ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 498

สรุปบท บทที่ 498 เดิมทีก็สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบได้: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

สรุปตอน บทที่ 498 เดิมทีก็สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบได้ – จากเรื่อง ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดย Meow(○` 3′○)

ตอน บทที่ 498 เดิมทีก็สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบได้ ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดยนักเขียน Meow(○` 3′○) เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

เฉินถิงเซียวปล่อยเฉินมู่ ดันเธอไปข้างๆมู่น่อนน่อน เดินเข้าไปข้างหน้าเพียงลำพัง เดินเข้าไปด้านในไปพลาง เปิดไฟภายในห้องไปพลาง

มู่น่อนน่อนผันร่างไปปิดประตู

ภายในห้องที่ถูกปิดเอาไว้สนิทจนไม่มีแสงส่องเข้ามา ได้สว่างขึ้นมาเสียอย่างกับตอนกลางวันขึ้นมาทันที

เฉินถิงเซียวได้เดินเข้าไปตรงหน้าเฉินชิงเฟิงก่อนเป็นคนแรก สีหน้าได้เยือกเย็นดุดันออกมา น้ำเสียงเยือกเย็นและเนิบช้าออกมา “ไม่ได้เจอกันนานเลย”

มู่น่อนน่อนจูงเฉินมู่ตามเข้าไป

การรับรู้ของเด็กน้อยรู้สึกไวเป็นอย่างมาก เฉินมู่หลังจากที่เห็นเฉินชิงเฟิง ก็กลัวจนเข้าไปหลบข้างหลังมู่น่อนน่อน เอาหน้าซ่อนไปที่หลังของมู่น่อนน่อน

มู่น่อนน่อนตบหัวเธอไปเบาๆ เลิกตาขึ้นมองไปทางเฉินชิงเฟิง

เธอไม่ได้เจอเฉินชิงเฟิงมาสามปีเต็มๆ

มองผ่านเข้าไปแวบนึง ก็ได้ถูกสภาพของเฉินชิงเฟิงทำเอาตกใจขึ้นมา บนใบหน้าแสดงอาการตกตะลึงออกมา

เฉินชิงเฟิงแขนขาดไปข้างนึง นั่งอยู่บนรถเข็น มองไปแล้วดูผอมมาก เบ้าตาลึกลงไป ริมฝีปากแห้งกรัง เสื้อไหมพรมสวมโคร่งบนร่าง ตัวเขามองไปแล้วเพียงแค่หนังหุ้มกระดูกเอาไว้เท่านั้น

ถ้าเจอเฉินชิงเฟิงตามถนน มู่น่อนน่อนกล้ามั่นใจเลยว่า มีความเป็นไปได้มากว่าตนคงจะจำไม่ได้ว่าเขาเป็นเฉินชิงเฟิง

ความเปลี่ยนแปลงบนตัวของเฉินชิงเฟิงมันมากเกินไป อ่อนแอลง แก่ชรา มืดมนเสียจนน่ากลัว...

ไม่ได้มีจิตวิญญาณในฐานะที่เคยเป็นผู้กุมอำนาจของตระกูลมหาเศรษฐีชั้นนำอยู่อีกแล้ว แต่กลับใช้ชีวิตอยู่เหมือนกับหนูที่หลบอยู่ในท่อระบายน้ำไม่กล้าเจอใคร

“เป็นพวกแก!” เฉินชิงเฟิงหลังจากที่มองเห็นชัดว่าคนที่มาเป็นเฉินถิงเซียวกับมู่น่อนน่อน ดวงตาทั้งสองข้างได้เบิกกว้างออกมาทันที ลูกตาเหมือนกับว่าจะถลนออกมาจากเบ้าเลยก็ไม่ปาน น้ำเสียงทื่อๆเหมือนกับเลื่อยจนฟังไปแล้วทำให้รู้สึกไม่ดีขึ้นมา

“ไสหัวไป! ใครให้พวกแกเข้ามา ไสหัวออกไปให้หมด!”

