ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 535

สรุปบท บทที่ 535 เมื่อกี้ฉันเห็นคุณ: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

สรุปเนื้อหา บทที่ 535 เมื่อกี้ฉันเห็นคุณ – ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดย Meow(○` 3′○)

บท บทที่ 535 เมื่อกี้ฉันเห็นคุณ ของ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม ในหมวดนิยายโรแมนซ์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Meow(○` 3′○) อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เพราะว่ามูลค่าข่าวของตัวมู่น่อนน่อนมันเยอะมาก นักข่าวบันเทิงพวกนั้นก็เลยจะยิ่งไม่มีทางปล่อยเธอไป

เมื่อกี้รถคันนั้นขับตามเธอมาตลอดทาง ถ้าไม่ใช่นักข่าวบันเทิง งั้นก็มีความเป็นไปได้อย่างเดียว...

มู่น่อนน่อนหรี่ตาลงเล็กน้อย คล้องแขนของฉินสุ่ยซาน ลากเธอเดินไปยังด้านในสตูดิโอ

“ไปกันเถอะ พวกเราปล่อยไปก่อนเถอะ”

ในเมื่อรถคันนั้นได้ขับออกไปแล้ว พวกเธอยืนครุ่นคิดพิจารณากันอยู่ที่นี่ไปมันก็ไม่มีความหมายอะไรเลยด้วย

ทั้งสองคนเข้าสตูดิโอไป มู่น่อนน่อนถือโอกาสช่องว่างระหว่างที่ไปชงกาแฟมา โทรไปหาเฉินถิงเซียว โทรศัพท์ดังอยู่สองทีก็ถูกคนรับสาย

เฉินถิงเซียวถึงแม้ว่าจะรับสาย แต่กลับไม่ได้พูดอะไรออกมา

มู่น่อนน่อนก็เลยต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากถามเขาออกไปก่อน “คุณส่งคนมาตามฉัน?”

ทางนั้นเงียบอยู่แป๊บนึง จากนั้นก็มีเสียงเย็นชาของเฉินถิงเซียวดังขึ้นมา “เปล่า”

น้ำเดือดแล้ว มู่น่อนน่อนเอาแก้วไปวางที่ช่องรับน้ำ หลังจากที่เปิดสวิตช์ ก็ได้ค่อยๆพูดออกไป “คุณรู้หรือเปล่า? ตอนที่คุณปากแข็ง น้ำเสียงที่พูดจะฟังดูเย็นชากว่าตอนที่พูดคุยปกติไปนิดนึงอย่างไม่รู้ตัว”

สิ่งที่ตอบเธอกลับมา คือความเงียบประหนึ่งได้ตายไปช่วงนึงก็ไม่ปาน จากนั้นก็มีเสียง “ตู๊ด” ของการถูกตัดสายไปดังขึ้นมา

มู่น่อนน่อนวางโทรศัพท์ลง แสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย

ผู้ชายคนนี้ บางครั้งดื้อดึงปากแข็งเสียจนน่ารัก บางครั้งก็ยึดติดกับบางอย่างมากเกินไปเสียจนน่าเกลียดสุดๆด้วยอีก

จะทำยังไงได้ล่ะ?

ทั้งยังไม่สามารถแยกทางกันไปได้อีกด้วย ทำได้แค่เพียงค่อยเป็นค่อยไป

……

มู่น่อนน่อนก่อนที่จะประชุม ก็ได้เข้าไปดูWeiboอีกแป๊บนึง เธอพบว่าคำค้นหายอดนิยมที่ติดเทรนอันดับหนึ่งได้ถูกหัวข้อประเด็น “เจ้าหญิงน้อยของบริษัทเฉินซื่อ” ขึ้นมาบนสุดอีกที

คนพวกนี้อยากรู้อยากเห็นเรื่องเฉินมู่และแม่ผู้ให้กำเนิดของเฉินมู่มากเลย ไถกันจนขึ้นคำค้นหายอดนิยมกันเลย

มู่น่อนน่อนนั่งอยู่ข้างๆฉินสุ่ยซาน พลางเอียงหัวไปถามเธอเบาๆ “ยกเลิกคำค้นหายอดนิยมได้ยังไง? ติดต่อทางแพลตฟอร์มไปโดยตรงได้เลยหรือเปล่า?”

