มู่น่อนน่อนนั่งลงบนโซฟา มองดูเฉินมู่ที่เข้าๆ ออกๆ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้เจอเฉินถิงเซียวมาหลายวันแล้ว
มู่น่อนน่อนจิตใจหดหู่เล็กน้อย ยังไงมันก็ต่างไปจากเมื่อก่อนแล้ว
เมื่อก่อน ตอนที่เธอกับเฉินถิงเซียวไม่ได้อยู่ด้วยกัน เฉินถิงเซียวก็จะโกรธ ที่เธอไม่เริ่มติดต่อหาเขาเอง
แต่ตอนนี้ฉันยุ่งมาหลายวันแล้วไม่ได้ติดต่อไปหาเขาเลย เขาก็จะไม่โทรมาถามเลยสักครั้ง
จิตใจหดหู่ก็จริง มู่น่อนน่อนก็ยังหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดโทรหาเฉินถิงเซียวทันที
โทรศัพท์โทรติดแล้ว แต่ไม่มีใครรับสาย
มู่น่อนน่อนโทรไปสองครั้งติดต่อกัน แต่ไม่มีใครรับสาย
ในใจของเธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เฉินถิงเซียวคงไม่ได้บล็อกเบอร์เธอไปแล้วหรอกนะ
……
ตึกบริษัทเฉินซื่อ
ในห้องประชุม เฉินถิงเซียวนั่งอยู่ตำแหน่งประธาน และคณะกรรมการระดับสูงก็นั่งลงรองลงไป
เฉินถิงเซียวมองไปที่แฟ้มเอกสารในมือ คิ้วของเขาขมวดแน่น
คนข้างล่างไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไร
สือเย่ยืนอยู่ข้างหลังเขา ยืนก้มหน้าก้มตา เหมือนทำอะไรผิดมา
ในเวลานี้เอง โทรศัพท์มือถือของเฉินถิงเซียวก็ดังขึ้นมา
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือที่ดังทำลายบรรยากาศเงียบสงบในห้องประชุมไปทันที
สายตาของบรรดาคณะกรรมการระดับสูงที่อยู่ด้านล่าง ทุกคนต่างก็พากันมองไปที่โทรศัพท์มือถือของเฉินถิงเซียว
สือเย่ที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา แอบเหลือบตามอง เขาจึงเห็นชื่อของผู้โทรปรากฏขึ้นมาบนโทรศัพท์อย่างชัดเจน “ผู้หญิงหน้าด้าน”
สือเย่คิดเพียงวินาทีเดียว ก็รู้ว่านี่เป็นชื่อเรียกที่เฉินถิงเซียวใช้เรียกมู่น่อนน่อน
หน้าด้าน……
ไม่รู้ว่าใครหน้าด้านกว่ากัน
เฉินถิงเซียวไม่ได้รับสายในทันที เขาเอาแต่จ้องไปที่โทรศัพท์มือถือที่ยังดังไม่หยุด
เมื่อก่อนถ้าเฉินถิงเซียวเห็นว่ามู่น่อนน่อนโทรมาจะรีบกดรับสายทันที แต่ตอนนี้มันกลับแตกต่างกันลิบลับ
จนโทรศัพท์วางสายไปอัตโนมัติ เฉินถิงเซียวก็ยังไม่ยอมรับสายอยู่ดี
สือเย่ไม่เข้าใจว่าเฉินถิงเซียวคิดอะไรอยู่
ถ้าเฉินถิงเซียวไม่รู้สึกอะไรกับมู่น่อนน่อนเลย ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะให้โอกาสมู่น่อนน่อนโทรมาหาเขา
แต่ถ้ารู้สึกอะไรกับเธอ ทำไมถึงไม่รับสายล่ะ?
หรือว่าเขาคิดจะใช้กลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับ?
สือเย่ตกตะลึงกับความคิดของตัวเอง
เฉินถิงเซียวคนก่อน ไม่มีทางใช้แผนการที่ซับซ้อนวุ่นวายแบบนี้ ถ้าเขาชอบก็จะแย่งมาอย่างเอาแต่ใจ ถ้าไม่ชอบก็จะผลักออกไปให้ไกลจากตัวเอง
นี่เฉินถิงเซียวความทรงจําขาดหาย แต่อีคิวเพิ่มขึ้นอย่างนั้นเหรอ?
โทรศัพท์เงียบเสียงลง หน้าจอก็ดับลง เฉินถิงเซียวจึงถอนสายตากลับมา แล้วมองเอกสารที่อยู่ข้างหน้าเขาอีกครั้ง
แต่ไม่นาน โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
โทรมาอีกแล้วเหรอ?
เขาก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าผู้หญิงหน้าด้านคนนั้น จะโทรมาได้สักกี่ครั้ง
แต่ว่า ยังไม่ทันที่เขาจะสามารถทดสอบได้ว่ามู่น่อนน่อนจะโทรมาได้อีกกี่ครั้ง เขากลับพบว่าตัวเองแทบอยากจะรับสายแล้ว
หลายวันมานี้มู่น่อนน่อนไม่ได้มาหาเขาเลย และไม่ได้ติดต่อมาหาเขาเลยด้วย
นี่เป็นการกระทําของผู้หญิงที่อยากจะแต่งงานกับเขาใหม่จริงๆ เหรอ?
ถ้าหากเธออยากจะแต่งงานกับเขาใหม่จริงๆ เธอไม่ควรจะฉวยโอกาสทุกโอกาสเพื่อมาเอาใจเขาเหรอ
แต่มู่น่อนน่อนคนนี้ กลับมาทำก๋วยเตี๋ยวให้เขากินแค่ชามเดียว
วันต่อมาเป็นเขาที่ไปหาเธอ แต่เธอกลับพูดบางอย่างที่น่าฟังออกมา แล้วไม่สนใจเขาอีก?
ผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงเป็นแบบนี้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...