มู่น่อนน่อนนั่งตรงข้ามกับเสิ่นเหลียง ซึ่งมันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดไว้ "ก็คงไม่แน่หรอก"
เสิ่นเหลียงถาม “แล้วจากนี้เธอคิดจะทำอะไรต่อไป?”
“ฉันอยากสงบสติอารมณ์สักสองวัน ตอนที่ไปเยี่ยมมู่มู่ฉันค่อยหาทางไปคุยกับเขาอีกที ที่เขาเป็นแบบนี้ ก็เป็นเพราะว่าเขาไม่มีความทรงจำในช่วงหลายที่ผ่านมา และก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่รักฉัน ฉันคงจะโกรธเขาแบบนี้ไปตลอดไม่ได้หรอก"
มู่น่อนน่อนถอนหายใจออก เธอค่อยๆ หลับตาลง น้ำเสียงของเธอฟังดูเศร้าเล็กน้อย “ถ้าฉันโกรธเขาจริงๆ เขาก็คงจะไม่มาง้อฉันเหมือนเมื่อก่อนแล้ว”
ในน้ำเสียงของเธอมีความคับข้องใจเล็กน้อยที่ตัวเธอเองก็ไม่ทันได้สังเกต
เสิ่นเหลียงไม่รู้จะพูดอะไรดี เธอรู้สึกว่าสถานการณ์ของมู่น่อนน่อนและเฉินถิงเซียว มันค่อนข้างน่าปวดหัว
……
หลังจากที่มู่น่อนน่อนและเฉินถิงเซียวจากกันอย่างไม่มีความสุข เฉินถิงเซียวไม่ได้เจอมู่น่อนน่อนมาสองสามวันแล้ว
ช่วงนี้มู่น่อนน่อนมักจะมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาบ่อยมาก แต่จู่ๆ ก็ไม่ได้เจอเธอมาแล้วสองสามวัน เลยรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
สือเย่เองก็สังเกตเห็น ช่วงนี้หลังจากเลิกงานเฉินถิงเซียวก็กลับบ้านทันที เขาไม่ได้ไปหามู่น่อนน่อนเพื่อทานอาหารเย็น
เฉินมู่ก็ถูกส่งตัวกลับไปที่เฉินถิงเซียว
หรือว่า ระหว่างพวกเขาสองคนอาจจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ในขณะที่เขาไม่รู้ตัว?
สือเย่ถือกองเอกสารไปวางไว้ตรงหน้าเฉินถิงเซียว "คุณชาย อันนี้เป็นเอกสารเร่งด่วน"
เฉินถิงเซียวนั่งบนเก้าอี้หลังโต๊ะในห้องทำงานด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ เขาวางมือทั้งสองไว้บนที่เท้าแขนของเก้าอี้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่รู้ว่าเขานั้นกำลังมองไปทางไหน
แต่ หลังจากที่ได้ยินคำพูดของสือเย่ เขาก็ยังคงตอบว่า "อืม"
สือเย่รู้สึกสงสัยในใจ แต่ก็ไม่ได้ถามออกมา
ในขณะที่เขากำลังจะออกไป อยู่ๆ เฉินถิงเซียวก็เรียกเขาไว้ในทันที
“สือเย่”
“คุณชาย มีอะไรครับ”
สือเย่มองกลับไปที่เฉินถิงเซียวในทันที ก่อนจะถามเขาด้วยความเคารพ
“นายกับภรรยาของนาย...” เฉินถิงเซียวขมวดคิ้วมากกว่าเดิม
ดูเหมือนเขาจะหงุดหงิดเล็กน้อย เขาหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อไปว่า "พวกนายทะเลาะกันบ้างไหม"
สือเย่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เฉินถิงเซียวจะถามคำถามแบบนี้ แต่เขาไม่ได้แสดงสีหน้าออกมา "แน่นอนว่าต้องทะเลาะกันบ้าง"
ดูเหมือนว่าเฉินถิงเซียวจะสนใจคำถามนี้มาก เขาเงยหน้ามองไปที่เขา และถามอย่างจริงจังว่า "แล้วหลังจากการทะเลาะกันล่ะ?"
“เธอก็ไม่สนใจผม ผม...ผมก็ไม่สนใจเธอ” นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินถิงเซียวถามเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของสือเย่ และเขาก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อยที่จะพูดออกมา
ดวงตาของเฉินถิงเซียวหรี่ลงเล็กน้อย "แล้วควรจะทำยังไง?"
เฉินถิงเซียวอาจไม่ทันได้สังเกต ตอนที่เขาพูดเรื่องนี้ ระหว่างคิ้วของเขามีความสับสนแอบแฝงอยู่อย่างเห็นได้ชัด
สือเย่เข้าใจทุกอย่างเป็นอย่างดี และเขาก็มั่นใจแล้วว่าเฉินถิงเซียวนั้นกำลังทะเลาะกับมู่น่อนน่อน
ถ้าจะเรียกว่าทะเลาะกันก็ไม่น่าจะใช่ เป็นไปได้มากที่เฉินถิงเซียวอาจจะพูดอะไรไม่น่าฟังเพียงฝ่ายเดียว และทำให้มู่น่อนน่อนโมโห จนทั้งสองก็ต้องทำสงครามเย็นต่อกัน
“ถ้าไม่ใช่ปัญหาเรื่องหลักการ ผมจะเป็นคนไปขอคืนดีกับเธอก่อน ความรู้สึกของผู้หญิงนั้นละเอียดอ่อนมาก บางทีก็แค่อารมณ์เสียเท่านั้น”
สือเย่รู้สึกว่า การที่เฉินถิงเซียวเป็นคนเริ่มถามคำถามพวกนี้กับเขา ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
ปัญหาเรื่องหลักการ?
เมื่อนึกถึงหนังสือพิมพ์แผ่นนั้น เฉินถิงเซียวก็พูดอย่างเย็นชาว่า “เสิ่นชูหานคนนั้นคือคนรักคนแรกของมู่น่อนน่อนจริงๆ เหรอ?”
ตอนนี้เขาความจำเสื่อม แต่เขาก็รู้ทุกอย่างที่เขาควรรู้
ก่อนที่เขากับมู่น่อนน่อนจะอยู่ด้วยกัน เขาไม่เคยคบกับผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย แต่มู่น่อนน่อน กลับมีคนรักคนแรกด้วย
สือเย่เริ่มมีเหงื่อออกที่หน้าผากของเขา
นี่ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากจะตอบมาก
ถ้าไม่พูดความจริง เฉินถิงเซียวก็จะโกรธ แต่ถ้าพูดความจริง เฉินถิงเซียวก็จะยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...