“เธออยากจะยกเลิกคำค้นหายอดนิยมอะไร?” ฉินสุ่ยซานหันหน้ามา ก็มีท่าทีมองทะลุไปถึงความคิดที่อยู่ในก้นบึ้งภายในใจของเธอออกมา

มู่น่อนน่อนเลิกคิ้วออกมาเล็กน้อย “ไม่บอกก็ช่างมันเถอะ”

“พูดแล้วๆๆ ฉันจะไม่บอกได้ยังไง ฉันว่านะ ตอนนี้เธออยู่ต่อหน้าฉัน นับวันจะยิ่งกำเริบเสิบสานขึ้นมาเรื่อยๆแล้ว” ฉินสุ่ยซานพูดมาอย่างนี้ แต่ก็ยังบอกวิธีการยกเลิกคำค้นหายอดนิยมกับเธอมา ทั้งยังช่วยเธอติดต่อกับคนของทางแพลตฟอร์มไปด้วย

มู่น่อนน่อนติดต่อคนของทางแพลตฟอร์มมาได้แล้ว ตกลงราคากันไปเรียบร้อย เพียงไม่นานคำค้นหายอดนิยมก็ได้ยกเลิกไป

หลังจากการประชุมได้สิ้นสุดลง ฉินสุ่ยซานก็ข่มกลั้นความอยากรู้ภายในใจเอาไว้ไม่อยู่ “เด็กคนนั้น ก็คือลูกสาวของเธอกับเฉินถิงเซียวใช่มั้ย? พวกเธอยังคบอยู่ด้วยกันอยู่ใช่มั้ย?”

มู่น่อนน่อนเบือนหน้าไป มองฉินสุ่ยซานไปอย่างไม่สะทกสะท้าน ยิ้มพลางเอ่ยออกไป “เธออยากรู้?”

“อืม” ฉินสุ่ยซานพยักหน้ายอมรับออกมาเล็กน้อย

รอยยิ้มบนใบหน้าของมู่น่อนน่อนได้กดลึกขึ้นกว่าเดิม “ทายเอาเองสิ”

ฉินสุ่ยซานฉีกดึงมุมปากออกมาเล็กน้อย โกรธจนอยากจะตีมู่น่อนน่อนเลยทีเดียว “ความสัมพันธ์ของพวกเราก็เป็นอย่างนี้แล้ว เธอยังไม่พูดความจริงกับฉันอีก?”

“ใช่แล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเราดีขนาดนี้แล้ว ตอนเที่ยงฉันเลี้ยงข้าวเธอเป็นไง?” มู่น่อนน่อนยิ้มพลางเอ่ยออกไป

ฉินสุ่ยซานรู้สึกว่าหมัดที่ชกออกไปที่อีกฝ่ายของตนเหมือนกับชกเข้าไปที่สำลีเลยก็ไม่ปาน แต่มู่น่อนน่อนกลับรำมวยจีนมากับเธอ เธอเองก็อับจนหนทางไปด้วย

ถึงแม้ว่าภายในใจเธอคาดเดาว่าเด็กน้อยที่ปรากฏตัวที่งานเลี้ยงวันนั้น ก็คือลูกสาวของเฉินถิงเซียวกับมู่น่อนน่อน แต่ตลอดทั้งวันมู่น่อนน่อนไม่ปริปากยอมรับออกมา เธอก็ไม่สามารถมั่นใจมากไปว่านั่นก็คือลูกสาวของพวกเขาได้

ใครมันจะไม่มีความอยากรู้อยากเห็นในใจเลยสักนิดเดียวบ้าง?

ฉินสุ่ยซานคิดว่าคนเรา เธอแทบจะถูกความอยากรู้อยากเห็นในใจอันนั้นทำเอาจะเป็นบ้าอยู่แล้ว แต่มู่น่อนน่อนก็ไม่ได้ให้เธอได้สำราญใจสักหน่อยเลยเช่นกัน

ฉินสุ่ยซานตัดสินใจจะฆ่ามู่น่อนน่อนไปสักยกนึง

เธอมองมู่น่อนน่อนไปแวบนึง พลางเอ่ยออกไปด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ “ฉันจะไปกินที่โรงแรมจีนติ่ง!”

เธอมองดูเมนูอาหารไปแป๊บนึง สั่งอาหารไปก่อนสองอย่าง แล้วก็รอฉินสุ่ยซานเข้ามา

มู่น่อนน่อนมองไปทางฉินสุ่ยซานแวบนึง รู้สึกเบื่อหน่ายอยู่บ้าง จึงหันไปมองทางอื่น

ในทันใดนั้นเอง เธอเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่งในกลุ่มคน

เธอมองเงาร่างที่คุ้นเคยร่างนั้น แล้วส่งเสียงเรียกพึมพำออกมา “ลี่จิ่วเชียน?”

ลี่จิ่วเชียนวันนี้สวมชุดลำลองสีดำตลอดทั้งตัวมาโดยที่หาเจอได้ยากมากจากเขา ผมยาวกว่าปกติอยู่บ้าง เนื่องจากระยะห่างออกมาไกลหน่อย มู่น่อนน่อนจึงมองเห็นสีหน้าของเขาไม่ชัด

แต่ถึงยังไงก็เคยอยู่ร่วมกันมาเป็นช่วงเวลาหนึ่ง แค่แวบตาเดียวมู่น่อนน่อนก็จำได้แล้วว่าเป็นเขา

แต่ทว่า ในความทรงจำของเธอ ลี่จิ่วเชียนชอบสวมชุดสีอ่อนมาโดยตลอด เพราะความเกี่ยวข้องกับงาน เขาเหมือนกับเฉินถิงเซียว ทุกวันก็จะสวมชุดสูทอยู่ตลอด

นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เห็นลี่จิ่วเชียนสวมชุดลำลองเลย ก็เลยรู้สึกว่ามันหาเจอได้ยากอยู่บ้าง

ลี่จิ่วเชียนกำลังยืนพูดอะไรบางอย่างกับพนักงานอยู่ที่ตรงนั้น

ระยะห่างห่างออกมาค่อนข้างไกล มู่น่อนน่อนไม่กล้าเรียกเขาด้วยเหมือนกัน จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเขา

ตอนที่เธอต่อสายไป สายตาได้จับจ้องไปที่ลี่จิ่วเชียนไปอย่างไม่ละสายตา

เพียงแต่ว่านาทีก่อนที่จะต่อสายติด ลี่จิ่วเชียนก็ได้ผันร่างเดินออกไปเสียแล้ว

หลังจากที่โทรติด เสียงดังขึ้นมาหลายครั้ง กว่าจะถูกลี่จิ่วเชียนรับสาย

เสียงของลี่จิ่วเชียนเหมือนกับเมื่อก่อน ประดับไปด้วยความรู้สึกเชิงเย้าหยอกออกมา “น่อนน่อน? ทำไมวันนี้ถึงได้มีเวลาโทรหาผมได้?”

มู่น่อนน่อนหัวเราะตามออกมาเล็กน้อย แล้วเอ่ยออกมา “เมื่อกี้ฉันเห็นคุณ คุณก็มากินข้าวที่โรงแรมจีนติ่งด้วยเหมือนกันเหรอ?”

ลี่จิ่วเชียนที่อยู่ทางปลายสายเงียบไปครู่ใหญ่ๆ มู่น่อนน่อนส่งเสียงเรียกเขาออกไปอีกครั้งด้วยความสงสัยเล็กน้อย “ลี่จิ่วเชียน?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม