ตอนที่ 50 เวลาของเขาแพงกว่าทองคำเสียอีก
เพียงแต่ รอจนถึงตอนที่ดูสัญญา มู่ลี่เหยียนก็เพิ่งพบว่าตนคิดผิดไปแล้ว
ทนายความที่มู่น่อนน่อนพามาไม่ใช่คนไม่มีความสามารถ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบมากอีกด้วย
ทนายความที่ “เฉินเจียฉิน” ให้มู่น่อนน่อนยืมตัวชื่อว่าฟู้ถิงซี ดูแล้วก็สุขุมละเอียดรอบคอบ
ฟู้ถิงซีเมื่อครู่ก็พอจะมองออกว่า มู่ลี่เหยียนมองเขาด้วยสายตาดูถูก แต่เขายังคงไม่แสดงอาการอะไร
รอจนกระทั่งตอนที่ทนายความของมู่ลี่เหยียนเอาสัญญาโอนหุ้นออกมา สายตาที่ร้ายกาจของฟู้ถิงซีก็หาช่องโหว่เหล่านั้นจนเจอ
มู่ลี่เหยียนไม่ได้รู้เรื่องนี้เท่าไหร่ แต่ทนายความของเขาหน้าซีดไปเรียบร้อยแล้ว เขาก็พอจะเข้าใจขึ้นมา ทนายความที่มู่น่อนน่อนพามาเก่งมากจริงๆ
เขารีบพูดกับมู่น่อนน่อน: “น่อนน่อน ช่วงนี้บริษัทของพวกเรายุ่งมาก ดังนั้นสัญญามีความผิดพลาดก็คงจะเป็นเรื่องปกตินะ”
ฟู้ถิงซียิ้มอย่างเย็นชา: “อย่างนั้นหรือครับ? ช่องโหว่ของสัญญาที่ง่ายๆขนาดนี้ นักศึกษาฝึกงานที่เพิ่งจบใหม่ต่างก็มองออกกันทั้งนั้น ยิ่งไปกว่านั้นที่ปรึกษาด้านกฎหมายของบริษัทคุณที่ทำอาชีพนี้มาตั้งสามปีขึ้นไปแล้วล่ะครับ?”
มู่น่อนน่อนประหลาดใจนิดหน่อย เขารู้ได้อย่างไรว่าทนายความที่มู่ลี่เหยียนพามาทำงานมาอย่างน้อยสามปีขึ้นไปแล้ว?
สายตาของทนายความดีขนาดนี้เชียวหรือ?
มู่น่อนน่อนไม่ได้เอาความประหลาดใจปรากฏออกมาบนใบหน้า แต่กลับพูดอย่างนุ่มนวล: “พ่อคะ ควรเปลี่ยนทนายความได้แล้วนะคะ”
มู่ลี่เหยียนหันไปด่าทนายความของตน: “นายจัดการเรื่องนี้อย่างไร แค่สัญญาการโอนก็ยังทำไม่ดี ฉันจะจ้างนายไว้ทำประโยชน์อะไร!”
ทนายความของเขารีบก้มหัวยอมรับผิด: “ขอโทษครับท่านประธาน เป็นความผิดของผมเอง ผมอาจจะหยิบสัญญามาผิดครับ”
เขาพูดแล้ว ก็หยิบสัญญาชุดใหม่ออกมาจากกระเป๋าหนังสือราชการ
มู่ลี่เหยียนแฝงกายอยู่ในวงการค้านี้มาหลายปีแล้ว ไม่มีความสามารถไหนที่เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเขาก็เตรียมไว้ทั้งสองชุดตั้งแต่แรกแล้ว
สัญญาที่มีช่องโหว่หนึ่งชุด สัญญาที่เป็นปกติหนึ่งชุด
ฟู้ถิงซีรับสัญญาโอนหุ้นฉบับใหม่มาดูอย่างละเอียดเรียบร้อยแล้ว ก็หันไปทางมู่น่อนน่อนแล้วพยักหน้า: “ไม่มีปัญหาครับ”
......
หลังทำหนังสือโอนหุ้นเสร็จเรียบร้อย มู่น่อนน่อนสั่งชุดน้ำชายามบ่ายมาสองชุด นำกลับบ้าน
สำหรับค่าใช้จ่ายนั้น? แน่นอนว่ามู่ลี่เหยียนเป็นคนจ่าย
ออกมาจากร้านอาหารจีนติ่ง มู่น่อนน่อนก็เอาชุดน้ำชายามบ่ายหนึ่งชุดในนั้นให้กับฟู้ถิงซี พูดอย่างยิ้มแย้ม: “ทนายความฟู้ วันนี้ลำบากคุณแล้ว”
“คุณนางเฉิน เกรงใจเกินไปแล้ว”
แม้ว่าปกติฟู้ถิงซีจะไม่รับกรณีเล็กๆอย่างนี้ แต่อย่างไรเสียเขาก็เป็นลูกจ้างของเฉินถิงเซียว ทั้งยังเห็นแก่มิตรภาพกับเขา เรื่องนี้ของมู่น่อนน่อนก็ไม่ได้ลำบากเขาจึงไม่ปฏิเสธ
ยังมีอีกหนึ่งเหตุผลคือ เขาก็อยากจะเห็น คุณนางเฉินที่เล่าลือกันว่าจะขี้เหร่สักเพียงไหน
แม้ว่าจะแต่งกายเรียบๆไม่หรูหรา แต่จากสายตาของผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่อย่างเขา ไม่เพียงแต่ไม่ขี้เหร่ แต่กลับสวยมากๆ
คนสวยอยู่ข้างในไม่ได้อยู่ข้างนอก มู่น่อนน่อนก็คงจะเป็นคนประมาณนี้
ตอนที่ยิ้มออกมา ก็ยิ่งรู้สึกสดใส
“ขอบคุณมากๆเลยนะคะที่คุณมาช่วย คุณคงจะยุ่งมาก ฉันก็ขอเอาของขวัญนี้ทำหน้าที่เลี้ยงน้ำชายามบ่ายคุณแล้วกันนะคะ” จากสไตล์ที่ดุเดือดของเขาก็พอจะมองออก เขาต้องเป็นทนายความที่เก่งมากแน่ๆ ยิ่งเป็นคนเก่งก็ยิ่งได้รับความชื่นชมแล้วก็ยิ่งยุ่งมากด้วย
ฟู้ถิงซีเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยจริงใจของเธอ ก็ยื่นมือไปรับมา
เขาจะได้เอากลับไปให้กู้จือหยั่นกิน นายคนนั้นเหมือนกับหมูกลับชาติมาเกิด กินทุกอย่าง
มู่น่อนน่อนออกไปก่อน มู่ลี่เหยียนกับทนายความของเขาออกมาทีหลัง
จริงๆมู่ลี่เหยียนค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นว่า มู่น่อนน่อนไปหาทนายความที่เก่งขนาดนี้มาจากไหน ก็เดินเข้าไปสอบถาม: “คุณครับ ขอเวลาสักครู่นะครับ”
สีหน้าที่เคร่งขรึมของฟู้ถิงซีมองไปทางมู่ลี่เหยียน: “คุณมู่มีอะไรหรือครับ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...