สรุปตอน บทที่ 444 ขุดหลุมกับดักเพื่อให้เธอกระโดดลงไป – จากเรื่อง ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดย Meow(○` 3′○)
ตอน บทที่ 444 ขุดหลุมกับดักเพื่อให้เธอกระโดดลงไป ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดยนักเขียน Meow(○` 3′○) เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
มู่น่อนน่อนเหลือบมองความคิดเห็น พบว่าส่วนใหญ่จะถามถึง “เมืองพังภาค2”
นอกจากนี้ยังมีความคิดเห็นก่อกวน พอโพสต์ออกมาคนอื่นก็วิจารณ์ทันที
มู่น่อนน่อนปิดหน้าจอโทรศัพท์มือถือ แล้วไปล้างจาน ตั้งใจจะโทรหาเฉินถิงเซียว เพื่อจะถามว่าเฉินมู่เป็นยังไงบ้าง
เธอเพิ่งเก็บภาชนะบนโต๊ะอาหารเสร็จ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา
เป็นหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นหน้า
ทุกวันนี้มีเบอร์โทรที่ไม่คุ้นหน้าจำนวนมากโทรมาหาเธอ มู่น่อนน่อนเพียงแค่มองเล็กน้อย แล้วกดรับสาย “สวัสดีค่ะ”
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์มีเสียงผู้หญิงที่คุ้นเคยดังเข้ามา “ใช่มู่น่อนน่อนหรือเปล่า?”
มู่น่อนน่อนได้ยินเสียงนี้ก็ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า “ฉินสุ่ยซาน?”
“ใช่คุณจริงๆ ด้วย” น้ำเสียงของฉินสุ่ยซานไม่สามารถซ่อนความประหลาดใจได้ “ข่าวของเธอดังมากในตอนนี้ ฉันนึกว่ามันเป็นแค่ข่าวลือ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคุณจริงๆ”
ในตอนนั้นฉินสุ่ยซานมั่นใจในบทละครของมู่น่อนน่อนมาก
ตอนที่การถ่ายทำ “เมืองพัง” เสร็จ เดิมทีคิดจะชวนมู่น่อนน่อนมาร่วมงานเลี้ยงปิดกล้อง แต่ว่าตอนนั้นเธอติดต่อมู่น่อนน่อนไม่ได้เลย
ตอนงานเลี้ยงปิดกล้องติดต่อเธอไม่ได้ ต่อมา ตอน “เมืองพัง”ออกอากาศ แล้วโด่งดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ฉินสุ่ยซานก็ติดต่อมู่น่อนน่อนไม่ได้เช่นกัน
มู่น่อนน่อนเหมือนหายตัวไปจากโลกนี้ และไม่ได้ข่าวอีกเลย
ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ฉินสุ่ยซานก็ติดตามข่าวของมู่น่อนน่อนเช่นกัน พอเธอเห็นบัญชี Weibo ของมู่น่อนน่อนมีการอัปเดต เธอก็ยังไม่เชื่อว่าเป็นมู่น่อนน่อนเป็นคนโพสต์เอง
ดังนั้น เธอจึงรอดูอยู่สองสามวัน หลังจากมั่นใจว่าเป็นมู่น่อนน่อนตัวจริงแล้ว เธอถึงได้ติดต่อมาหามู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อนรู้สึกสนิทกับฉินสุ่ยซานมาก เธอจึงยิ้มแล้วพูดว่า “เป็นฉันจริงๆ กลับมาได้พักใหญ่แล้ว”
“งั้นเรามาเจอกันสักหน่อยไหม” ฉินสุ่ยซานพูด
“ได้สิ ช่วงนี้ฉันก็ว่างอยู่แล้ว”
ฉินสุ่ยซานเป็นคนที่มีความสามารถมาก พอได้ยินคำพูดของมู่น่อนน่อน เธอก็พูดออกมาตามตรง “ถ้าเธอไม่ว่าอะไร วันนี้มาเจอกันได้หรือเปล่า”
มู่น่อนน่อนก็เห็นด้วย “ได้”
……
มู่น่อนน่อนกับฉินสุ่ยซานนัดกันที่ร้านอาหารระดับสูงแห่งหนึ่ง
ร้านนี้เปิดโดยคนในวงการบันเทิง และมักจะมีคนในวงการบันเทิงมากินข้าวที่นี่
พอเทียบกับสามปีที่แล้ว ฉินสุ่ยซานดูโดดเด่น และสวยขึ้นมาก
ทันทีที่เธอเห็นมู่น่อนน่อน เธอก็รีบเดินเข้าไปหา แล้วสังเกตมู่น่อนน่อนอย่างระมัดระวัง “ทำไมรู้สึกว่าผ่านไปสามปี เธอดูไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากเลย”
มู่น่อนน่อนพูดอย่างจริงใจ “เธอสวยกว่าเมื่อก่อนนะ”
“ฉันเบื่อที่จะฟังคำพูดพวกนี้แล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะแสร้งทำเหมือนคนพวกนั้นด้วย พอเจอหน้าก็พูดประจบประแจงฉันแล้ว” ฉินสุ่ยซานพูดด้วยท่าทางขนลุก
พอพูดจบ เธอก็จูงมือมู่น่อนน่อนมานั่งลง
ทั้งสองเริ่มถามสารทุกข์สุกดิบกันและกันทันที
“สามปีมานี้เธอไปอยู่ที่ไหนมา เหมือนกับหายสาบสูญไปจากโลกนี้ ไม่มีข่าวคราวอะไรเลย” ฉินสุ่ยซานจำได้ว่าตอนนั้นทุกคนตามหาเธอจนแทบจะพลิกแผ่นดินแต่ก็ตามหาไม่เจอ จึงอดที่จะส่ายหน้าไปมาไม่ได้
“เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย ฉันนอนอยู่บนเตียงตลอดสามปีเลย”มู่น่อนน่อนพูดสรุปเรื่องราวในสามปีนี้สั้นๆ ด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
ดวงตาของฉินสุ่ยซานเบิกกว้าง “นอนอยู่บนเตียงตลอดสามปี!”
“อยากรู้เรื่องมากเหรอ?” มู่น่อนน่อนเลิกคิ้วมองเธอ “ฉันไม่บอกหรอก”
ฉินสุ่ยซานส่งเสียง “ชิ”แล้วรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา ก่อนจะพูดว่า “รู้ว่า “เมือนพัง” โด่งดังแล้วล่ะสิ แฟนๆ ต่างก็ตั้งตารอภาคสองกันอยู่ เธอคิดว่าไง?”
มู่น่อนน่อนเขย่าแก้วน้ำตรงหน้าเธอ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่คิดยังไง”
ถึงแม้ “เมืองพัง” จะทำเงินให้ฉินสุ่ยซานเป็นจำนวนมาก แต่เธอก็เซ็นสัญญากับมู่น่อนน่อน ทำการซื้อลิขสิทธิ์ขาดเป็นจำนวนหนึ่งล้านหยวน
และเพื่อจะเซ็นสัญญาร่มงานกับมู่น่อนน่อนเรื่อง “เมืองพังภาค2” ฉินสุ่ยซานยินดีที่จะแบ่งผลกำไรให้ตั้งห้าล้าน
นี่ถือเป็นการแสดงความจริงใจมากที่สุดแล้ว
มู่น่อนน่อนไม่ได้พูดในทันที ทำให้ฉินสุ่ยซานเริ่มไม่มั่นใจว่าเธอกำลังคิดอะไร
ถึงแม้มู่น่อนน่อนจะอายุน้อยกว่าเธอไม่กี่ปี แต่เธอก็เป็นแค่เด็กสาวที่เพิ่งเข้าวงการเท่านั้นเอง แต่บางครั้งความคิดของมู่น่อนน่อนก็ลึกลับและเข้าใจยากเล็กน้อย
แต่ว่า มู่น่อนน่อนก็มีข้อดี นั่นคือความจริงใจ
ด้วยเหตุนี้ ฉินสุ่ยซานจึงไม่พูดวกไปวนมากับเธอ บอกจำนวนที่แสดงถึงความจริงใจที่สุดที่เธอสามารถให้ได้ออกมา
ทั้งสองมองหน้ากันสักพัก ก่อนที่ฉินสุ่ยซานจะพูดขึ้นก่อน “นี่คือจำนวนที่แสดงถึงความจริงใจของฉัน เธอลองคิดดูก็แล้วกัน”
มู่น่อนน่อนไม่ได้ตอบคำถามของเธอโดยตรง แต่ถามว่า “แล้ว “เมืองพังภาค2” เธอตั้งใจจะเซ็นสัญญากับฉันยังไง”
ฉินสุ่ยซานยกยิ้มกว้าง “ขอแค่เธอยอมขายให้ฉัน ทุกอย่างก็คุยง่าย”
มู่น่อนน่อนยกยิ้ม แล้วพยักหน้า “ตกลง”
ฉินสุ่ยซานเป็นคนจริงจังกับงาน ตั้งแต่แรกมู่น่อนน่อนก็ไม่เคยคิดที่จะขาย “เมืองพังภาค2” ให้กับผู้อื่นอยู่แล้ว
ถึงแม้คนอื่นอาจจะให้เงินมากกว่าที่ฉินสุ่ยซาน แต่ว่า จะต้องถ่ายทำได้ไม่ดีเท่าทีมงานของฉินสุ่ยซานแน่นอน
อย่างน้อย เธอขายให้ฉินสุ่ยซาน บทละครจะไม่ไร้ค่าเมื่ออยู่ในมือของเธอ
มู่น่อนน่อนพูดถึงโครงเรื่อง “เมืองพังภาค2” กับฉินสุ่ยซานอีกครั้ง แล้วพวกเธอก็แยกทางกันหลังจากกินข้าวกลางวันร่วมกันแล้ว
ในตอนบ่าย ฉินสุ่ยซานได้โอนเงินห้าล้านเข้าบัญชีของมู่น่อนน่อน
หลังจากที่มู่น่อนน่อนได้รับเงินแล้ว เธอก็เริ่มคิดโครงเรื่องของภาคสอง และทำการค้นหา “เมืองพัง” ทางอินเทอร์เน็ตมาดูทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...