ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 484

“คุณมาได้ยังไงคะ?”

มู่น่อนน่อนคิดไม่ถึงว่าคนที่มาจะเป็นเฉินถิงเซียว

เฉินถิงเซียวยังใส่ชุดสูทตอนที่แยกกันที่สนามบินของช่วงบ่ายอยู่ เขามองมู่น่อนน่อนแว๊บนึง จากนั้นได้ก้มไปอุ้มเฉินมู่ขึ้นมาแล้วตรงดิ่งเข้าไปในบ้าน

เดินไปสองก้าว รู้สึกได้ว่ามู่น่อนน่อนไม่ได้เดินตามมา เขาถึงหันมามองเธอแล้วพูดว่า:“ทานข้าว”

มู่น่อนน่อนได้ยินแล้วก้มดูนาฬิกา นี่ถึงพบว่าหนึ่งทุ่มแล้ว

เฉินถิงเซียวได้อุ้มเฉินมู่มานั่งลงที่โซฟา มู่น่อนน่อนได้รีบปิดประตูแล้วตามไป

มู่น่อนน่อนถามเธอ:“มู่มู่หิวหรือเปล่าคะ?อยากทานอะไรคะ?”

เฉินมู่นั่งอยู่บนตักเฉินถิงเซียว และพูดอย่างกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ:“น่องไก่ค่ะ”

“น่องไก่เหรอคะ?เดี๋ยวแม่ดูก่อนนะคะว่ามีหรือเปล่า”มู่น่อนน่อนเดินไปที่ตู้เย็น

ตอนที่เธอออกจากบ้าน ก็กะไว้แล้วว่าประมาณครึ่งเดือนถึงหนึ่งเดือนถึงจะกลับมา เพราะฉะนั้นของในตู้เย็นแทบจะเคลียร์หมดเกลี้ยงแล้ว นอกจากเนื้อแช่งแข็งในช่องฟิต

แต่ก็ไม่แน่ใจว่ามีน่องไก่อยู่หรือเปล่า

เธอไปเปิดตู้เย็นที่ห้องครัว ดูที่ช่องฟิตแล้วพบว่าข้างในยังมีน่องไก่อยู่จริงด้วย

เด็กชอบปีกไก่น่องไก่ ปกติตอนที่มู่น่อนน่อนซื้อก็จะซื้อไว้เยอะหน่อย ถึงช่วงนี้เฉินมู่ไม่ค่อยได้มาพักที่บ้านเธอก็ตาม

มือข้างนึงของมู่น่อนน่อนจับประตูตู้เย็นไว้ และได้ตะโกนไปที่ทิศทางของเฉินมู่:“มู่มู่ ตู้เย็นมีน่องไก่อยู่ หนูเล่นกับพ่อไปก่อนนะคะ แม่มาทำกับข้าว”

เฉินมู่ตอบคำนึงว่า:“โอเคค่ะ!”

มู่น่อนน่อนเอาเนื้อออกมาจากช่องฟิต จากนั้นก็ได้มองไปที่ห้องรับแขกอีกแว๊บนึง

เฉินถิงเซียวเปิดโทรทัศน์ ฟังเสียงแล้วเหมือนกำลังดูการ์ตูนแอนิเมชั่นอยู่

เฉินมู่กอดเจ้าเสือน้อยนั่งอยู่ข้างๆเขา จ้องโทรทัศน์ไว้อย่างจดจ่อ เฉินถิงเซียวนั่งไขว่ห้าง หลุบตาเล็กน้อยกำลังจ้องโทรทัศน์อยู่

ท่าทางของสองพ่อลูกเหมือนกันเป๊ะๆ

เฉินมู่จะคอยส่งเสียงหัวเราะออกมาเป็นพักๆ แต่เฉินถิงเซียวตั้งแต่ต้นจนจบล้วนแค่จ้องหน้าจอด้วยสีหน้าเรียบเฉย

มู่น่อนน่อนยิ้มแล้วได้ไปทำกับข้าวที่ห้องครัว

ในบ้านไม่มีผักสด นอกจากเนื้อก็มีแค่มันฝรั่งไม่กี่ลูกกับเห็ดหูหนูแห้ง

มู่น่อนน่อนได้ทำน่องไก่ผัดซอสแดง เห็ดหูหนูผัดหมูแผ่น ผัดมันฝรั่งเส้น ซุปสาหร่ายกุ้งแห้ง

อาหารบ้านๆที่เรียบง่ายสุดๆ

ตอนที่มู่น่อนน่อนต้มน้ำซุป ก็ได้ตะโกนไปทางห้องรับแขก:“มู่มู่ กินข้าวแล้วค่ะ มาเอาถ้วยกับตะเกียบของหนูเร็ว” 

ผ่านไปไม่นาน เธอก็รู้สึกได้ว่ามีคนเข้ามาใกล้ เสียงฝีเท้าค่อนข้างหนัก

ทุกครั้งที่บอกว่าทานข้าว เฉินมู่ล้วนจะวิ่งไปเอาถ้วยชามที่ห้องครัวด้วยความดี๊ด๊า

คนที่ฝีเท้าค่อนข้างหนักนี้ ย่อมเป็นเฉินถิงเซียวอยู่แล้ว

เธอชะงักไปครู่นึง จากนั้นได้หันมาดู พบว่าเฉินถิงเซียวเดินเข้ามาจริงๆด้วย

เขาไม่ได้มองมู่น่อนน่อน แต่ได้เดินมาที่หน้าตู้เก็บชามอย่างเป็นธรรมชาติมาก เปิดตู้เก็บชามและเอาถ้วยออกมาจากด้านใน

ถ้วยของเฉินมู่คือใช้ถ้วยของเด็กโดยเฉพาะ เขาหยิบของเฉินมู่ก่อน จากนั้นก็ได้หยิบถ้วยสีขาวสองใบ

คงจะเพราะรู้สึกได้ว่ามู่น่อนน่อนกำลังจ้องมองเขาอยู่ จู่ๆเขาได้หันหน้ามา พอหันมาก็ได้สบตากับมู่น่อนน่อนพอดี

เดิมทีมู่น่อนน่อนรู้สึกว่าตัวเองมองอย่างเปิดเผย แต่นาทีนี้ถูกเฉินถิงเซียวจ้องแบบนี้ เธอรู้สึกค่อนข้างอึดอัด

เธอยิ้มและหันไปดูซุปของตัวเองเงียบๆ

สาหร่ายกับกุ้งแห้งในน้ำซุปสาหร่ายล้วนไม่ต้องต้มเลย แค่ใส่ลงไปในถ้วย เอาน้ำร้อนราดใส่แล้วเพิ่มเกลือ น้ำส้มสายชูกับต้นหอมก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว

เธอเทน้ำร้อนลงไปเสร็จ ข้างๆก็มีมือข้างนึงยื่นมาใช้มือข้างเดียวยกน้ำซุปขึ้น

มู่น่อนน่อนหันไปมอง เห็นมืออีกข้างของเขายังถือถ้วยเอาไว้ด้วย จึงได้พูดว่า:“ฉันยกเองค่ะ……” 

เฉินถิงเซียวไม่สนใจเธอ มือข้างนึงถือถ้วยไว้ มืออีกข้างยกน้ำซุปไว้แล้วเดินออกไปอย่างชิวๆ

มู่น่อนน่อนได้แต่ปล่อยเขาไป ส่วนตัวเองก็ยกกับข้าวที่เหลือออกไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม