บอดี้การ์ดถูกเฉินถิงเซียวเตะเข้าเต็มๆ จนเขาทำได้แค่ก้มหน้าลงและไม่กล้าพูดอะไร
คุณชายบอกให้ไล่ผู้หญิงคนนั้นออกไปไม่ใช่เหรอ?
ตอนนี้พวกเขาได้ทำตามคำสั่งของเฉินถิงเซียวแล้ว แต่สุดท้ายเฉินถิงเซียวกลับไม่พอใจ
ความคิดของคุณชายยากที่จะเข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ
บอดี้การ์ดเหลือบไปมองเฉินถิงเซียวอย่างระมัดระวัง ก่อนจะถามว่า "คุณชายหมายความว่า..."
เฉินถิงเซียวขมวดคิ้ว ก่อนจะยกมือขึ้น ทำท่าบอกให้เขาไม่ต้องพูด และบอกให้เขาก้าวถอยหลังไป
หลังจากที่บอดี้การ์ดออกไปแล้ว เฉินถิงเซียวก็ยืนอยู่ที่เดิม เขาจ้องมองไปที่ทางเข้าประตูอยู่ครู่หนึ่งแล้ว ก่อนจะเดินออกไปด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง
ตรงประตูบ้านพักมีแต่ความว่างเปล่า จะมีร่างของมู่น่อนน่อนได้ยังไง
มือทั้งสองข้างของเฉินถิงเซียวกำหมัดไว้แน่น ระหว่างคิ้วของเขามีความโกรธแอบแฝงอยู่
……
ระหว่างทางที่มู่น่อนน่อนขับรถกลับ เธอก็ได้รับสายจากเสิ่นชูหาน
เสิ่นชูหานเองก็รู้เรื่องข่าวใหม่เช่นกัน
เขาปลอบมู่น่อนน่อน "เรื่องนี้คุณไม่ต้องกังวลนะ ผมจะให้คนไปจัดการเอง"
ตอนนี้ตระกูลเสิ่นตกไปอยู่ในมือของเสิ่นชูหานแล้ว ตัวเขาเองเป็นคนที่ทะเยอทะยานมาก ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทเสิ่นซื่อพัฒนาไปเร็วมาก เขาได้เปิดตัวห้างสรรพสินค้าอย่างอลังการ และห้างนี้ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในห้างสรรพสินค้าชั้นนำของเมืองหู้หยาง ซึ่งตัวเขาเองก็มีความสามารถมากพอในการจัดการกับข่าว
มู่น่อนน่อนรู้อยู่แก่ใจ ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดจากสื่อเหล่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่เสิ่นชูหานต้องมารับผิดชอบ
เสิ่นชูหานยินดีที่จะเป็นคนที่จัดการกับเรื่องนี้ และมู่น่อนน่อนก็รู้สึกซาบซึ้งใจมาก
เธอพูดด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน "ขอบคุณนะ"
เดิมทีเธอไม่ต้องการให้เสิ่นชูหานมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากเกินไป แต่เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มันก็หมดซึ่งหนทางแล้วจริงๆ
ความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน บางครั้งก็เป็นเรื่องยากที่จะรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้ และบางครั้งก็เป็นการยากที่จะแบ่งแยกความสัมพันธ์อย่างชัดเจน โดยที่ตัดขาดกันไปเลย
ตอนที่ต้องรับมือกับสิ่งต่างๆ มักจะเป็นเรื่องยากที่จะหาวิธีที่สมบูรณ์แบบที่สุดได้
เสิ่นชูหานพูดอย่างจริงจังว่า “เหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับผมด้วย ถ้าผมไม่ไปหาคุณ คงไม่โดนสื่อพวกนั้นถ่ายรูปและเอาไปสร้างเรื่องวุ่นวายแบบนี้ เป็นผมเองที่คิดทบทวนเรื่องนี้ไม่รอบคอบ"
มู่น่อนน่อนเม้มริมฝีปากเล็กน้อย เธอไม่รู้จะพูดอะไรในตอนนั้นดี
ในตอนนั้นดูเหมือนว่าเขารับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของมู่น่อนน่อน เสิ่นชูหานรีบพูดทันทีว่า “บริษัทเสิ่นซื่อก็อยู่ในช่วงที่กำลังพัฒนา ภาพลักษณ์ส่วนตัวของผมก็สำคัญมากเช่นกัน ถึงแม้ครั้งนี้ทางสื่อจะถ่ายรูปผมกับผู้หญิงคนอื่นๆ ไม่ว่ายังไงผมก็ต้องจัดการแบบนี้เช่นเดียวกัน"
มู่น่อนน่อนชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า “ฉันรู้”
ที่จริงแล้ว ถ้าจะต้องมองในมุมนี้ ยังไงเธอก็เป็นคนที่ทำให้เสิ่นชูหานเดือดร้อน
เสิ่นชูหานพูดต่อจากคำพูดของเธอว่า "ผมยังมีธุระต่อ ผมวางสายก่อนนะ"
หลังจากวางสาย มู่น่อนน่อนกำลังจะวางโทรศัพท์ลง ลี่จิ่วเชียนก็โทรเข้ามา
ลี่จิ่วเชียนถามเธออย่างตรงไปตรงมา "ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? เรื่องข่าวตกลงมันยังไงกันแน่? เธอจัดการได้ไหม?"
มู่น่อนน่อนรู้อยู่แล้ว ว่าลี่จิ่วเชียนโทรมาถามเรื่องนี้
เธอหัวเราะและพูดว่า "ไม่เป็นไร เดี๋ยวมีคนจัดการให้"
อีกฝ่ายเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วถามว่า “เสิ่นชูหาน?”
ลี่จิ่วเชียนเป็นที่เฉียบคมมาก เธอสามารถคาดเดาได้ว่าคนที่จัดการกับเรื่องนี้ก็คือเสิ่นชูหาน มู่น่อนน่อนเองก็ไม่ได้แปลกใจอะไร
มู่น่อนน่อนพูดกึ่งติดตลกกึ่งจริงจังว่า “คุณหมอลี่ฉลาดมาก ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่สามารถปิดเธอได้เลย”
“ฉันแค่วิเคราะห์เรื่องนี้ตามตรรกะพื้นฐาน” ลี่จิ่วเชียนชะงักไป ก่อนจะพูดต่อว่า “ถ้าเฉินถิงเซียวเป็นคนจัดการ ข่าวนี้อาจจะหายไปในทันทีที่ปรากฎ และก็คงไม่จะไม่ขึ้นพาดหัวข่าวตั้งแต่เช้าขนาดนั้น?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...