ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 434

สรุปบท บทที่ ​434 เพื่อความรักต่อให้​ต้องบุกน้ำลุยไฟก็ยอม: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

สรุปตอน บทที่ ​434 เพื่อความรักต่อให้​ต้องบุกน้ำลุยไฟก็ยอม – จากเรื่อง ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดย Meow(○` 3′○)

ตอน บทที่ ​434 เพื่อความรักต่อให้​ต้องบุกน้ำลุยไฟก็ยอม ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดยนักเขียน Meow(○` 3′○) เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

มู่น่อนน่อนกดออกจากWeibo และตัดสินใจตรวจสอบว่ายังมีเงินเหลืออยู่ในบัญชีของเธอหรือเปล่า

 เธอตรวจสอบ จึงพบว่าเธอยังมีเงินหลายแสนหยวนในบัญชี

 เงินพวกนี้สำหรับเสิ่นเหลียงกับเฉินถิงเซียวแล้ว อาจไม่ได้มากมายอะไร แต่สำหรับเธอ มันก็ไม่น้อยแล้ว

จนถึงเธอเขียนบทละครเรื่องต่อไปเสร็จ เพียงพอที่เธอกับเฉินมู่จะใช้แล้ว

ในตอนนี้เองเสิ่นเหลียงก็เปิดประตูและเข้ามา “เธอกำลังทำอะไรอยู่?”

 “จัดของน่ะ” มู่น่อนน่อนเอาบัตรประจำตัวใหม่ของเธอออกมาให้เธอดู

เมื่อตะกี้เสิ่นเหลียงอยู่ในห้อง จึงไม่รู้ว่าสือเย่มาที่นี่เพื่อส่งของให้มู่น่อนน่อน “ใครเป็นคนเอามาให้เหรอ?”

 “ฉันขอให้ผู้ช่วยพิเศษช่วยจัดการให้น่ะ” มู่น่อนน่อนพูดพลางเอาบัตรเอทีเอ็มธนาคารกลับเข้าไปในกระเป๋า “ฉันจำได้ว่าในบัตรเอทีเอ็ม แต่ฉันจำไม่ได้ว่ามีเท่าไหร่ ฉันเพิ่งเช็กดู มันมีเพียงพอให้ฉันกับมู่มู่ใช้ได้นานทีเดียว”

พอเสิ่นเหลียงได้ยินเธอพูดแบบนี้ เธอรู้ได้ทันทีว่ามู่น่อนน่อนคิดจะย้ายออกไปจากที่นี่

 เสิ่นเหลียงขมวดคิ้วเล็กน้อย “อยู่กับฉันก็ไม่เป็นไรนี่นา พวกเราเป็นเพื่อนกันนะ จะเกรงใจทำไมกัน?”

 “ฉันรู้ความหวังดีของเธอ แต่ฉันต้องเลี้ยงดูมู่มู่ ฉันมีชีวิตของตัวเองที่ต้องเดิน ยังไม่ถึงขั้นไร้หนทางที่จะเดิน ที่จริงแล้วตอนนี้ทุกอย่างก็พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นแล้ว”

เสิ่นเหลียงเพิ่งตื่นนอน ผมของเธอดูยุ่งเหยิงเล็กน้อย มู่น่อนน่อนเอื้อมมือไปช่วยสางผมให้เธอ “อยู่บ้านคนเดียวก็อย่าเอาแต่สั่งอาหารข้างนอกมากิน ให้กู้จือหยั่นมาทำอาหารให้เธอกิน”

 เสิ่นเหลียงรีบคัดค้านทันที “เธอพูดอะไรเนี่ย กู้จือหยั่นทำอาหารไม่เป็น...”

 “ไม่ปฏิเสธนี่นา หรือว่าเธอสองคน…อืม?” มู่น่อนน่อนลูบคางตัวเองไปมา เหมือนกำลังจะพูดอะไรแล้วก็ไม่พูด

“ฉันไม่รู้” เสิ่นเหลียงส่ายหน้าไปมา รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็จางลง “ถึงแม้กู้จือหยั่นกับฉันจะไม่ได้คบกัน แต่เราก็เป็นเพื่อน เป็นคนสนิทกัน เธอไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก”

 เสิ่นเหลียงพูด แล้วยังกระแทกไหล่ของมู่น่อนน่อนเบาๆ ด้วย

พอเห็นว่ามู่น่อนน่อนยังคงจ้องมองเธออยู่ เธอก็ยิ้มออกมา แล้วพูดว่า “อย่างน้อยฉันก็รวยกว่าเธอ ฉันมีบ้าน มีรถ มีกระเป๋า และเสื้อผ้าแบรนด์เนม ฉันมีทุกอย่างที่อยากได้ เธอควรกังวลตัวเองมากกว่า”

 มู่น่อนน่อนพยักหน้าอย่างจริงจังแล้วพูด “อืม สิ่งที่เธอพูดมาก็มีเหตุผล”

เสิ่นเหลียงเป็นผู้หญิงที่มีความคิดเป็นของตัวเอง

 เธอกับเสิ่นเหลียงสามารถเป็นเพื่อนกันมานานหลายปีขนาดนี้ เพราะมีส่วนหนึ่งที่มีความคล้ายคลึงกัน

 พวกเธอเชื่อว่า ความรักไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต

 ความหมายของการมีชีวิตอยู่ ควรจะกว้างขวางมากกว่านี้

แต่ว่า เพื่อความรักต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟพวกเธอก็ยอม

เสิ่นเหลียงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ถ้าอยากจะย้ายออก ฉันให้ผู้จัดการของฉันช่วยหาบ้านให้ หล่อนเก่งเรื่องพวกนี้ เธอต้องดูแลลูกคงหาที่พักไม่ค่อยสะดวก”

 มู่น่อนน่อนตอบ “ก็ได้”

 …

 ตอนเที่ยง มู่น่อนน่อนเปิดดูweiboของเธออีกครั้ง

 เธอพบว่า Weibo ที่โพสต์เมื่อเช้านี้ มีการแชร์และไลค์เกินหมื่นครั้ง และมีข้อความแสดงความคิดเห็นหลายหมื่นข้อความ

 ในบรรดากลุ่มผู้ที่แชร์สเตตัส มีผู้กำกับและดาราในวงการบันเทิงหลายคน และเน็ตไอดอลอีกบางส่วน

เสิ่นเหลียงเดินเข้ามา สีหน้าดูเสียดาย “คุณเข้าดูweiboเหรอ ทำไมไม่บอกฉันเลยล่ะ ฉันจะได้เป็นคนแชร์คนแรก”

 มู่น่อนน่อนลำบากใจ “ฉันก็แค่เข้าไปลองโพสต์สเตตัสดูเท่านั้นเอง”

เสิ่นเหลียงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา แล้วแชร์สเตตัสใหม่ที่มู่น่อนน่อนโพสต์บน Weibo

 “V เสิ่นเหลียง: รู้สึกว่ารอมาครึ่งชีวิต แต่โชคดีที่ในที่สุดเธอก็กลับมา คำถามก็คือ คุณนักเขียนบทเขียนที่รัก “เมืองพัง 2” เขียนเสร็จหรือยังคะ? [หัวใจ]//@มู่มู่: ขอบคุณสำหรับความชื่นชอบของทุกท่านที่มีต่อ “เมืองพัง””

มู่น่อนน่อนที่กำลังดู Weibo จึงเห็นเสิ่นเหลียงแชร์ Weibo ของเธอพอดี แล้วคลิกที่รูปประจำตัวของเสิ่นเหลียง ก่อนจะกดติดตามเสิ่นเหลียง

 พอกดแล้วถึงพบว่า พวกเธอได้ติดตามซึ่งกันและกันแล้ว

แสดงให้เห็นว่า เสิ่นเหลียงติดตามเธอมานานแล้ว

คนที่ติดต่อมา ส่วนใหญ่จะอยากร่วมงานกับมู่น่อนน่อน

 มู่น่อนน่อนปฏิเสธทุกคนอย่างนุ่มนวล

เพราะตอนนี้นอกจากเธอกำลังรอฉินสุ่ยซานติดต่อมาหาเธอแล้ว เธอยังยุ่งอยู่กับการย้ายบ้านด้วย

 เสิ่นเหลียงมีญาติพี่น้องที่อพยพย้ายถิ่นฐานไปต่างประเทศ ทิ้งบ้านไว้หนึ่งหลัง เพราะทำใจขายไม่ลง แต่ก็กลัวว่าบ้านจะมีฝุ่นถ้าไม่มีใครอาศัยอยู่เป็นเวลานาน พวกเขาจึงขอให้เสิ่นเหลียงช่วยพวกเขาเช่าออกไป

เดิมทีเสิ่นเหลียงมอบหมายให้ผู้จัดการของเธอไปจัดการเรื่องนี้ แต่ผู้จัดการยังไม่เคยปล่อยให้เช่าออกไป

ในเมื่อบ้านยังไม่ได้เช่าออกไป เสิ่นเหลียงจึงเช่าให้กับมู่น่อนน่อนไป

เสิ่นเหลียงกับผู้จัดการพามู่น่อนน่อนไปดูบ้าน

 บ้านอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีสภาพแวดล้อมที่งดงาม และทำเลก็ดีมากด้วย

 ที่สำคัญที่สุดคือ ตำแหน่งของบ้าน มันอยู่ระหว่างทางจากบ้านของเฉินถิงเซียวไปบริษัทเฉินซื่อด้วย

 เรียกได้ว่าสะดวกมากๆ

การตกแต่งภายในสวยมาก เฟอร์นิเจอร์ครบครัน

 เสิ่นเหลียงเปิดผ้าม่าน แล้วถามมู่น่อนน่อน “เป็นยังไงบ้าง โอเคไหม”

 “ดีมากเลย” มู่น่อนน่อนพอใจกับบ้านหลังนี้มาก

 “เธออยู่ที่นี่ก่อนได้เลยนะ ส่วนค่าเช่า ให้แค่นิดหน่อยก็พอแล้ว เดิมทีบ้านของพวกเขาก็ไม่ได้ขาดแคลนเรื่องเงิน พวกเขาแค่อยากให้มีคนอยู่ในบ้าน เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้บ้าน”

ถึงแม้เสิ่นเหลียงจะพูดแบบนั้น แต่มู่น่อนน่อนก็ยังจ่ายค่าเช่าให้ตามราคาในท้องตลาด

 ด้วยความที่เป็นบ้านพร้อมอยู่ มู่น่อนน่อนจึงย้ายเข้ามาอยู่ภายในสองวันได้เลย

 เด็กน้อยมักจะอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมใหม่

 ทันทีที่เฉินมู่เข้ามาในบ้าน เธอก็มองไปรอบๆ แล้ววิ่งไปทั่วด้วยความสงสัย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม