ในเมื่อ“ลี่จิ่วชัง”ก็คือลี่จิ่วเชียนจริงๆ แล้วทำไมก่อนหน้านี้อาลั่วฟังเธอพูดถึงลี่จิ่วเชียนต้องมีปฏิกิริยาแบบนั้นล่ะ?
มู่น่อนน่อนนึกถึงปฏิกิริยาทั้งหมดทั้งมวลของ“ลี่จิ่วชัง”ในก่อนหน้านี้
ตอนที่เธอเพิ่งมาถึงประเทศM ก็แค่“ลี่จิ่วชัง”กับลี่จิ่วเชียนหน้าตาเหมือนกันเกินไป ความรู้สึกที่คล้ายคลึงก็ไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น
แต่หลังจากไปมาหาสู่กับเขา ถึงยิ่งอยู่ยิ่งรู้สึกว่า“ลี่จิ่วชัง”กับลี่จิ่วเชียนเหมือนกันมาก
นี่เป็นเพราะอะไร?
คนเดียวกันจะมีใบหน้าได้ถึงสองใบเหรอ?
……
หลังจากลี่จิ่วเชียนพูดความจริงกับมู่น่อนน่อน ชีวิตของมู่น่อนน่อนได้เกิดการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย
หลายวันก่อน คนรับใช้และบอดี้การ์ดในวิลล่าแค่ติดตามเธออย่างรักษาระยะห่าง ไม่ถึงขั้นไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียว
แต่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอพบว่าข้างกายเธอมักจะมีคนรับใช้หรือว่าบอดี้การ์ดคอยติดตามอยู่เรื่อยเลย
มู่น่อนน่อนหงุดหงิดสุดๆ เธอได้เปิดประตูห้องน้ำและถามด้วยน้ำเสียงที่แย่:“ฉันไปเข้าห้องน้ำ พวกเธอก็จะเข้าไปดูด้วยเหรอ?”
คนรับใช้ก้มหน้าไว้ ทำหน้าเคารพอย่าง
ระมัดระวังจนถึงขั้นหวาดกลัว
มู่น่อนน่อนเห็นแล้วอารมณ์ขึ้น
ในวิลล่าหลังนี้ ถึงแม้คนรับใช้กับบอดี้การ์ดมีเป็นฝูงเลย แต่คนที่จะเปิดปากพูดก็มีแค่ลี่จิ่วเชียนกับอาลั่วเท่านั้น
ตอนนี้เธอเห็นลี่จิ่วเชียนทีไรก็มีความรู้สึกที่เกลียดขี้หน้าอย่างบอกไม่ถูกทุกที
ส่วนอาลั่วก็ยิ่งอยู่ยิ่งไม่ชอบหน้าเธอแล้วเหมือนกัน
ก่อนหน้านี้อาลั่วยังเก็บซ่อนท่าทีของไว้ ช่วงสองวันนี้ อาลั่วแสดงออกมาได้ตรงไปตรงมาเป็นพิเศษ
มู่น่อนน่อนเข้าไปในห้องน้ำ ตอนที่ปิดประตู เห็นคนรับใช้ยังก้มหน้าก้มตัวยืนอยู่ที่หน้าห้องน้ำ ก็ได้ปิดประตูดัง“ปัง”ทีนึง
มู่น่อนน่อนเอามือกอดอกไว้ ได้เดินไปมาอยู่ในห้องน้ำ
ห้องน้ำเป็นพื้นที่ๆปิดผนึกหมด มี
แค่ช่องระบายอากาศอันเดียว ความเป็นจริงไม่ใช่ถ่ายหนังสักหน่อย เธอเองก็ไม่ใช่หน่วยพิเศษสักหน่อย จึงย่อมไม่สามารถงัดช่องระบายอากาศออกและหนีออกไปอยู่แล้ว
สุดท้าย มู่น่อนน่อนก็ได้กดชักโครกอยู่ดี แกล้งทำเป็นตัวเองเข้าห้องน้ำแล้วถึงออกไป
คนรับใช้คนนั้นได้เฝ้าอยู่ที่หน้าห้องอีกจริงๆด้วย
มู่น่อนน่อนมองคนรับใช้แว๊บนึง จากนั้นได้เดินไปรินน้ำร้อนที่ห้องครัวแก้วนึงแล้วขึ้นชั้นบนไป
อากาศยิ่งอยู่ยิ่งหนาว เฉินมู่นับวันก็ยิ่งขี้เกียจลุกจากเตียงแล้ว ตอนเช้าไม่ยอมลุกจากเตียงสักที ถึงถูกมู่น่อนน่อนล้วงออกมาจากเตียง หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จก็จะแอบชิ่งกลับมาหลบอยู่ในห้องนอน
วิลล่าได้เปิดเครื่องทำความร้อนไว้หมด ก็ไม่รู้ว่าเพราะเครื่องทำความร้อนในห้องของเธออุ่นกว่าหรือเปล่า
มู่น่อนน่อนยกน้ำร้อนไว้ พร้อมผลักประตูห้องนอนของเฉินมู่
เสียงที่เธอผลักประตูค่อนข้างเบา เฉินมู่นั่งเล่นของเล่นอยู่บนเตียง เธอเล่นได้อินเกินไป เลยไม่ได้ยินเสียงที่มู่น่อนน่อนเข้ามา
มู่น่อนน่อนปิดประตูเบาๆ หลังจากเดินเข้ามาใกล้ ก็ได้ยินเฉินมู่พูดพึมพำว่า:“อันนี้คือมู่มู่ อันนี้คือแม่ อันนี้คือเฉินชิงเซียว……อันนี้ไม่ใช่เฉินชิงเซียว……เฉินชิงเซียวหน้าดุ……”
หลังจากมู่น่อนน่อนได้ยินคำพูดตอนท้ายก็ได้หยุดลงมา
เฉินมู่ยังพึมพำและพูดเองเออเองอยู่คนเดียว
เธอยังจำน้ำเสียงที่เฉินถิงเซียวพูดจาได้ ได้แกล้งพูดอย่างดุร้ายคำนึงว่า:“ไม่ได้!หนูไปไม่ได้!”
แต่เสียงใสแบ๊วของเธอฟังแล้วไม่ดุเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...