มู่น่อนน่อนทำท่าทางเหมือนเพิ่งจะนึกขึ้นได้ “ฉันต้องนัดหมายล่วงหน้าด้วยเหรอคะ”
“ค่ะ” หญิงสาวที่แผนกต้อนรับยังคงยิ้มรับ แต่ดวงตาของเธอยังคงดูถูกเหยียดหยามไม่หยุด
มู่น่อนน่อนเข้าใจความคิดของพวกเธอดี ในใจของพวกเธอ มู่น่อนน่อนเป็นแค่อดีตภรรยาที่อยากจะกลับมาคืนดีกับเฉินถิงเซียว
ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้เฉินถิงเซียวยังมี “คู่หมั้น” อย่างซูเหมียน และ “ลูกสาวที่มีกับคู่หมั้น”แล้ว แต่มู่น่อนน่อนยังคงหน้าด้านไม่ยอมตัดใจ
ในสายตาของคนภายนอก ตอนนี้มู่น่อนน่อนอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดและไม่อยู่ในฐานะที่เป็นผู้ถูกต้องโดยสิ้นเชิง
มู่น่อนน่อนแสร้งทำเป็นไม่เห็นสีหน้ารังเกียจของพวกเธอ แล้วถามต่อ “ถ้าฉันอยากจะเข้าไปเจอเขา ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะนัดเจอได้คะ?”
ผู้หญิงที่แผนกต้อนรับหัวเราะเยาะและพูดด้วยน้ำเสียงสะใจ “ตารางนัดหมายของท่านประธานถูกกำหนดไว้แน่นจนถึงปีหน้าเลยค่ะ ถ้าคุณนัดหมายตอนนี้ คุณคงจะได้พบเขาเป็นอีกครึ่งปีหลังจากนี้ค่ะ”
ครึ่งปีหลังจากนี้ถึงจะได้พบเขา
เสียงนี้ฟังดูแล้ว เหมือนครึ่งปีจะแค่ครึ่งวัน
“ต้องรอนานขนาดนั้นเลยเหรอคะ...” มู่น่อนน่อนพูดด้วยน้ำเสียงเสียดาย เธอรู้อยู่แล้วว่าเฉินถิงเซียวงานยุ่งมาก แต่เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะงานยุ่งถึงขนาดนี้
พนักงานต้อนรับพูดเสริมอีกประโยคหนึ่ง “ใช่ค่ะ แต่ครึ่งหลังจากนี้ ก็ไม่แน่ว่าคุณจะไม่สามารถนัดเจอท่านได้”
“อยากเจอเขาสักครั้งช่างยากลำบากจริงๆ” มู่น่อนน่อนพูดด้วยใบหน้าผิดหวัง
สือเย่ที่เพิ่งจอดรถแล้วเข้ามาจากด้านนอก ก็ได้ยินคำพูดของมู่น่อนน่อนพอดี
เปลือกตาของเขากระตุก และเขารู้ได้โดยสัญชาตญาณเลยว่าคุณนายน้อยที่น่าเคารพกำลังคิดจะก่อปัญหา
เขาเตรียมจะเดินเข้าไปหา แต่ถูกสายตาของมู่น่อนน่อนที่มองกลับมาที่เขาเหมือนจะบอกให้เขา “ไม่ต้องเข้ามายุ่ง”
สือเย่ต้องแสร้งทำเป็นไม่เห็นมู่น่อนน่อน แล้วเดินออกไปอีกครั้ง
ผู้หญิงที่แผนกต้อนรับไม่ได้สังเกตว่าสือเย่เข้ามาและออกไปแล้ว
“เพราะยังไงท่านประธานก็ไม่ใช่คนธรรมดานี่คะ” ผู้หญิงที่แผนกต้อนรับพูดกับมู่น่อนน่อนอยู่นาน จึงเริ่มหมดความอดทน “คุณมู่ ต้องการนัดหมายล่วงหน้าไหมคะ”
มู่น่อนน่อนแสร้งทำเป็นแปลกใจ แล้วพูดว่า “คุณรู้จักฉันจริง ๆ ด้วย?”
“ตอนนี้ทั่วทั้งเมืองหู้หยางคงจะมีน้อยคนค่ะ ที่ไม่รู้จักคุณมู่” ผู้หญิงที่แผนกต้อนรับไม่สนใจแม้แต่จะเสแสร้งแกล้งทำแล้ว
“จริงเหรอคะ” มู่น่อนน่อนยกยิ้ม “งั้นพวกคุณทำงานต่อเถอะค่ะ ฉันไม่รบกวนเวลาพวกคุณแล้ว”
“คุณมู่จะไม่นัดหมายล่วงหน้าไว้ก่อนเหรอคะ”
“ไม่ล่ะค่ะ ฉันจะโทรหาเขาโดยตรงเลยดีกว่า” หลังจากที่มู่น่อนน่อนพูดจบ เธอก็ยิ้มให้ผู้หญิงที่แผนกต้อนรับ แล้วหันหลังกลับไปนั่งลงบนโซฟาเพื่อโทรหาเฉินถิงเซียว
แผนกต้อนรับไม่ได้สนใจคำพูดของมู่น่อนน่อน พอมู่น่อนน่อนหันหลังเดินจากไป พวกเธอก็เริ่มพูดซุบซิบนินทาทันที
“ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงที่หน้าด้านไร้ยางอายแบบนี้มาก่อนเลย!”
“เป็นข่าวขึ้นหน้าหนึ่ง แล้วยังกล้ามาหาท่านประธานของเราอีก ไม่รู้ว่าเธอเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
“ใช่ ท่านประธานของเรามีลูกสาวแล้ว เธอยังไม่ยอมตายใจอีก”
“ทำลายความรักของคนอื่น...”
มู่น่อนน่อนเอียงหูแล้วแอบฟังเล็กน้อย
ปรากฏว่าตอนนี้คนเหล่านี้กำลังนินทาเรื่องของเธออยู่
มู่น่อนน่อนหัวเราะออกมา ไม่สนใจเลยสักนิด
เธอหาที่นั่งแล้วโทรหาเฉินถิงเซียวทันที
โทรศัพท์ดังขึ้นแค่สองครั้งอีกฝ่ายก็กดรับสายแล้ว
ทันทีที่เฉินถิงเซียวกดรับสาย เขาก็ถามขึ้นว่า “มีอะไรหรือเปล่า?”
ดูเหมือนว่าทุกครั้งที่เขารับโทรศัพท์จากเธอ เขาจะถามออกมาก่อนเสมอว่า“มีอะไรหรือเปล่า” กับ “เกิดอะไรขึ้น”
“ฉันอยู่ตรงชั้นล่างบริษัทเฉินซื่อค่ะ อยากจะเจอคุณสักครั้งช่างยากลำบากจริงๆ ตารางนัดหมายเต็มไปถึงครึ่งปีหน้า ฉันอยากจะนัดพบล่วงหน้า ก็นัดไม่ได้ ฉันควรทำยังไงดีคะ? “
เฉินถิงเซียวฟังน้ำเสียงเยาะเย้ยของมู่น่อนน่อนออก
เขาพูดโดยไม่เปลี่ยนน้ำเสียง รีบถามเธอว่า “แล้วสือเย่ล่ะ หายไปไหน”
“ฉันมาหาคุณ คุณถามถึงเขาทำไมคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...