังอยู่ตรงด้านหน้าด้วย

“ค่ะ หนูก็น่ารักมากค่ะ” เสิ่นเหลียงคงได้รับผลกระทบจากเฉินมู่ไปด้วย พอพูดจาออกมาเลยบีบเสียงตนเองลง น้ำเสียงตอนท้ายมีเสียงสูงขึ้น มีความหมายเอาใจอยู่เล็กน้อย

ยากมากนักที่เฉินมู่จะยิ้มอย่างเขินอายออกมา “คริ ๆ”

จากนั้นก็ยื่นมือออกไปจับหน้าตนเอง ตอนที่จับหน้าตนเองนั้น ก็อดใจวางตะเกียบลงไม่ไหว

ถือว่าเป็นเจ้าตัวน้อยนักกินตัวยงจริงๆ เลย

ตอนที่เฉินถิงเซียวคลุกเข้าและยื่นมาทางด้านหน้าของเฉินมู่นั้น เขาก็สังเกตเห็น “แววตาที่ถ่ายทอดความรู้สึกผ่านกัน” ของเฉินมู่กับเสิ่นเหลียงพอดี

เฉินถิงเซียวไม่แสดงอาการสงสัยเลยสักนิด ถ้าเขาเดินออกไปไม่กี่วินาที ผู้หญิงคนนี้ก็จะอุ้มตัวเฉินมู่หนีไปทันที

เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย น้ำเสียงเย็นชากว่าเมื่อครู่เป็นไหน ๆ “มีธุระอะไรอีกไหม?”

“.... คะ?” เมื่อครู่พวกเขายังพูดกันอยู่ดีๆ ว่าเคยรู้จักกันมาก่อนอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?

ทว่าตอนนี้น้ำเสียงของเฉินถิงเซียว ต้องการไล่เธอไปซะงั้น?

ทันใดนั้น วินาทีต่อมาเธอก็ได้ยินเฉินถิงเซียวพูด “ไม่มีธุระอะไร คุณก็ไปได้แล้ว”

“ท่านประธานใหญ่ ฉัน...” ยากนักที่เสิ่นเหลียงจะมาเจอกับเฉินถิงเซียวสักครั้ง และไม่อยากจากไปแบบนี้แน่นอน

ก่อนหน้านี้ ตอนเธอรู้ว่ามู่น่อนน่อนกับเฉินถิงเซียวต่างสูญเสียความทรงจำทั้งคู่ ในใจก็คิดจะไม่บอกกับมู่น่อนน่อนในเรื่องระหว่างเธอกับเฉินถิงเซียว

แต่ว่า พอเธอมาเห็นเฉินมู่แล้ว

เฉินมู่เป็นลูกสาวแท้ๆ ของมู่น่อนน่อน เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธออยู่ในร่างกาย

แม้ว่ามู่น่อนน่อนจะมีพรหมลิขิตกับเฉินถิงเซียวอยู่แค่นี้ก็ตาม แต่ว่ามู่น่อนน่อนกับเฉินมู่ก็ต้องยอมรับความเป็นแม่ลูกกัน

มู่น่อนน่อนเองก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ว่าตัวเองมีลูกสาว

เฉินมู่เองก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ว่าใครคือแม่บังเกิดเกล้าของเธอ

เด็กหน้าตาน่ารักขนาดนี้ เธอก็ควรได้รับทุกอย่างที่คู่ควร รวมถึงความรักของแม่ด้วย

เฉินถิงเซียวเห็นว่าเสิ่นเหลียงยังไม่ยอมไป เลยพูดจาข่มขู่ออกมา “คุณเป็นบุคคลสาธารณะ ไม่คำนึงภาพพจน์ตัวเองสักหน่อยเลยเหรอ?”

ไม่รอให้เสิ่นเหลียงมีปฏิกิริยาตอบโต้กลับ เฉินถิงเซียวก็หยิบโทรศัพท์ออกมา ราวกับเตรียมโทรหายาม

เสิ่นเหลียงกัดฟัน จากนั้นก็ใช้มือทุบลงบนโต๊ะอาหาร แถมน้ำเสียงจริงจังมาก “ฉันขอพูดแค่ประโยคเดียวแล้วจะออกไป”

เฉินถิงเซียวเงยหน้ามองเธอ

เสิ่นเหลียงกลืนน้ำลายลงคอ และพูดต่อ “แม่ที่ให้กำเนิดเฉินมู่ไม่ใช่ซูเหมียน พี่สาวคุณกำลังโกหกคุณอยู่”

เมื่อเห็นสีหน้าของเฉินถิงเซียวที่ยิ่งเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งที่เธอสามารถพูดได้มากที่สุดในเวลานี้ก็ทำได้เพียงเท่านี้

เมื่อก่อนเพราะมู่น่อนน่อน เฉินถิงเซียวถึงได้เกรงใจเธออยู่บ้าง

แต่ว่าตอนนี้ เสิ่นเหลียงไม่กล้ารับประกันได้เลยว่าเธอจะอยู่ที่นี่ต่อไป แต่หลังจากที่ยั่วโมโหเฉินถิงเซียวแล้ว เขาจะลงมือทำอะไรบ้าง

เสิ่นเหลียงพูดจบ ก็หันตัวและเดินสาวเท้าออกมาอย่างรวดเร็ว

เฉินมู่ที่เพิ่งรู้ตัวภายหลังก็เงยหน้าขึ้น เธอมองยังตำแหน่งที่เสิ่นเหลียงกำลังยืนอยู่ จากนั้นก็ยกนิ้วอวบอ้วนเล็กๆ ชี้และพูดออกมา “พี่สาวคนสวยล่ะคะ?”

มุมปากของเธอยังมีเม็ดข้าว และคราบอาหารที่เปรอะเปื้อนอยู่บริเวณมุมปาก

เฉินถิงเซียวเอื้อมมือออกไปช่วยเช็ดให้เธอด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ เฉินมู่ไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการ จึงเกิดอาการอยู่ไม่นิ่ง และหันซ้ายหันขวาเพื่อต้องการหาเสิ่นเหลียง

ฝ่ามือใหญ่ของเฉินถิงเซียวยื่นออกไป และจัดการตรึงศีรษะเล็กๆ ของเธอเอาไว้ เพื่อเป็นการบังคับให้เฉินมู่สบตาเขา

เฉินมู่อ้าปากเล็กน้อย พร้อมทั้งกะพริบตามองเขา “พี่สาวคนสวยไปไหนแล้วคะ?”

เฉินถิงเซียวพูดแก้คำเธอ “นั่นไม่ใช่พี่สาวคนสวย”

เฉินมู่ย่นคิ้ว “เธอสวยนะคะ”

หัวคิ้วของเฉินถิงเซียวค่อยๆ เลิกขึ้นเล็กน้อย “เธอเป็นคุณน้าที่แปลกประหลาด”

ตอนแรกเขาก็ไม่ได้รู้สึกปฏิเสธอะไรกับเสิ่นเหลียง แต่พอเสิ่นเหลียงเอาแต่จับจ้องเฉินมู่แล้ว

ผู้หญิงตอนนี้แปลกประหลาดจริงๆ เลย ถ้าไม่ใช่พุ่งมาหาเขา ก็พุ่งมาที่ลูกเขาแทน

“เธอสวย...”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม