ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 436

ฟังดูแล้ว น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวดูเหมือนจะได้ใจเล็กน้อย

กู้จือหยั่นรู้สึกว่า ความรู้ของเขาที่มีต่อเฉินถิงเซียวนั้นยังตื้นเขินเกินไป คิดไม่ถึงเลยว่าภายใต้ใบหน้าเย็นชานั้นจะมีวิญญาณแห่งความขี้อวดซ่อนอยู่ด้วย

 แต่เห็นแก่มิตรภาพอันลึกซึ้งระหว่างทั้งสอง กู้จือหยั่นคิดว่าเขายังคงต้องเตือนเฉินถิงเซียวสักหน่อย

 “ถิงเซียว นายรู้จักคำพูดยอดนิยมบนอินเทอร์เน็ตไหม”

 “ไม่รู้” เห็นได้ชัดว่าเฉินถิงเซียวไม่อยากจะฟังสิ่งที่เขาจะพูดหลังจากนี้

กู้จือหยั่นไม่สนใจที่จะถูกเฉินถิงเซียวพูดขัด เขายังคงพูดต่อ “ประโยคที่ว่าก็คือ แกล้งเมียสะใจ ง้อเมียยากยิ่งกว่า”

เฉินถิงเซียวถามอย่างเย็นชา “ประโยคนี้มันเกี่ยวอะไรกับฉัน?”

 น้ำเสียงของเขาทั้งอันตรายและเย็นชา และถึงแม้กู้จือหยั่นจะโง่แต่ก็รู้ว่าควรจะตอบยังไง

 “ไม่เกี่ยวกับนายหรอก...แหะแหะ” ตอนนี้ไม่เกี่ยว ต่อไปต้องเกี่ยวแน่

เฉินถิงเซียวยกยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา กู้จือหยั่นไม่ลืมจุดประสงค์หลักที่มาที่นี่ จึงพูดต่อ “เดี๋ยวฉันส่งที่อยู่ของน่อน… เอ่อ มู่น่อนน่อนมาให้ คืนนี้นายไปด้วยนะ”

 เฉินถิงเซียวปฏิเสธเสียงแข็ง “ไม่ไป”

กู้จือหยั่น “...”

ถึงแม้เฉินถิงเซียวจะบอกว่าไม่ไป แต่หลังจากที่กู้จือหยั่นวางสาย เขาก็ยังคงส่งที่อยู่ของบ้านที่มู่น่อนน่อนพักอยู่ไปให้

ถ้าในอนาคตเฉินถิงเซียวฟื้นความทรงจำของเขา อย่าโทษเขาว่าเขาไม่ช่วยนะ เรื่องที่เขาสามารถช่วยเฉินถิงเซียวได้ ก็มีเพียงแค่นี้เท่านั้น

แต่ว่า พอเขานึกภาพตอนที่เฉินถิงเซียวความทรงจํากลับมาแล้วเสียใจกับเรื่องที่เคยทำไป กู้จือหยั่นก็แอบรู้สึกสะใจเล็กน้อย และรู้สึกรอคอยเล็กน้อย

……

มู่น่อนน่อนโทรหาเฉินถิงเซียวสองครั้ง แต่เฉินถิงเซียวไม่รับสาย

ในตอนแรกเธอคิดว่าเฉินถิงเซียวคงกำลังประชุมอยู่

 แต่เธอนึกถึงท่าทีล่าสุดของเฉินถิงเซียวที่มีต่อเธอ และคิดว่าเฉินถิงเซียวคงไม่อยากที่จะรับสายของเธอ

 ดังนั้น เธอจึงโทรหากู้จือหยั่น ขอให้กู้จือหยั่นลองโทรหาเฉินถิงเซียวให้ที

 เธอรอแล้วรอเล่า แต่ก็ไม่เห็นกู้จือหยั่นโทรกลับมาสักที เธอเดาว่าเฉินถิงเซียวคงจะรับสายของกู้จือหยั่นและกำลังคุยกับกู้จือหยั่นอยู่

 แม้ว่าจะเตรียมใจไว้ก่อนแล้ว แต่เธอก็ยังรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย

เฉินถิงเซียวไม่ยอมรับโทรศัพท์ของเธอจริงๆ ด้วย...

 มู่น่อนน่อนเอนหลังลงไป แล้วล้มตัวลงบนโซฟา

หลายวันมานี้เธอก็เหนื่อยเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะโทรหาเฉินถิงเซียว

ที่สำคัญคือคำพูดที่ว่า “คิดเพ้อฝันไปเอง” ของเขาในวันนั้น มันกระทบกระเทือนจิตใจของเธอเล็กน้อย

 “คุณแม่คะ”

 เฉินมู่วิ่งออกจากห้องโดยอุ้มตุ๊กตากระต่ายสีชมพูไว้ แล้ววิ่งตัวไปที่โซฟา เอนตัวพิงขอบโซฟา มองมาที่มู่น่อนน่อนอย่างใจจดใจจ่อ “กระต่ายค่ะ”

 มู่น่อนน่อนถามลูกสาว “ชอบไหมจ๊ะ?”

 กระต่ายสีชมพูตัวนี้ถูกซื้อมาเมื่อวาน ตอนที่เธอออกไปซื้อของ

เฉินมู่พยักหน้ารัวๆ “อืม”

 มู่น่อนน่อนเอื้อมมือไปลูบผมของเธอ

 ในเวลานี้เอง กู้จือหยั่นก็โทรเข้ามาพอดี

 มู่น่อนน่อนลุกจากโซฟาทันที แล้วรีบถามออกไป “เป็นไงบ้างคะ”

 “ถิงเซียวรับโทรศัพท์แล้ว แต่เขา...”

พอได้ยินกู้จือหยั่นพูดอ้ำๆ อึ้งๆ มู่น่อนน่อนก็พอจะเดาผลลัพธ์ได้

 “เขาจะไม่มาใช่ไหมคะ”

 “อืม......”

“ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณมาก คืนนี้มากินข้าวด้วยกันนะคะ ฉันจะโทรเรียกเสี่ยวเหลียงมาด้วย”

 “ได้ ได้ครับ คืนนี้ผมจะไป” ขอแค่มีเสิ่นเหลียง อย่าว่าแต่มากินข้าวเลย แม้จะเป็นงานเลี้ยงที่ไปแล้วตายเขาก็ยอม

มู่น่อนน่อนพูดคุยกับกู้จือหยั่นอีกเล็กน้อย แล้ววางสายไป

เหมือนจะรู้สึกได้ว่ามู่น่อนน่อนกำลังรู้สึกหดหู่ใจ เฉินมู่ก็รีบตะโกนออกมา “คุณแม่ขา...”

 มู่น่อนน่อนยื่นมือออกไป แล้วหยิกแก้มเฉินมู่เบาๆ “พวกเราต้องออกไปซื้อของ ซื้อเนื้อ ซื้อผัก มาทำอาหาร แล้วเรียกพวกคุณน้าเสิ่นมากินข้าวกับเรานะจ๊ะ”

 ดวงตาของเฉินมู่เป็นประกายขึ้นมาทันที “กินเนื้อกับลูกอมด้วยนะคะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม