ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 440

มู่น่อนน่อนกำลังจะพูด แต่ถูกลี่จิ่วเชียนขัดขึ้นมาซะก่อน

 “ผมรู้ว่าคุณอยากจะถามอะไร แต่จุดประสงค์หลักของวันนี้คือคุณชวนผมมากินข้าว” ลี่จิ่วเชียนมองมู่น่อนน่อนด้วยสีหน้าจริงจัง “ถ้าคุณต้องการถามคำถามพวกนั้นจริงๆ คุณก็ถามก่อนได้”

 มู่น่อนน่อนรู้สึกว่า เธอควรจะเก็บคำพูดก่อนหน้านี้ของเธอกลับมา

 เธอไม่ชอบคุยกับคนฉลาดเอาซะเลย

 เพราะคนฉลาดสามารถเดาได้ทันทีว่าคุณกำลังคิดอะไร อยากจะถามอะไร และต้องการจะทำอะไร

 ในเมื่อเธอทำการเปิดเผยความจริงกับลี่จิ่วเชียนแล้ว นั่นหมายความว่ายอมบอกว่าเธอจำทุกอย่างได้แล้ว เธออยากจะถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีที่แล้ว และลี่จิ่วเชียนรู้จักเธอได้ยังไง

แต่ว่า ลี่จิ่วเชียนอุตส่าห์พูดถึงขนาดนี้แล้ว เธอจึงไม่ถามอะไรเขาอีก

อาหารมื้อนี้กลายเป็นการกินข้าวระหว่างเพื่อน

 ไม่พูดถึงความสงสัยที่อยู่ในใจของมู่น่อนน่อน ทั้งสองคนกำลังทานอาหารกันอย่างมีความสุข

แต่ว่า เรื่องราวต่างๆ มักจะไม่ได้ราบรื่นอย่างที่ใจคิด

 ในตอนที่พวกเขาใกล้จะกินเสร็จแล้ว ก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาจากข้างนอก

 มู่น่อนน่อนแค่ชำเลืองมองเล็กน้อย แต่ไม่ได้มองอย่างละเอียด

 ส่วนเฉินมู่ที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอ กลับสายตาแหลมคมมองเห็นเฉินถิงเซียวที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนอย่างรวดเร็ว

 เฉินมู่ร้องเรียนออกมาอย่างตื่นเต้นดีใจ “เฉินชิงเซียว”

แต่ตอนนี้เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ทานอาหารสำหรับเด็ก ออกไปไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงโยกตัวไปมาอย่างร้อนใจ

 ทันทีที่เฉินถิงเซียวก้าวเข้าไปในร้านอาหาร เขาก็ขมวดคิ้วและหยุดชะงักเล็กน้อย “มีคนเรียกชื่อฉัน”

 สือเย่ที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา จึงต้องหยุดตามเขาไปด้วย

 เขาพยายามฟัง แต่พบว่าเขาไม่ได้ยินใครเรียกชื่อเฉินถิงเซียวเลย

 เดิมทีคนที่เดินนำอยู่ข้างหน้าก็ระมัดระวังตัวมากอยู่แล้ว พอเขาสังเกตเห็นว่าเฉินถิงเซียวหยุดเดิน เขาก็ไม่กล้าที่จะเดินต่ออีก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงหยุดและรอเฉินถิงเซียวเท่านั้น

สือเย่กำลังจะเรียกเฉินถิงเซียว เขาก็เห็นว่าเฉินถิงเซียวกำลังมองไปที่สถานที่แห่งหนึ่ง

สือเย่มองตามสายตาของเฉินถิงเซียวไป จึงเห็นเฉินมู่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทานอาหารสำหรับเด็กด้วยท่าทางตื่นเต้น และมู่น่อนน่อนกำลังนั่งอยู่ข้างๆ

 ถ้ามันมีแค่นั้นก็ช่างเถอะ

 แต่ตรงข้ามมู่น่อนน่อนกลับมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่

สือเย่หันไปมองดูท่าทางของเฉินถิงเซียวอย่างระมัดระวัง แต่กลับไม่พบความผิดปกติ จากนั้นเขาก็ดึงสายตากลับมา แล้วยืนอยู่ข้างหลังเฉินถิงเซียวด้วยท่าทางเคารพ ก่อนจะพูดว่า “นั่นมันคุณหญิงน้อยกับคุณหนูน้อยนี่ครับ คุณชายจะเข้าไปหาไหมครับ”

ก่อนหน้านี้เขาเรียกมู่น่อนน่อนว่า “คุณหญิงน้อย” และเฉินถิงเซียวก็ไม่ได้สั่งให้เขาเปลี่ยนคำพูด ดังนั้นเขาจึงขี้เกียจที่จะเปลี่ยนคำเรียกของเขา

 “ไม่เห็นว่าเธอกำลังกินข้าวกับผู้ชายคนอื่นด้วยสีหน้าดีใจอยู่เหรอ?” เฉินถิงเซียวพูดเยาะเย้ย “อย่าเข้าไปรบกวนเธอ”

 คำว่า “ผู้ชายคนอื่น” เขาพูดเน้นเสียงอย่างชัดเจน

 นี่เขาหึงแล้ว? โกรธแล้วเหรอ ?

สือเย่เดาใจไม่ถูก

ถ้าหากเป็นเฉินถิงเซียวในอดีต เขาแน่ใจได้เลยว่าเฉินถิงเซียวจะต้องโกรธมาก

 แต่เฉินถิงเซียวในตอนนี้เขาก็ไม่แน่ใจ

 หลังจากที่เฉินถิงเซียวพูดจบ เขาก็เดินไปที่ห้องอาหารโดยไม่หันหลังกลับไปมองอีก

 ตอนที่มู่น่อนน่อนเห็นเฉินถิงเซียว เธอแอบพูดในใจว่าแย่แล้ว

 ถึงแม้ความสัมพันธ์ของเธอกับลี่จิ่วเชียนจะบริสุทธิ์ แต่เฉินถิงเซียวไม่คิดอย่างนั้นแน่นอน

เฉินถิงเซียวเคยแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนมาก่อนแล้ว

 ถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าเฉินถิงเซียวกำลังคิดยังไง แต่มู่น่อนน่อนรู้ว่าเขาโกรธแล้ว

 “มีอะไรเหรอครับ?”

ลี่จิ่วเชียนหันกลับแล้วมองตามสายตาเธอไป พอดีกับที่เฉินถิงเซียวเดินเข้าไปที่ห้องอาหาร

เมื่อตะกี้เฉินมู่ตะโกนเรียกว่า “เฉินชิงเซียว” แต่เขาฟังไม่ชัด และเขาไม่รู้ว่าเธอกำลังเรียกเฉินถิงเซียว

 พอเห็นเฉินถิงเซียว เขาถึงได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม