เฉินถิงเซียวปล่อยเฉินมู่ ดันเธอไปข้างๆมู่น่อนน่อน เดินเข้าไปข้างหน้าเพียงลำพัง เดินเข้าไปด้านในไปพลาง เปิดไฟภายในห้องไปพลาง
มู่น่อนน่อนผันร่างไปปิดประตู
ภายในห้องที่ถูกปิดเอาไว้สนิทจนไม่มีแสงส่องเข้ามา ได้สว่างขึ้นมาเสียอย่างกับตอนกลางวันขึ้นมาทันที
เฉินถิงเซียวได้เดินเข้าไปตรงหน้าเฉินชิงเฟิงก่อนเป็นคนแรก สีหน้าได้เยือกเย็นดุดันออกมา น้ำเสียงเยือกเย็นและเนิบช้าออกมา “ไม่ได้เจอกันนานเลย”
มู่น่อนน่อนจูงเฉินมู่ตามเข้าไป
การรับรู้ของเด็กน้อยรู้สึกไวเป็นอย่างมาก เฉินมู่หลังจากที่เห็นเฉินชิงเฟิง ก็กลัวจนเข้าไปหลบข้างหลังมู่น่อนน่อน เอาหน้าซ่อนไปที่หลังของมู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อนตบหัวเธอไปเบาๆ เลิกตาขึ้นมองไปทางเฉินชิงเฟิง
เธอไม่ได้เจอเฉินชิงเฟิงมาสามปีเต็มๆ
มองผ่านเข้าไปแวบนึง ก็ได้ถูกสภาพของเฉินชิงเฟิงทำเอาตกใจขึ้นมา บนใบหน้าแสดงอาการตกตะลึงออกมา
เฉินชิงเฟิงแขนขาดไปข้างนึง นั่งอยู่บนรถเข็น มองไปแล้วดูผอมมาก เบ้าตาลึกลงไป ริมฝีปากแห้งกรัง เสื้อไหมพรมสวมโคร่งบนร่าง ตัวเขามองไปแล้วเพียงแค่หนังหุ้มกระดูกเอาไว้เท่านั้น
ถ้าเจอเฉินชิงเฟิงตามถนน มู่น่อนน่อนกล้ามั่นใจเลยว่า มีความเป็นไปได้มากว่าตนคงจะจำไม่ได้ว่าเขาเป็นเฉินชิงเฟิง
ความเปลี่ยนแปลงบนตัวของเฉินชิงเฟิงมันมากเกินไป อ่อนแอลง แก่ชรา มืดมนเสียจนน่ากลัว...
ไม่ได้มีจิตวิญญาณในฐานะที่เคยเป็นผู้กุมอำนาจของตระกูลมหาเศรษฐีชั้นนำอยู่อีกแล้ว แต่กลับใช้ชีวิตอยู่เหมือนกับหนูที่หลบอยู่ในท่อระบายน้ำไม่กล้าเจอใคร
“เป็นพวกแก!” เฉินชิงเฟิงหลังจากที่มองเห็นชัดว่าคนที่มาเป็นเฉินถิงเซียวกับมู่น่อนน่อน ดวงตาทั้งสองข้างได้เบิกกว้างออกมาทันที ลูกตาเหมือนกับว่าจะถลนออกมาจากเบ้าเลยก็ไม่ปาน น้ำเสียงทื่อๆเหมือนกับเลื่อยจนฟังไปแล้วทำให้รู้สึกไม่ดีขึ้นมา
“ไสหัวไป! ใครให้พวกแกเข้ามา ไสหัวออกไปให้หมด!”
เฉินชิงเฟิงชี้ออกไปทางประตู โกรธจัดจนเบ้าตาถลนจนตาแตกออกมา
เฉินถิงเซียวยิ้มเย็นออกมา นั่งลงตรงหน้าเฉินชิงเฟิง ขาทั้งสองข้างไขว้เข้าด้วยกัน น้ำเสียงเนือยๆเฉื่อยชาออกมา “วันนี้ผมตั้งใจพาภรรยากับลูกสาวมาเจอคุณโดยเฉพาะเลย นี่เพิ่งจะมาเอง คุณก็จะไล่พวกเราไปเสียแล้ว นี่เป็นวิธีการต้อนรับแขกของคุณเหรอ?”
เมื่อกี้เฉินมู่เพิ่งจะถูกเสียงตวาดเสียงดังเสียงนั้นของเฉินชิงเฟิงทำได้ตกใจไป หลบอยู่ที่ด้านหลังมู่น่อนน่อน ไม่ยอมเข้าไปข้างหน้าเสียให้ได้
มู่น่อนน่อนตบหัวเธอไปเบาๆ หยิบโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความไปหาสือเย่ ให้สือเย่มาพาเฉินมู่ออกไป
สือเย่เดิมทีก็เฝ้าอยู่ที่ด้านนอกอยู่แล้ว เขาคุ้นเคยกับตระกูลเฉินดีเช่นกัน เพียงไม่นานก็ได้เข้ามารับเฉินมู่ไปแล้ว
หลังจากที่เฉินมู่ถูกรับไปแล้ว มู่น่อนน่อนก็เดินไปที่ข้างๆเฉินถิงเซียว เฉินถิงเซียวจึงดึงเธอลงไปนั่ง
มือทั้งสองข้างของเฉินชิงเฟิงที่วางอยู่บนราวจับ ได้กำหมัดแน่น จ้องเฉินถิงเซียวกับมู่น่อนน่อนเขม็ง
เฉินถิงเซียวกับมู่น่อนน่อนทั้งสองคนนั่งเรียงกันอยู่ที่ตรงหน้าเขา บนใบหน้าไม่สะทกสะท้านและสงบนิ่งคล้ายๆกัน หลายเดือนมานี้เนื้อหนังบนร่างของมู่น่อนน่อนได้ฟื้นฟูกลับมาบ้างแล้ว นั่งอยู่ด้วยกันกับเฉินถิงเซียว ก็คือคู่ที่สวยหล่อกันทั้งคู่เลยคู่หนึ่ง
ความเกลียดชังและความไม่ยินยอมภายในใจของเฉินชิงเฟิงได้เติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วเหมือนกับวัชพืช น้ำเสียงของเขาได้ประดับไปด้วยความแหบแห้งด้วยโรคฮิสทีเรีย “พวกแกไสหัวออกไปให้พ้นหน้าฉัน!”
“ใครก็ได้! ใครก็ได้เข้ามาที!”
ไม่ว่าเฉินชิงเฟิงจะแผดเสียงออกมายังไง ด้านนอกก็ไม่มีใครเข้ามาเลย
เฉินถิงเซียวมองเฉินชิงเฟิงที่ใกล้จะบ้าคลั่งขึ้นมาเต็มทีไปด้วยดวงตาที่เย็นชา พลางแสยะริมฝีปากออกมา “ตอนนี้คุณไม่มีความอดทนเลยสักนิดเดียว เกิดอารมณ์แปรปรวนขึ้นมาได้ง่ายขนาดนี้ เมื่อตอนนั้น คุณถึงกับปกปิดความจริงที่แม่ถูกลักพาตัวไปได้ถึงสิบกว่าปีเต็มๆเลยนะ”
มู่น่อนน่อนหันหน้ามองไปทางเฉินถิงเซียว
สีหน้าที่เขาแสดงออกมาในตอนนี้มันเยือกเย็นสุดๆ บนร่างทั้งร่างได้แผ่ความรู้สึกอึมครึมจนน่ากลัวบ่งบอกว่าอย่าเข้ามาใกล้ออกมา
มู่น่อนน่อนมองออกว่าพอพูดถึงเรื่องแม่ขึ้นมา ภายในใจของเฉินถิงเซียวยังคงเกลียดแค้นอยู่
เขายังปล่อยวางไปไม่ได้
เมื่อตอนอายุน้อย การสูญเสียมากมายจะเกิดบาดแผลภายในใจ ใช้เวลาไปทั้งชีวิตเพื่อให้ทำมันให้ได้มันก็มีความเป็นไปได้ว่าจะไม่สามารถขจัดมันไปได้เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...