“เฉินถิงเซียว!”
มู่น่อนน่อนถูกเขาลากไปได้สักพัก ถึงจะเริ่มต่อต้าน
เฉินถิงเซียวไม่สนใจแรงต่อต้านของเธอเลย
เขาดึงเธอไปด้วย จนดึงเธอออกไปจากประตู
มู่น่อนน่อนสู้แรงเขาไม่ได้ จึงเริ่มโมโหขึ้นมาเหมือนกัน
เธอเปิดปากพูด “เฉินถิงเซียว คุณมันไม่มีเหตุผล คุณโง่หรือไง ถึงได้เชื่อเนื้อหาในข่าวนั่น คุณลืมฉันไปก็ช่างเถอะ ฉันไม่โทษคุณ แต่ตอนนี้คุณกลับมาอารมณ์เสียใส่ฉันเพราะข่าวไร้สาระพวกนั้น ฉัน ฉันจะโกรธคุณจริงๆ แล้วนะ!”
พอพูดถึงท่อนหลัง มู่น่อนน่อนก็ไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดอะไรอยู่
คิดอะไรออกก็พูดตามนั้น
จากโซฟาไปที่ประตูมันเป็นระยะทางที่ใกล้มาก และมู่น่อนน่อนเองก็ไม่รู้ว่าเฉินถิงเซียวได้ฟังที่เธอพูดหรือเปล่า
พอไปถึงประตู เฉินถิงเซียวก็ดึงเธอออกจากประตู และกำลังเตรียมจะสะบัดมือเธอ
เขาสะบัดมือออก แต่เขาสะบัดมือของมู่น่อนน่อนไม่ออก
เขาขมวดคิ้วและมองลงไปที่มู่น่อนน่อนอย่างอารมณ์เสีย “มู่น่อนน่อน คูณจะหน้าด้านไปถึงเมื่อไหร่?”
มู่น่อนน่อนถลึงตามองเขา ท่าทางขมขื่นมาก ก่อนจะกัดฟันพูด “ไม่รู้!”
พอเสียงนั้นพูดออกไป เธอจึงใช้มืออีกข้างหนึ่งคล้องคอของเฉินถิงเซียว แล้วดึงเขาลงมา
เฉินถิงเซียวไม่ทันได้ตั้งตัว จึงถูกเธอดึงลงไปหา จนอยู่ในระดับที่มู่น่อนน่อนสามารถจูบเขาได้พอดี
มู่น่อนน่อนเงยหน้าขึ้น และจูบปากเขาทันที
ไม่ต้องเสียแรงอะไรมากเลย
เมื่อก่อนตอนที่คบกับเฉินถิงเซียว เฉินถิงเซียวมักจะเข้าหาเธอก่อน
ประสบการณ์ทั้งหมดของเธอมาจากเฉินถิงเซียวทั้งหมด และเฉินถิงเซียวเป็นคนสอนพื้นฐานให้เธอทุกอย่าง
ที่เธอจู่โจมเขาก่อน แทบจะนับครั้งได้เลย
เธอจูบอย่าเก้ๆ กังๆ พอจุมพิตริมฝีปากของเฉินถิงเซียว เธอก็จูบเขาสองสามครั้ง แล้วจึงกัดริมฝีปากเขาอย่างโมโห
เธอใช้มือข้างหนึ่งจับเฉินถิงเซียวไว้แน่น ดังนั้นเธอจึงสัมผัสได้ว่าเฉินถิงเซียวกำลังอยู่ในอาการแข็งทื่อ
วินาทีถัดมา เขาก็เป็นคนนำเอง
มู่น่อนน่อนอยู่ในอ้อมกอดของเขา ทิ้งตัวลงในอ้อมแขนของเขา ลมหายใจของกันและกันปะทะกัน...
นานแค่ไหนที่พวกเขาไม่ได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้?
มันนานมาก นานมากแล้วจริงๆ
มู่น่อนน่อนยื่นมือออกไป แล้วโอบรอบเอวของเฉินถิงเซียวไว้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นรับเล็กน้อย
เขาพยายามยับยั้งการเคลื่อนไหวของมือ จึงทำได้เพียงจูบอย่างดุดันและครอบครองมากขึ้น
“เพล้ง”
คนใช้ที่เดินผ่านมาเห็นทั้งสองคนยืนอยู่ที่ประตูจูบกันอย่างดูดดื่ม ก็ตกใจจนจานในมือหล่นแตกบนพื้น
เสียงมันดังเล็กน้อย ปลุกมู่น่อนน่อนและเฉินถิงเซียวออกมาจากอารมณ์ดูดดื่มก่อนหน้านี้
มู่น่อนน่อนได้สติกลับมาทันที พอเห็นว่ามีคนอื่นอยู่ที่นั่นด้วย เธอจึงรีบยกมือผลักเฉินถิงเซียวออกไป
เฉินถิงเซียวเหมือนจะไม่เต็มใจที่จะจบแค่นี้ ตอนที่แยกจากกัน เขาจึงกัดริมฝีปากของเธออย่างแรงไปครั้งหนึ่ง
ทันทีที่เขาปล่อย มู่น่อนน่อนก็ถอยหลังไปสองก้าวอย่างรวดเร็ว
เฉินถิงเซียวเห็นคราบเลือดที่มุมริมฝีปากของเธอ จึงเลียที่มุมปากของเขาไม่หยุด ตรงจัดนั้นของเธอ เขาเป็นคนกัดเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...