เฉินชิงเฟิงชี้ออกไปทางประตู โกรธจัดจนเบ้าตาถลนจนตาแตกออกมา

เฉินถิงเซียวยิ้มเย็นออกมา นั่งลงตรงหน้าเฉินชิงเฟิง ขาทั้งสองข้างไขว้เข้าด้วยกัน น้ำเสียงเนือยๆเฉื่อยชาออกมา “วันนี้ผมตั้งใจพาภรรยากับลูกสาวมาเจอคุณโดยเฉพาะเลย นี่เพิ่งจะมาเอง คุณก็จะไล่พวกเราไปเสียแล้ว นี่เป็นวิธีการต้อนรับแขกของคุณเหรอ?”

เมื่อกี้เฉินมู่เพิ่งจะถูกเสียงตวาดเสียงดังเสียงนั้นของเฉินชิงเฟิงทำได้ตกใจไป หลบอยู่ที่ด้านหลังมู่น่อนน่อน ไม่ยอมเข้าไปข้างหน้าเสียให้ได้

มู่น่อนน่อนตบหัวเธอไปเบาๆ หยิบโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความไปหาสือเย่ ให้สือเย่มาพาเฉินมู่ออกไป

สือเย่เดิมทีก็เฝ้าอยู่ที่ด้านนอกอยู่แล้ว เขาคุ้นเคยกับตระกูลเฉินดีเช่นกัน เพียงไม่นานก็ได้เข้ามารับเฉินมู่ไปแล้ว

หลังจากที่เฉินมู่ถูกรับไปแล้ว มู่น่อนน่อนก็เดินไปที่ข้างๆเฉินถิงเซียว เฉินถิงเซียวจึงดึงเธอลงไปนั่ง

มือทั้งสองข้างของเฉินชิงเฟิงที่วางอยู่บนราวจับ ได้กำหมัดแน่น จ้องเฉินถิงเซียวกับมู่น่อนน่อนเขม็ง

เฉินถิงเซียวกับมู่น่อนน่อนทั้งสองคนนั่งเรียงกันอยู่ที่ตรงหน้าเขา บนใบหน้าไม่สะทกสะท้านและสงบนิ่งคล้ายๆกัน หลายเดือนมานี้เนื้อหนังบนร่างของมู่น่อนน่อนได้ฟื้นฟูกลับมาบ้างแล้ว นั่งอยู่ด้วยกันกับเฉินถิงเซียว ก็คือคู่ที่สวยหล่อกันทั้งคู่เลยคู่หนึ่ง

ความเกลียดชังและความไม่ยินยอมภายในใจของเฉินชิงเฟิงได้เติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วเหมือนกับวัชพืช น้ำเสียงของเขาได้ประดับไปด้วยความแหบแห้งด้วยโรคฮิสทีเรีย “พวกแกไสหัวออกไปให้พ้นหน้าฉัน!”

“ใครก็ได้! ใครก็ได้เข้ามาที!”

ไม่ว่าเฉินชิงเฟิงจะแผดเสียงออกมายังไง ด้านนอกก็ไม่มีใครเข้ามาเลย

เฉินถิงเซียวมองเฉินชิงเฟิงที่ใกล้จะบ้าคลั่งขึ้นมาเต็มทีไปด้วยดวงตาที่เย็นชา พลางแสยะริมฝีปากออกมา “ตอนนี้คุณไม่มีความอดทนเลยสักนิดเดียว เกิดอารมณ์แปรปรวนขึ้นมาได้ง่ายขนาดนี้ เมื่อตอนนั้น คุณถึงกับปกปิดความจริงที่แม่ถูกลักพาตัวไปได้ถึงสิบกว่าปีเต็มๆเลยนะ”

มู่น่อนน่อนหันหน้ามองไปทางเฉินถิงเซียว

สีหน้าที่เขาแสดงออกมาในตอนนี้มันเยือกเย็นสุดๆ บนร่างทั้งร่างได้แผ่ความรู้สึกอึมครึมจนน่ากลัวบ่งบอกว่าอย่าเข้ามาใกล้ออกมา

มู่น่อนน่อนมองออกว่าพอพูดถึงเรื่องแม่ขึ้นมา ภายในใจของเฉินถิงเซียวยังคงเกลียดแค้นอยู่

เขายังปล่อยวางไปไม่ได้

เมื่อตอนอายุน้อย การสูญเสียมากมายจะเกิดบาดแผลภายในใจ ใช้เวลาไปทั้งชีวิตเพื่อให้ทำมันให้ได้มันก็มีความเป็นไปได้ว่าจะไม่สามารถขจัดมันไปได้เลย

สภาพครึ่งผีครึ่งคนนี้ถูกคนอื่นเห็นเข้า คนพวกนั้นจะต้องหัวเราะเยาะเขา เอาเขาไปพูดล้อเล่นกันอย่างแน่นอน! เขาไม่อาจให้คนพวกนั้นเอาเขาไปพูดล้อเล่นกันได้

แต่เพื่อไม่ให้คนพวกนั้นเอาเขาไปพูดล้อเล่นกัน วิธีที่ดีที่สุดของเขาก็คือไม่ออกจากบ้าน

“เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะมีอำนาจในการตัดสินใจเองได้” เฉินถิงเซียวลุกยืนขึ้นมา น้ำเสียงเย็นชาเสียจนไม่มีอารมณ์อะไรออกมาเลยสักนิดเดียว “เดิมทีพวกเราก็สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบได้”

เพียงประโยคเดียว เกริ่นไปแค่เล็กน้อยแต่ก็ได้ทำให้อีกฝ่ายได้รู้ความตั้งใจของตนแล้ว

เดิมทีพวกเขาก็สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสงบได้อยู่แล้วแท้ๆ

ถึงแม้ว่าจะฆ่าเฉินชิงเฟิงไป ก็ไม่สามารถขจัดความเกลียดชังที่อยู่ภายในใจของเฉินถิงเซียวไปได้

ถ้าเฉินชิงเฟิงสามารถอยู่ที่บ้านเก่าไปอย่างสงบเสงี่ยมได้ตลอด มันก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว

แต่ว่าเฉินชิงเฟิงไม่เพียงแต่จะไม่รู้จักกลับตัวกลับใจ ยังคิดจะแก้แค้นอีก

ในเมื่อเฉินชิงเฟิงอยากเล่น แน่นอนว่าเฉินถิงเซียวจะต้องให้โอกาสนี้กับเขาอยู่แล้ว

สิ่งที่เฉินชิงเฟิงรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในใจคืออะไร เฉินถิงเซียวรู้ชัดเจนทุกอย่าง

เฉินถิงเซียวพูดจบ ก็ผันร่างยื่นมือออกไปทางมู่น่อนน่อน “ไปกันเถอะ”

มู่น่อนน่อนที่ฟังเขากับเฉินชิงเฟิงคุยกันไปเงียบๆตลอดการสนทนา ประคองมือของเขาลุกยืนขึ้น

เฉินถิงเซียวจูงเธอเดินไปข้างนอก

ด้านหลังมีเสียงแผดร้องเสียงแหบแห้งของเฉินชิงเฟิงดังเข้ามา “เฉินถิงเซียว! เฉินถิงเซียว!”

ออกจากห้องของเฉินชิงเฟิงมา มู่น่อนน่อนเงยหน้าขึ้นไปมองสีหน้าของเฉินถิงเซียว

เขามีใบหน้ามืดครึ้ม สายตาดุดัน ใบหน้ามองไปแล้วดูมีสีหน้าหม่นลงเล็กน้อย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม